จดหมายสั่งเสียที่ นายสาณิช หรือ แก๊ส ผู้ก่อเหตุฆ่ายกครัวเขียนด้วยลายมือ ถึงพ่อ พี่ชาย และหลานๆ โดยในเนื้อหา นายสาณิช ได้ขอโทษพ่อ และพี่ชายที่ตัดสินใจทำแบบนี้ พร้อมบอกว่าเรื่องที่เกิดขึ้น ไม่มีคนถูก คนผิด แต่ครอบครัวเป็นคนทำกันเอง
โดยจดหมายฉบับนี้ นายสาณิช เขียนส่งให้ครอบครัวก่อนจะก่อเหตุฆาตกรรม นางสาววิภาพร ภรรยา พร้อมลูกชาย 2 คน วัย 9 ปี และ 13 ปี จนเสียชีวิตในบ้านพัก ตำบลบางแก้ว อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ เมื่อคืนวานนี้
สุดสลด!ฆ่ายกครัว คาดหนี้รุมเร้า ซ้ำโดนแก๊งคอลฯ หลอกสูญเงิน 1.7 ล้าน
ทลายแก๊ง ไนจีเรียลวงให้รัก โกยเงินออกนอกประเทศ 800 ล้านบาท
สาเหตุที่ “นายสาณิช” ตัดสินใจจบชีวิตตัวเองและครอบครัว คาดว่ามาจากปัญหาหนี้สิน ที่ก่อนหน้านี้ เขาได้เซ็นค้ำประกันรถยนต์ให้อดีตนายจ้างช่วง 6-7 ปีที่แล้ว แต่อดีตนายจ้างไม่จ่ายแล้วหลบหนีไป ทำให้เจ้าหนี้มาตามทวงถามเอากับ นายสาณิช จนถูกฟ้องร้อง ศาลตัดสินให้ นางสาณิช ต้องชดใช้เงินต้น 4 แสน และดอกเบื้ยอีก 4 แสนรวมแล้วประมาณ 8 แสนบาท หากไม่จ่ายจะถูกยึดบ้าน
แต่จากการเจรจาไกล่เกลี่ย เจ้าหนี้สรุปยอดเงินที่ นายสาณิช จะต้องชดใช้เป็นเงินประมาณ 4 แสนกว่าบาท ซึ่ง นายสาณิช มีเงินเก็บอยู่ประมาณ 4 แสนบาท ยังขาดอีก 1 แสนบาท
ด้วยความหวังดีอยากช่วยสามี นางวิภาพร ตัดสินใจไปกู้เงินผ่านแอปพลิเคชั่นหนึ่ง แต่กลับถูกหลอกให้โอนเงิน อ้างว่าเป็นค่าดำเนินการหลายครั้ง ตั้งแต่หลักหมื่นไปจนถึงหลักแสน จนสุดท้ายเงินเก็บที่มีก็หมดไป นางวิภาพร ก็ไปยืมเงินจากเพื่อนคนอื่นอีกหลายคนเพื่อมาจ่ายให้แก๊งมิจฉาชีพ เพราะหวังว่าจะได้เงินที่เสียไปคืนและนำมาปิดหนี้ แต่สุดท้ายนอกจากไม่ได้เงินคือ ยังเสียเงินไปรวมกว่า 1 ล้าน 7 แสนบาท
ทีมข่าวลงพื้นที่บ้านพักของ นายสาณิช ซึ่งเป็นทาวน์เฮ้าส์ 3 ชั้น พบกับเพื่อนบ้านเล่าว่า นายสาณิชเป็นคนใจดี ไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ขยันทำงาน ที่ผ่านมาไม่เคยเห็นครอบครัวนี้ทะเลาะ หรือดุด่าว่าลูกเลย จึงไม่อยากจะเชื่อว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น
ที่ผ่านมา นายสาณิชก็เคยเล่าเรื่องที่ไปเซ็นคำประกันรถให้เถ้าแก่ฟัง และเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ ก็ยังเห็นว่ามีผู้หญิง 3-4 คน ขับรถป้ายแดงมาที่บ้าน นายสาณิช คาดว่าเป็นเจ้าหนี้ เพราะเห็นนายสาณิช มีสีหน้าเคร่งเครียด
