ในปัจจุบันสังคมมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วอยู่ตลอดเวลา ส่งผลกระทบต่อชีวิตของเราไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ดังนั้นการที่มนุษย์จะสามารถดำเนินชีวิตในสังคมได้นั้น จำเป็นที่จะต้องปรับตัว
แต่การจะปรับตัวเองได้นั้น จะต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองผ่านการเรียนรู้ เพื่อให้เท่าทัน ด้วยการปรับความรู้ให้ทันสมัยอยู่เสมออย่างต่อเนื่อง อย่าง “การเรียนรู้ตลอดชีวิต” หรือ “Lifelong Learning”
1 ปีมีครั้งเดียว! "ปรากฏการณ์กุ้งเดินขบวน" ที่แก่งลำดวน 1-30 ก.ย.นี้
โดย ดร.กฤษพร อยู่สวัสดิ์ นิสิตปริญญาเอก คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการเรียนรู้ตลอดชีวิต ซึ่งปัจจุบันได้กลายเป็นแนวทางการศึกษาใหม่ในศตวรรษที่ 21 ไปแล้ว ผ่านงานวิจัย “แนวทางในการส่งเสริมการเป็นผู้เรียนรู้ตลอดชีวิต สำหรับนักเรียนประถมศึกษา” มีข้อมูลที่น่าสนใจดังนี้
Lifelong Learning การศึกษายุคใหม่
“การเรียนรู้ตลอดชีวิต” หรือ “Lifelong Learning” คือ การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมที่เกิดจากการรับรู้ข้อมูล ข่าวสาร ความรู้ ทักษะและประสบการณ์ต่าง ๆ ผสมผสานกันอย่างต่อเนื่องตลอดชีวิตของแต่ละคนตั้งแต่เกิดจนตาย
การเรียนรู้ตลอดชีวิตจึงกลายมาเป็นหลักการศึกษาในปัจจุบันที่นานาประเทศ รวมถึงประเทศไทยได้ตระหนักถึงความสำคัญและได้จัดการศึกษาเพื่อพัฒนาบุคคลให้เป็นผู้เรียนรู้ได้ตลอดชีวิต
ดังที่เห็นได้จากกฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และแผนการศึกษาแห่งชาติได้กำหนดหมุดหมายให้ทุกคนทุกช่วงวัยมีทักษะ ความรู้ ความสามารถ สามารถพัฒนาตนเอง แสวงหาความรู้และเรียนรู้ได้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต
การเรียนรู้ตลอดชีวิต ตัวช่วยให้อยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข
ในโลกปัจจุบันและอนาคตที่ดูเหมือนว่าจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ทั้งสภาพสังคม เศรษฐกิจ ความเจริญก้าวหน้าทางวิทยาการและเทคโนโลยีสมัยใหม่ ทั้งหมดนี้ล้วนส่งผลกระทบต่อคนเราทั้งสิ้น การเรียนรู้ตลอดชีวิต เพื่อปรับความรู้ให้เท่าทันอยู่เสมอ จึงเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยให้คนสามารถดำเนินชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างเหมาะสม
โดยเราเรียกผู้ที่มีการรับรู้ข้อมูลข่าวสารใหม่ ๆ อยู่เสมอ ว่า “ผู้เรียนรู้ตลอดชีวิต” หรือ “Lifelong Learner” ซึ่งในความหมายทั่วไปหมายถึง ผู้ที่รับประสบการณ์เรียนรู้ทั้งที่เป็นแบบทางการ (Formal Learning) และไม่เป็นทางการหรือการเรียนรู้ตามอัธยาศัย (Informal Learning) เพื่อการมีชีวิตอยู่รอดและสามารถดำเนินชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างเหมาะสม และมีความสุขตลอดช่วงชีวิตของแต่ละบุคคลตั้งแต่เกิดจนตาย มีคุณลักษณะประกอบด้วย 5 ด้าน ดังนี้
