แชตที่ทีมข่าวคุยกับ แหล่งข่าวที่อยู่ในแวดวงขายบุหรี่ไฟฟ้า เธอบอกว่า บุหรี่ไฟฟ้าส่วนใหญ่ถูกส่งมาจาก มาเลเซีย มีการกระจายกันเข้ามา บอกด้วยว่า ตำรวจส่วนมากรู้กัน หรือบางครั้งก็มีการสั่งบุหรี่ไฟฟ้า มาจาก เฟซบุ๊กหรือคนในพื้นที่ด้วย
แหล่งข่าวคนนี้ยังบอกว่า บางครั้งก็ส่งบุหรี่ไฟฟ้าเข้ามาทางเรือ บางครั้งขนส่งผ่านรถเข้ามาจากภาคใต้ ที่น่าตกใจที่สุด คือ แหล่งข่าวคนนี้ ยอมรับว่า ทุกร้านดีลกับตำรวจ และ ส่วนมาก มีร้านของตำรวจเองด้วย
ด่วน! ผบก.น.1 เซ็นให้ออกจากราชการ 6 ตร.ฉาวไถเงินดาราไต้หวัน
"ด.ต." ปัดรีดเงินนักท่องเที่ยว ใช้บุหรี่ไฟฟ้า
แหล่งข่าวคนนี้ไม่พูดเฉยๆ ส่วนภาพเฟซบุ๊กตำรวจคนหนึ่งมาให้ พร้อมบอกว่า นี่คือตัวอย่างตำรวจที่มีร้านขายบุหรี่ไฟฟ้า เปิดหลายสาขาด้วย
พีพีทีวี ย้อนไปคุยกับ นายเลิศศักดิ์ รักธรรม ผู้อำนวยการส่วนบังคับคดี กองกฎหมายและคดี (สคบ.) ที่ผ่านมา เวลาเข้าจับกุม ร้านค้าขายบุหรี่ไฟฟ้า จะมีทั้ง สุ่มตรวจ และ ได้รับเบาะแส โดย ตำรวจและ เจ้าหน้าที่ สคบ. สามารถจับกุมได้ทั้ง 2 หน่วยงาน
ส่วนที่ หลายคนสงสัยว่า หากผิดกฏหมายทำไมยังมีขายกันเกลื่อน แบบนี้ถือว่าเจ้าหน้าที่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 157 หรือไม่ นายเลิศศักดิ์ บอกว่า กรณีที่จะเข้าข่ายละเว้นนั้นต้องมาจากการที่เจ้าหน้าที่พบเห็นการขายซึ่งหน้า แต่ยังไม่เข้าจับกุม เป็นไปได้ว่าอาจมีส่วนรู้เห็นหรือรับสินบนกัน ก็ต้องเรียกสอบต่อและดำเนินคดีตามกฎหมาย
ส่วนแนวทางแก้ไขเรื่องนี้ นายเลิศศักดิ์ มองเป็น 2 ประเด็น คือ ต้องตัดช่องทางการลักลอบนำเข้าให้ได้ โดยเน้นมุ่งเป้าทลายเครือข่ายคอร์รัปชันในองค์กร และดำเนินการกับผู้ขายอย่างเด็ดขาด เนื่องจากรับรู้อยู่แล้วว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหลายต้องเติมความรู้ในเรื่องผลกระทบจากบุหรี่ไฟฟ้าตั้งแต่ระดับเยาวชน และครอบครัวผู้ปกครองก็ต้องคอยช่วยกันสอดส่องดูแลตั้งแต่เนิ่นๆ ด้วย