ร้องธนาคารยึดที่ดินผิดคน เพราะ ชื่อซ้ำ!

โดย PPTV Online

เผยแพร่

หญิงวัย 56 ปี คนหนึ่งมาร้อง PPTV บอกว่าสามีของเธอถูกธนาคารยึดที่ดิน ทั้งที่ครอบครัวไม่เคยมีหนี้ ปรากฎตรวจสอบไปตรวจสอบมา พบว่า ยึดผิดแปลง เพราะชื่อสามี ไปซ้ำกับจำเลยที่ถูกฟ้องยึดทรัพย์ ครอบครัวอยากได้คืนแต่ไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะที่ดินแปลงนี้ถูกขายทอดตลาดไปแล้ว

ที่ดินขนาด 19.5 ตารางวา ในซอยเคหะหนองจอก ขวา ก.30 ถนนมิตรไมตรี เขตหนองจอก กรุงเทพฯ คือจุดที่ผู้เสียหาย คือนางศรีจันทร์ ผ่องใส อายุ 56 ปี เล่าว่า ถูกธนาคารยึดไปขายทอดตลาดโดยที่เธอไม่ทราบมาก่อน เพิ่งมารู้เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา

โดยเธอโชว์โฉนดยืนยันว่า ที่ดินผืนนี้เป็นกรรมสิทธิ์ของ “นายสมศักดิ์ ผ่องใส” สามี ซึ่งซื้อที่ต่อจากการเคหะแห่งชาติ มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2546 หรือเมื่อราวๆ 19 ปีที่ผ่านมา ในราคา 135,600 บาท

ห้ามเคลือบโฉนดที่ดิน-พร้อมวิธีเช็กของจริงของปลอม

ตรวจสลากออมสินพิเศษ 2 ปี และสลากออมสินพิเศษดิจิทัล 2 ปี งวดวันที่ 1 มีนาคม 2566

ที่ดินผืนดังกล่าว สามีซื้อทิ้งไว้เพราะตั้งใจจะเก็บไว้ปลูกบ้านให้ลูก รวมกับที่ดินของคนในตระกูล “ผ่องใส” ที่ซื้อไว้ติดๆ กัน ซึ่งที่ผ่านมาปล่อยรกร้าง นานๆ ครั้งจะเข้าไปดู ล่าสุดช่วงปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา เข้าไปดูที่ เจอว่ามีคนมาปลูกต้นกล้วยทิ้งไว้ในที่ของตัวเอง สอบถามคนที่อาศัยแถวนั้น บอกว่าที่ผืนนี้มี “หนุ่ม” มาซื้อไป ทำให้ตกใจ เพราะไม่เคยขายให้ใคร จึงให้ลูกสาวไปตรวจสอบที่สำนักงานที่ดินกรุงเทพมหานคร สาขาหนอกจอก และสำนักงานบังคับคดีที่มีนบุรี พบว่าที่ดินแปลงนี้ ถูกยึดทรัพย์ขายทอดตลาดไปจริง โดยขายที่ให้เจ้าของใหม่ไปตั้งแต่ พ.ศ.2558

 เมื่อตรวจสอบเอกสาร พบว่าธนาคารยึดที่ผิดแปลง เพราะคนที่ถูกฟ้องยึดทรัพย์ ชื่อ “สมศักดิ์ ผ่องใส” เหมือนกับสามี แต่เมื่อดูข้อมูลทะเบียนราษฎร์แล้ว เป็นคนละคน โดยมีเลขบัตรประจำตัวประชาชนคนละเลข และสามีของเธอ เกิด พ.ศ. 2510 อายุ 55 ปี ทะเบียนบ้านอยู่กรุงเทพฯ

ขณะที่นายสมศักดิ์ที่ถูกฟ้อง เกิด พ.ศ.2505 อายุ 60 ปี ทะเบียนบ้านที่คัดมาล่าสุดอยู่ จ.ศรีสะเกษ แต่ที่อยู่เดิม อยู่ที่ จ.สมุทรปราการ

กรณีที่เกิดขึ้น นางศรีจันทร์ บอกว่า อยากให้ธนาคารออกมาแสดงความรับผิดชอบ โดยถ้าเป็นไปได้ อยากได้ที่ดินคืนมาแม้จะมีการขายทอดตลาดไปแล้ว เพราะที่ดินผืนดังกล่าว เธอและสามีเก็บหอบรอมริบ ผ่อนมาหลายปีกว่าจะได้มา และตั้งใจรักษาเก็บไว้ให้ลูกหลานมีที่อยู่

ทีมข่าวตามไปพูดคุยกับนางสุนีย์ แก้วกันทะ เพื่อนบ้านที่อาศัยซอยเดียวกับที่ดินที่ถูกยึด เล่าว่า เธอทราบมาตลอดว่าที่ดินที่ถูกปล่อยรกร้างบริเวณนี้ เป็นของตระกูล “ผ่องใส” เพราะเธอก็ซื้อที่ต่อจากตระกูลนี้มาปลูกบ้านเช่นเดียวกัน จนกระทั่งเมื่อประมาณ 2 ปีก่อน มีชายวัยรุ่น ลักษณะอายุประมาณ 20 ปีเศษ แต่งตัวเหมือนชาวบ้านธรรมดา พาเพื่อนมาถางหญ้า จึงเข้าไปสอบถาม ชายคนดังกล่าวยืนยันว่า ซื้อที่ดินมาจากกรมบังคับคดีอย่างถูกต้อง ในราคา 1 แสนต้นๆ

ต่อมา ฝ่ายครอบครัว “ผ่องใส” เข้ามาดูที่ ตนเองก็เข้าไปสอบถาม ฝั่งนี้ ยืนยัน ไม่ได้ขายที่ให้ และยังมีโฉนดอยู่กับตัว

ต่อมา ชายวัยรุ่นคนดังกล่าวย้อนกลับมาอีกครั้งเพื่อมาปลูกต้นกล้วยบนที่ดินผืนนี้ ตนเองก็แนะนำให้ไปตรวจสอบกับกรมที่ดิน ชายคนดังกล่าวก็รีบไปทันที จากนั้นก็นำโฉนดมายืนยันกับตนเองว่า เป็นโฉนดถูกต้อง ส่วนโฉนดที่เป็นของนายสมศักดิ์ ผ่องใส ถูกยกเลิกไปแล้ว

นางสุนีย์ เล่าต่อว่า พอเธอทราบเรื่อง เธอก็ปล่อยไปแบบนั้น เพราะไม่มีเบอร์ติดต่อทั้ง 2 ฝ่าย และแต่ละฝ่ายกว่าจะได้เข้ามาที่นี่ก็เว้นช่วงกันเป็นปี จนกระทั่งล่าสุดที่ครอบครัวผ่องใสเข้ามาเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา จึงมีโอกาสได้บอก จนตรวจสอบพบว่ามีการยึดที่ดินผิดพลาด ไปยึดของนายสมศักดิ์ขายทอดตลาดไป ก็เห็นใจทั้ง 2 ฝ่าย เพราะต่างฝ่ายก็คาดหวังจะปลูกบ้านบนที่ดินผืนนี้ ใช้เป็นที่อยู่อาศัย

Bottom-PL-HLW Bottom-PL-HLW

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

PPTVHD36

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