1) ด้านเจตคติต่อการเรียนรู้
2) ด้านแรงจูงใจใฝ่เรียนรู้
3) ด้านความสามารถในการเรียนรู้
4) ด้านทักษะในการแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง
5) ด้านความสามารถในการสื่อสาร
เด็กประถมศึกษา วัยแห่งการพัฒนาทักษะเรียนรู้ตลอดชีวิต
การเรียนรู้ตลอดชีวิต จำเป็นต้องเริ่มปลูกฝังตั้งแต่เด็ก ๆ เพราะในงานวิจัยชิ้นนี้พบว่า เด็กในชั้นประถมศึกษาเป็นช่วงวัยที่เหมาะสมในการส่งเสริมให้เกิดทักษะการเรียนรู้ตลอดชีวิตมากที่สุด เนื่องจากมีความพร้อมทั้งด้านร่างกาย อารมณ์ สังคม และสติปัญญา และเป็นช่วงวัยแห่งการพัฒนาการเรียนรู้และทักษะต่าง ๆ ที่ค่อนข้างเด่นชัด
“เด็กประถมนับได้ว่าเป็นช่วงวัยที่เหมาะในการเตรียมความพร้อมให้มีนิสัยรักในการเรียนรู้ ซึ่งจะเป็นพื้นฐานที่ดีในการศึกษาต่อในระดับสูง และการเป็นผู้เรียนรู้ตลอดชีวิตที่มีคุณภาพ มีศักยภาพในการเรียนรู้ในช่วงวัยต่อๆ ไป” ดร.กฤษพร กล่าว
โดย 4 ตัวแปรที่ส่งผลต่อการเรียนรู้ตลอดชีวิตของนักเรียนชั้นประถมศึกษามากที่สุด คือ การมุ่งอนาคต รองลงมาได้แก่ การเห็นคุณค่าในตนเอง การรู้จักตนเอง และความเชื่ออำนาจในตัวเอง ตามลำดับ และในแต่ละตัวแปรมีแนวทางปฏิบัติตามบทบาทหน้าที่ที่เกี่ยวข้องของบุคคล 3 ฝ่าย ได้แก่ ผู้บริหารโรงเรียน ครู และผู้ปกครองนักเรียน เพื่อร่วมกันช่วยส่งเสริมสนับสนุนให้นักเรียนเป็นผู้เรียนรู้ตลอดชีวิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนี้
การส่งเสริมให้เป็น “ผู้มุ่งอนาคต”
ผู้บริหารสถานศึกษา : สร้างบรรยากาศในโรงเรียนให้เป็นบรรยากาศที่เอื้อต่อการเรียนรู้ที่หลากหลาย ส่งเสริมการเรียนรู้และประสบการณ์ทางอาชีพ รวมถึงการแนะนแนว
ครู : สร้างโอกาสให้ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน กิจกรรมการเรียนรู้แบบ Active Learning ได้เห็นได้สัมผัสและฝึกปฏิบัติจริง
ผู้ปกครอง : ปลูกฝังความรับผิดชอบ ความมีวินัย และทัศนคติเชิงบวก (Positive Attitude) ต่อการเรียน การศึกษา การทำงานและความมุ่งมั่นเพื่อความสำเร็จในชีวิตในอนาคต
การส่งเสริมให้เป็น “ผู้เห็นคุณค่าในตนเอง”
ผู้บริหารสถานศึกษา : ปลูกฝังจิตสำนึกรู้จักชื่นชมคนอื่นและเห็นคุณค่าในตนเอง พร้อมเปิดพื้นที่เชิงสร้างสรรค์ให้ผู้เรียนได้แสดงความสามารถอย่างหลากหลาย
ครู : สร้างแรงจูงใจและสนับสนุนให้ผู้เรียนได้มีโอกาสแสดงความรู้ ความสามารถที่สนใจ มีความถนัดหรือมีความภูมิใจจากการทำกิจกรรมการเรียนรู้ในวิชาต่าง ๆ
ผู้ปกครอง : ส่งเสริมสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพหรือต่อยอดในด้านที่ผู้เรียนมีความถนัดและมีความสนใจ เพื่อให้ผู้เรียนมีความภาคภูมิใจและมีความเชื่อมั่นในตนเอง
การส่งเสริมให้เป็น “ผู้รู้จักตนเอง”
