ที่ อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ชาวบ้านยังคงใช้ชีวิตกันด้วยด้วยความยากลำบากเนื่องจากยังมีน้ำท่วมสูง นอกจากนี้ ยังพบว่ามวลน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาได้ไหลเอ่อล้นตลิ่งข้ามถนนทางหลวงแผ่นดิน สาย 311 ชัยนาท-สิงห์บุรี (สายเก่า) ในหลายจุดทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น กรมทางหลวง กรมชลประทาน และองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยนาท ได้นำรถแบคโฮ ขุดดินมาสร้างเป็นคันกั้นน้ำชั่วคราว และเสริมแนวกระสอบทราย เพื่อไม่ให้ไหลข้ามถนนและให้ประชาชนใช้เส้นทางสัญจรได้อย่างสะดวก
เมืองไทยประกันชีวิต-มูลนิธิเมืองไทยยิ้มมอบถุงยังชีพช่วยผู้ประสบอุทกภัย
น้ำท่วมอ่วมหนัก หอการค้าฯ คาดอุทกภัยปีนี้ สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจถึง 2 หมื่นล้านบาท
สำหรับจังหวัดชัยนาท มีพื้นที่ประสบอุทกภัยแล้ว 7 อำเภอ 32 ตำบล 180 หมู่บ้าน พื้นที่ทางการเกษตรได้รับความเสียหายไปแล้วกว่า 45,196 ไร่ นอกจากนี้ยังมีถนนอีก14สายถูกน้ำท่วม และมีผู้เสียชีวิตจากการจมน้ำแล้ว 2 ราย
ส่วน จ.อ่างทอง การระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยา ทำให้น้ำจากแม่น้ำน้อยไหลบ่าเข้าท่วมพื้นที่ อ.วิเศษชัยชาญ เช่นที่บริเวณวัดหินงอก หมู่ที่ 3 ต.สี่ร้อย ชาวบ้านต้องย้ายทรัพย์สินหนีน้ำ รวมถึงวัวกว่า 30 ตัวมาอาศัยอยู่ที่ลานดินด้านหน้าวัดริมถนนสายวิเศษชัยชาญ-บางจัก หลังบ้านถูกน้ำจากแม่น้ำน้อยไหลบ่าเข้าท่วมสูงกว่า 2 เมตรจนไม่สามารถอาศัยอยู่ได้ โดยเฉพาะคอกเลี้ยงวัวที่มีวัวท้องแก่ใกล้คลอดหลายตัว ซึ่งกำลังประสบปัญหาในการขาดแคลนหญ้าแห้งอย่างหนัก
โดยจ.อ่างทอง มีพื้นที่ 5 อำเภอ ได้รับผลกระทบ คือ อ.ไชโย อ.เมือง อ.ป่าโมก และลุ่มแม่น้ำน้อย ในอ.โพธิ์ทองและ อ.วิเศษชัยชาญ มีบ้านเรือนถูกน้ำท่วมแล้ว 36 ตำบล 149 หมู่บ้าน 5185 หลัง และยังมีอีกหลายจุดที่น้ำล้นตลิ่งต่อเนื่อง ซึ่งทางจังหวัดอ่างทองได้เตรียมความพร้อมในการรับมือและแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด