ศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ รายงานการติดตามตรวจสอบคุณภาพอากาศ ประจำวันที่ 14 มีนาคม 2566 ณ 07:00 น พบภาพรวมปริมาณ PM2.5 ในประเทศพบเกินค่ามาตรฐานใน 28 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ จ.นนทบุรี จ.สมุทรสาคร จ.สมุทรปราการ จ.เชียงราย จ.แม่ฮ่องสอน จ.พะเยา จ.เชียงใหม่ จ.น่าน จ.ลำพูน จ.ลำปาง จ.แพร่ จ.อุตรดิตถ์ จ.สุโขทัย จ.พิษณุโลก จ.ตาก จ.กำแพงเพชร จ.พิจิตร จ.นครสวรรค์ จ.อุทัยธานี จ.สิงห์บุรี จ.สระบุรี จ.อ่างทอง จ.สุพรรณบุรี จ.ราชบุรี จ.ชลบุรี จ.ระยอง และ จ. เลย
สรุปการตรวจสอบคุณภาพอากาศ ได้ดังนี้
ภาคเหนือ : เกินค่ามาตรฐานเป็นส่วนใหญ่ ตรวจวัดได้ 31 - 76 มคก./ลบ.ม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : เกินค่ามาตรฐาน 1 พื้นที่ ตรวจวัดได้ 19 - 58 มคก./ลบ.ม.
ภาคกลางและตะวันตก : เกินค่ามาตรฐาน 5 พื้นที่ ตรวจวัดได้ 37 - 58 มคก./ลบ.ม.
ภาคตะวันออก : เกินค่ามาตรฐาน 3 พื้นที่ ตรวจวัดได้ 36 - 64 มคก./ลบ.ม.
ภาคใต้ : ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดีมาก ตรวจวัดได้ 18 - 29 มคก./ลบ.ม.
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล : โดยสถานีตรวจวัดของกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ร่วมกับ กทม. เกินค่ามาตรฐานเป็นส่วนใหญ่ ตรวจวัดได้ 40 - 75 มคก./ลบ.ม.
อันดับเมืองมลพิษไทยขยับลง
จากข้อมูลบน เว็บไซต์ IQAir ประจำวันที่ 14 มีนาคม 2566 เมื่อเวลา 09.54 น. พบว่า ประเทศไทย ในพื้นที่เชียงใหม่ อยู่ในอันดับ 9 เมืองที่มีมลพิษมากที่สุดในโลก ขณะที่ กรุงเทพมหานคร อยู่ในอันดับที่ 14 โดยมีดัชนีคุณภาพอากาศลดลงจากเมื่อวานนี้ อยู่ที่ 155 AQI และ 126 AQI ตามลำดับ
คำแนะนำทางสุขภาพ
ประชาชนทั่วไป : ควรเฝ้าระวังสุขภาพ ลดเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหากมีความจำเป็น
ผู้ที่ต้องดูแลสุขภาพเป็นพิเศษ : ควรลดระยะเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหากมีความจำเป็น ถ้ามีอาการทางสุขภาพ ควรปรึกษาแพทย์
โดยท่านสามารถติดตามสถานการณ์ผ่านทางเว็บไซต์ Air4Thai.com และ airbkk.com แอปพลิเคชัน Air4Thai และ AirBKK