สภาพร่องรอยฟกช้ำตามร่างกายของครูโรงเรียมัธยมแห่งหนึ่ง หลังถูกเด็กนักเรียนทำร้ายร่างกาย เนื่องจากไม่พอใจที่ครูจะตัดผม จึงผลักครูจนล้มลงก่อนจะทำร้ายร่างกายโดยใช้เก้าอี้ฟาดใส่ครู แถมยังคว้ากรรไกรจะแทงครูด้วย เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง อ.เมือง จ.เลย
ทีมข่าวลงพื้นที่ไปสอบถามผู้บาดเจ็บ เป็นครูสอนวิชาสังคม เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า เมื่อวานนี้ ( 31 พ.ค.) ช่วงคาบเรียนชั่วโมงสุดท้าย
อ้างรู้เท่าไม่ถึงการณ์! ครูตัดผมนักเรียนโพสต์เฟซบุ๊กประจาน
เด็กม.3 เขม่นกันพกมีดกะซวกเพื่อนหน้าชั้นเรียน
มีเด็กชายคนหนึ่ง เป็นเด็กนักเรียนชั้น ม.2 อายุ 14 ปี สภาพไว้ผมยาวผิดระเบียบ ครูจึงเรียกให้มาตัดผมในห้องเรียนต่อหน้าเพื่อนหลายคน แต่ระหว่างนั้นอยู่ๆเด็กก็ผลักครูจนล้มลง และทำร้ายครูด้วยการใช้เท้าเหยียบที่หน้าอกประมาณ 3-4ครั้ง และเอาเก้าอี้พลาสติกฟาดตามร่างกายครู จากนั้นตนเองเห็นเด็กกำลังจะเข้าไปหยิบกรรไกรตัดผมซึ่งตกอยู่ที่พื้น
แต่ตนเห็นท่าไม่ดีจึงรีบเข้าไปคว้าตัวเด็กเองไว้ก่อนเพื่อแย่งกรรไกรคืนมา ต่อมาเพื่อนๆในห้องเรียนก็เข้ามาช่วยห้ามปราม ซึ่งตนเองไม่ได้มีการต่อสู้หรือทำร้ายร่างกายเด็กแต่อย่างใด
ครูบอกอีกว่าสำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในฐานะที่เป็นครูก็คงจะไม่เอาเรื่องกับเด็ก เพราะยังไงก็เป็นลูกศิษย์ของตนเอง แต่เบื้องต้นได้รายงานเรื่องดังกล่าวให้กับผู้ปกครองรับทราบแล้วโดยหลังจากนี้คงปล่อยให้เป็นหน้าที่ของฝ่ายปกครองเป็นผู้ดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
ล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา ทางโรงเรียนได้เชิญตัวพ่อแม่ของเด็กนักเรียนชั้น ม.2 ที่ก่อเหตุทำร้ายร่างกายครูเข้าพบเพื่อพูดคุยกับทาง รอง ผอ.โรงเรียนฯ และครูฝ่ายปกครอง โดยใช้เวลาในการประชุมหารือกันประมาณ 40 นาที
ด้านนางมนพร ปุณยพงศ์ รอง ผอ.โรงเรียนฯ เปิดเผยว่า จากการสอบถามพ่อและแม่ รวมทั้งตัวเด็กนักเรียนแล้ว
โดยเบื้องต้นทางพ่อแม่ของเด็กไม่ได้พูดอะไร ส่วนเด็กนักเรียนผู้ก่อเหตุบอกว่าไม่มีเหตุจูงใจอะไรและไม่เคยโกรธแค้นครู เพียงแค่เด็กเขากลัวจะถูกครูตัดผม และน้องเป็นเด็กที่มีอารมณ์รุนแรงหากคิดจะทำอะไรก็ทำเลยโดยไม่เหตุผล แต่วันนี้ได้พูดคุยกับพ่อแม่และน้องเพื่อปรับความเข้าใจกันแล้ว
ส่วนกรณีที่เด็กมีการส่งข้อความข่มขู่ครู ในไลน์กลุ่มเพื่อนๆนั้นก็ไม่คิดว่าจะเป็นจริง จนกระทั่งมาเกิดเหตุดังกล่าว แต่จากการสอบถามพบว่าน้องก็เคยก่อเหตุมาแล้วครั้งหนึ่งกับครูสาว แต่ไม่ถึงกับลงไม้ลงมือหนักแบบนี้
พร้อมขอให้ทางผู้ปกครองช่วงนี้ให้น้องพักเรียนไปก่อน 2-3 วัน เพื่อให้ผู้ปกครองไปพูดคุยปรับความเข้าใจกับตัวเด็ก
แต่ยืนยันว่าทางโรงเรียนไม่เคยทอดทิ้งนักเรียน และยินดีที่จะให้ความช่วยเหลือนักเรียนทุกคน โดยจะหาครูคอยดูแลใกล้ชิดระหว่างอยู่ที่โรงเรียนเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ขึ้นซ้ำอีก
เด็กน้อย ร่อนจดหมายร้องขอความเป็นยุติธรรม หลังแม่ต้องโทษติดคุก
อนามัยโลกชี้ “ฝีดาษลิง” เป็น “ภัยเสี่ยงระดับปานกลาง” ต่อสาธารณสุขโลก