“อี แจ-มยอง” ผู้นำพรรคฝ่ายค้านเกาหลีใต้ ถูกแทงคอที่เมืองปูซาน
หมดอำนาจควบคุม! กรมพินิจฯ ปล่อยตัวเด็ก 14 ส่งไม้ต่อรักษาสถาบันกัลยาณ์ฯ
จากกรณีการปล่อยตัวชั่วคราว เด็ก 14 กราดยิงในพารากอน ที่ครบกำหนดฝากขังเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม ที่ผ่านมา หลังอัยการสั่งตีกลับสำนวนคดี เพราะทำสำนวนมิชอบด้วยกฎหมาย คือ ไปสอบปากคำเด็ก ทั้งที่ยังไม่มีความเห็นแพทย์ว่า เด็กพร้อมสำหรับการให้การ จนทำให้สำนวนถูกตีกลับไปทำใหม่ และ ทำให้สั่งฟ้องไม่ทัน
ล่าสุด ทางครอบครัวของเด็ก 14 ยินยอมให้มีการรักษาตัวที่สถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์เหมือนเดิม
น.ส.ศิริประกาย วรปรีชา รองอธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเยาวชน เปิดเผยผลการหารือระหว่างตัวแทนกรมพินิจและคุ้มครองเยาวชน พ่อและแม่ของเด็ก 14 และแพทย์ของสถาบันว่า บรรยากาศการหารือเป็นไปด้วยดี ครอบครัวของเด็ก 14 ยินยอมให้รับการรักษาตัวต่อที่สถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ ซึ่งคาดว่าทางครอบครัวจะเป็นผู้รับผิดชอบค่ารักษาพยาบาล
ส่วนระยะเวลาในการรักษาหรือแผนการรักษาจะเป็นอย่างไรไม่สามารถตอบได้ เนื่องจากเป็นดุลพินิจของแพทย์
ซึ่งขณะนี้ กรมพินิจฯ หมดอำนาจการควบคุมตัวแล้ว หลังจากนี้เป็นเรื่องของทางแพทย์กับครอบครัว ส่วนเรื่องคดี แพทย์จะเป็นผู้ทำรายงานวินิจฉัยการประเมินสุขภาพต่าง ๆ และนำส่งให้กับทางพนักงานสอบสวนต่อไป
ขณะที่ นายประยุทธ เพชรคุณ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า การรักษาคนป่วย กับ กระบวนการยุติธรรม เป็นคนละส่วนกัน ซึ่งตามกฎหมายระบุเอาไว้ว่า หากคนป่วยยังไม่หายก็ไม่สามารถเอาผิดได้
ด้าน อาจารย์ปรเมศวร์ อินทรชุมนุม อัยการอาวุโสสำนักงานการสอบสวน สำนักงานอัยการสูงสุด อธิบายถึงการรับโทษของเด็ก 14 ว่าพ่อแม่ของเยาวชนรายนี้ควรจะต้องรับโทษด้วยหรือไม่ อาจารย์ปรเมศวร์ บอกว่า ความผิดของพ่อและแม่มีน้อย ที่ผ่านมาเคยมีการเอาผิดกับพ่อแม่ของเด็กแว้น แต่ช่วงหลังไม่มีการดำเนินคดี เพราะศาลมองว่าพ่อและแม่ควบคุมไม่ถึง
ซึ่งตัวเองมองว่าหากมีการแก้กฎหมายถึงพฤติกรรมพิเศษบางอย่าง เช่น พ่อและแม่มีการสนับสนุนให้ลูกเล่นอาวุธปืนก็ควรจะต้องมีโทษบ้าง