วันที่ 22 ส.ค 2567 ที่ศูนย์รับแจ้งความ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง นายธมนันท์ แตงทิม หรือ จ่าคิงส์ สะพานใหม่ อดีต สห.ทอ. และนายณัฐปกรณ์ สุดชา หรือทนายเจส พาผู้เสียหาย 2 รายที่ เป็นสามีภรรยา ร้องทุกข์แจ้งความ เนื่องจากไปกู้เงินนอกระบบ 60 เจ้า จำนวน 400,000 บาท ต้องจ่ายดอกเบี้ย วันละ 70,000 บาท รับไม่ไหวกับดอกเบี้ยที่แพง จึงไปขอเจ้าหนี้ขอหยุดจ่ายหนี้ แต่เจ้าหนี้ไม่ยอม ส่งคนมาข่มขู่สารพัด และอ้างว่ามีนักการเมืองค่อยช่วยเหลือ ตนจึงต้องขอความช่วยเหลือ จากกองปราบฯ
โดยนางอ้อย เล่าว่า ตนทำมาหากินอยู่ในจังหวัดปทุมธานี กับ สามี เปิดร้านคาเฟ่ สาเหตุที่ตนต้องไปกู้ยืมเงินนอกระบบ เพราะได้รับความเดือดร้อน จากโรคระบาดโควิด - 19 เพราะตนเปิดร้านคาเฟ่อยู่ในพื้นที่ของจังหวัดปทุมธานี ทำให้หมุนเงินไม่ทัน จึงต้องไปกู้เงินมาเพื่อที่จะมาหมุนในร้าน
ตนกู้มา 400,000 บาท ทั้งหมด 60 เจ้า จ่ายดอกเบี้ยวันละ 70,000 บาท เริ่มกู้เงิน ตั้งแต่เดือน ธ.ค.ปีที่แล้วตนส่งเงินไม่เคยขาด แม้แต่วันเดียว แต่เดือนนี้รู้สึกว่าไม่ไหวจริงๆจึงขอหยุดส่ง เขาไม่ให้หยุดตามข่มขู่เฝ้าหน้าบ้าน ขู่ว่าจะฆ่า และข่มขืน จนไม่สามารถเปิดร้านได้ ต้องปิดร้านหนี และไม่กล้าให้ลูกไปโรงเรียน แจ้งความไป ตำรวจก็มาแค่ไล่เขาไป แต่เขาก็กลับมาอีก ซึ่งตนเสียเงินไปทั้งหมด 4 ล้านบาท ซึ่งเกินกว่าเงินต้นที่กู้มาไปเยอะมาก ตอนกู้เงินเขาให้ดอกเบี้ย 120 ต่อวัน ตนคิดว่า เจ้าหนี้ 60 เจ้า น่าจะเป็นเครือข่ายเดียวกัน โดยสามีเป็นคนกู้ ตนเป็นคนค้ำประกัน
ด้านทนายเจส กล่าวถึงเรื่องข้อกฎหมายว่า การกู้ยืมเงินเป็นผิดกฎหมายทางแพ่งตามกฏหมายพ.ร.บ.ทวงถามหนี้ห้าม ที่ห้ามให้เจ้าหนี้ไปทวงหนี้ด้วยการข่มขู่ ซึ่งผู้เสียหายทั้งสองรายก็ยอมรับว่ามีการไปกู้เงินมาจริง เพราะมีความจำเป็นในการใช้เงินแต่ที่ผ่านมาผู้เสียหายก็ ผ่อนจ่ายวันละ 70,000 บาทให้ทุกวันจนครบถ้วนหมดแล้วแต่ดอกที่ลอยขึ้นมา ไม่รู้ว่าจะไปสิ้นสุดที่วันไหน จึงพาผู้เสียหายทั้ง 2 คนมาที่ ตำรวจสอบสวนกลางเพื่อให้ช่วยเหลือ เพราะว่าผู้เสียหายมีสลิปการโอนเงินทั้งหมด รวมถึงจะให้พนักงานสอบสวนดูแลดูแลเรื่องความปลอดภัยเนื่องจากทุกวันนี้เจ้าหนี้มาข่มขู่ทุกวันมาเฝ้าและมานั่งหน้าบ้านจนผู้เสียหายไม่กล้าที่จะออกจากบ้าน เบื้องต้นจะพาไปพบพนักงานสอบสวนต่อไป
เช็กพื้นที่ 35 จว.เฝ้าระวังน้ำท่วม-น้ำป่าไหลหลาก 9 ลำน้ำเสี่ยงล้นตลิ่ง!
5 แหล่งอาหารช่วยบำรุงความจำ ชะลอความเสื่อมของสมอง
โปรดเกล้าฯ พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม 1.22 แสนล้าน รองรับ "ดิจิทัลวอลเล็ต"