ผู้บริหารสถานศึกษา : พัฒนาระบบการแนะแนวของโรงเรียนให้มีประสิทธิภาพ เพื่อให้การแนะแนวเป็นช่องทางในการส่งเสริมการเรียนรู้ที่มีคุณภาพและการรู้จักตนเองของผู้เรียน
ครู : ส่งเสริมสนับสนุนให้ผู้เรียนมีทักษะหรือความสามารถในการวิเคราะห์ตนเอง (Self-Analysis) เพื่อให้ผู้เรียนรู้จักตนเอง รู้จักความต้องการของตนเอง รู้จักที่จะยอมรับตนเอง และพัฒนาตนเองให้เต็มศักยภาพของตน
ผู้ปกครอง : สร้างโอกาสให้ผู้เรียนได้เรียนรู้เพื่อค้นพบตนเอง ซึ่งจะช่วยให้ผู้เรียนเลือกทางเลือกในการเรียนรู้ การศึกษาและอาชีพที่สอดคล้องเหมาะสมกับตนเอง
การส่งเสริมให้เป็น “ผู้มีความเชื่ออำนาจในตน”
ผู้บริหารสถานศึกษา : ส่งเสริมสนับสนุนให้นักผู้เรียนมีประสบการณ์การเรียนรู้ที่มีกระบวนการเกิดความตระหนักและการยอมรับว่าผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นนั้นมาจากการกระทำของผู้เรียนเอง
ครู : จัดกิจกรรมถอดบทเรียนจากประสบการณ์การเรียนรู้และงานที่มอบหมายให้กับผู้เรียน เพื่อสร้างความตระหนักให้เกิดขึ้นกับผู้เรียนว่าผลที่เกิดขึ้นนั้นมาจากการกระทำของผู้เรียนเอง
ผู้ปกครอง : ฝึกให้ผู้เรียนรู้จักคิด วิเคราะห์ แยกแยะและตัดสินใจเรื่องราวต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันโดยใช้เหตุผล
รูปแบบการเรียนรู้ในอนาคต
รูปแบบการเรียนรู้ในอนาคต เป็นที่แน่นอนว่าจะต้องเรียนรู้อย่างต่อเนื่องตลอดเวลา โดยไม่หยุดที่จะเรียนรู้ ซึ่งจะมุ้งเน้นพัฒนารูปแบบการเรียนรู้ที่ยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลางหรือเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ (Learner – Centered Learning Model) และต้องมาพร้อมกับการเรียนรู้ที่เอื้อต่อโอกาสในการเข้าถึงการเรียนรู้สำหรับทุกคน (Learning for All)
“ผู้เรียนเป็นผู้กำหนดความรู้และประสบการณ์การเรียนรู้ด้วยตนเอง เลือกแหล่งเรียนรู้และวิธีการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับตนเอง การจัดกระบวนการเรียนรู้เป็นแบบ Active Learning ซึ่งผู้เรียนเรียนรู้ผ่านการปฏิบัติมากกว่าการฟังผู้สอนเพียงอย่างเดียว (Learners must do more than just listen in order to learn) และผู้เรียนมีส่วนร่วมตลอดกระบวนการเรียนรู้” ดร.กฤษพร กล่าวทิ้งท้าย
ในปัจจุบันผู้เรียนสามารถเข้าถึงแหล่งการเรียนรู้ทุกที่ทุกเวลาอย่างทั่วถึง การเรียนรู้ด้วยตนเองอย่างเป็นอิสระผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตรูปแบบต่าง ๆ ที่มีบทบาทในการเรียนรู้ของผู้เรียนหรือบุคคลทั่วไปในชีวิตประจำวันมากยิ่งขึ้น โดยในอนาคตการเติบโตของเทคโนโลยีและการหลั่งไหลเข้ามาของข้อมูล จะทำให้คนยุคใหม่ต้องพัฒนาตนเองอยู่เสมอ จึงเป็นที่มาของแนวคิดการเรียนรู้ตลอดชีวิตนั่นเอง
ชวนเช็กอิน “ตำหนิโฮสเทล” ที่พักดีไซน์สวยที่ไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์แบบ
เปิดจุดเช็กอิน ‘ฉุยฟง คาเฟ่ 2’ ชมไร่ชาคว้ารางวัลดีไซน์ เพื่อคนทั้งมวล