เช่นเดียวกับ นางสาวอุ้ม หัวหน้างาน ซึ่งเป็นคนที่ “นายสาณิช” โทรศัพท์ไปหาหลังจากก่อเหตุทำร้ายภรรยาและลูก วันนี้ นางสาวอุ้ม ได้เข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติม
นางสาวอุ้มบอกว่า ที่ผ่านมา นายสาณิช มักจะมาปรึกษาปัญหาเรื่องหนี้สินประจำ ซึ่งเขาค่อนข้างเครียด ถึงขั้นเคยเขียนจดหมายสั่งลาส่งให้ญาติเมื่อ 3 วันก่อน จนต้องช่วยกันพูดคุยให้ใจเย็นลง และพี่ชายก็รับปากว่าจะช่วยเคลียร์หนี้สินให้ แต่สุดท้ายก็มาเกิดเหตุสลดขึ้น
ตรวจสอบของตำรวจพบว่า แอปพลิเคชั่นที่ นางสาววิภาพร ภรรยากู้เงินมา เป็นแอปฯ หลอกลวง มีการโฆษณาว่าให้กู้เงิน โดยให้กรอกข้อมูลส่วนตัวและรหัส OTP ที่ได้รับผ่านทางข้อความโทรศัพท์
ตอนนี้อยู่ระหว่างสืบสวนว่าเป็นแอปพลิเคชั่นใด ซึ่งมีข้อมูลบ้างแล้ว อยู่ระหว่างขยายผลไปยังแก๊งมิจฉาชีพ เพื่อเอาผิดในข้อหาฉ้อโกงประชาชนหรือข้อหาเปิดบัญชีให้ผู้อื่นใช้ในการกระทำความผิดทางเทคโนโลยี
ด้าน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีคำสั่งระดมทีมสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบข้อมูลของแอปพลิเคชั่นเงินกู้ดังกล่าว รวมถึงเส้นทางการเงิน เพื่อหาตัวเจ้าของแอปฯ ว่า เป็นแอปในไทยหรือต่างประเทศ และในวันพรุ่งนี้จะเดินทางไปติดตามความคืบหน้าคดีที่ สภ.บางแก้ว จ.สมุทรปราการ ด้วย
ส่วนศพของผู้เสียชีวิต ทั้ง 3 คน เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา นายวัชรินทร์ โตขาว รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสมุทรปราการ พร้อมญาติผู้ตายได้ติดต่อขอรับศพที่ รพ.รามาธิบดีจักรีนฤบดินทร์ โดยญาติตกลงกันว่าจะนำศพไปบำเพ็ญกุศลที่ วัดถนนงาม ต.คลองขลุง อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร
ซึ่งทางโรงเรียนบางแก้วประชาสรรค์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาและหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องจะช่วยดูแลค่าใช้จ่ายและค่าดำเนินการทั้งหมด
ตอนนี้ทางโรงเรียนได้เปิดรับบริจาคเงินจัดงานศพ เพราะโรงเรียนไม่มีเงิน และจะควบคุมเงินให้พอเหมาะพอดี ถ้าพอแล้วให้หยุดรับบริจาค เบื้องต้นจะนำมาเป็นค่าใช้จ่ายในการขนศพ และค่าพิธีการต่างๆ
สำหรับ นายสาณิช ผู้ก่อเหตุอาการยังโคม่า มีบาดแผลถูกมีดบาดที่คอเป็นแผลลึก 1 แผล และที่ข้อมือซ้ายมีรอยมีกรีด 1 แผล แพทย์ยังดูแลอย่างใกล้ชิดในห้องไอซียู และตำรวจได้อายัดตัวผู้ก่อเหตุไว้แล้ว.