60 ปีเขื่อนภูมิพล: บทเรียนสำคัญสำหรับการจัดการน้ำของไทย

โดย ดนัย จันทร์เจ้าฉาย

เผยแพร่

ในขณะที่หลายจังหวัดในภาคเหนือของประเทศไทยกำลังได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมอย่างรุนแรง สร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนอย่างมหาศาล

เหตุการณ์นี้ได้ตอกย้ำให้เห็นถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการทบทวน และปรับปรุงแนวทางการบริหารจัดการน้ำของประเทศอย่างจริงจัง ปัญหาน้ำท่วมที่เกิดขึ้นซ้ำซากนี้ไม่เพียงแต่สะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายด้านปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เพิ่มมากขึ้น แต่ยังชี้ให้เห็นถึงจุดอ่อนในระบบการจัดการน้ำของประเทศไทยด้วย วิกฤตที่เกิดขึ้นนี้ เป็นการย้ำเตือนให้เราตระหนักถึงความสำคัญของการศึกษาเรียนรู้แนวทางการบริหารจัดการน้ำที่มีประสิทธิภาพ

คอนเทนต์แนะนำ
รวมพิกัดส่งต่อความช่วยเหลือ "น้ำท่วม" พร้อมช่องทางติดต่อ เช็กที่นี่!
รวมเบอร์ติดต่อขอความช่วยเหลือ! น้ำท่วมเชียงราย

เขื่อนภูมิพล โครงการตามรอยพระราชา
เขื่อนภูมิพล

ซึ่งในห้วงเวลานี้ไม่มีที่ใดจะเหมาะสมไปกว่า "เขื่อนภูมิพล" โครงการเขื่อนอเนกประสงค์แห่งแรกของประเทศไทย ที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (รัชกาลที่ 9) ได้พระราชทานพระปรมาภิไธย และเสด็จพระราชดำเนินเปิดเขื่อนเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2507 เป็นเขื่อนคอนกรีตรูปโค้งขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีความจุ 13,462 ล้านลูกบาศก์เมตร สร้างขวางลำน้ำปิงบริเวณอำเภอสามเงา จังหวัดตาก ปัจจุบันเขื่อนแห่งนี้กำลังก้าวเข้าสู่ปีที่ 60 แห่งการดำเนินงาน เขื่อนแห่งนี้ไม่เพียงแต่เป็นโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ แต่ยังเป็นอนุสรณ์แห่งพระวิสัยทัศน์อันกว้างไกลของในหลวงรัชกาลที่ 9 ในด้านการบริหารจัดการน้ำแบบครบวงจร ทั้งการผลิตกระแสไฟฟ้า การชลประทาน การป้องกันน้ำท่วม และการประมง จึงเป็นสถานที่ที่เหมาะสมในการถอดบทเรียน เพื่อนำมาเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
 
การศึกษาแนวทางการบริหารจัดการเขื่อนภูมิพลตลอด 60 ปีที่ผ่านมา เผยให้เห็นถึงหลักการสำคัญหลายประการที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมและการบริหารจัดการน้ำในปัจจุบัน

เช็กสิทธิรัฐจ่าย เงินดิจิทัล 10000 บาท ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ-ผู้พิการ ล็อตสอง 4.51 ล้านคน

ผลบอลยูโรป้า ลีก สเปอร์ส 10 คน ถล่ม คาราบัค พร้อมสรุปผลคู่อื่นๆ

เหตุผลอะไรที่ทำให้เราสมัครบัตรเครดิตไม่ผ่าน และจะแก้ไขอย่างไร ?

เขื่อนภูมิพล โครงการตามรอยพระราชา
เขื่อนภูมิพล

การเข้าใจธรรมชาติของน้ำอย่างลึกซึ้ง: พระราชดำรัสของในหลวงรัชกาลที่ 9 "น้ำคือชีวิต" สะท้อนให้เห็นถึงความเข้าพระทัยอย่างลึกซึ้งในความสำคัญของทรัพยากรน้ำ พระองค์ให้ความสนพระทัยทุกโครงการที่เกี่ยวข้องกับน้ำ ด้วยเห็นถึงความจำเป็นทั้งในด้านการเกษตร และความเชื่อมโยงไปถึงปัญหาน้ำท่วม และภัยแล้ง ซึ่งเป็นความท้าทายหลักด้านทรัพยากรน้ำของประเทศไทย เขื่อนภูมิพลได้แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการเข้าใจวัฏจักรน้ำ ทั้งที่มาที่ไปของน้ำ ลักษณะการไหล และความสัมพันธ์กับสภาพภูมิประเทศ การศึกษาอย่างละเอียดเหล่านี้ช่วยให้สามารถวางแผนการจัดการน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตั้งแต่การกักเก็บน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้ง ไปจนถึงการระบายน้ำเพื่อป้องกันน้ำท่วม
 
การบูรณาการความรู้จากหลากหลายสาขา: การบริหารจัดการเขื่อนภูมิพล ที่เป็นเขื่อนอเนกประสงค์ เป็นการบริหารจัดการน้ำแบบองค์รวม สามารถตอบสนองความต้องการหลายด้าน ทั้งการผลิตไฟฟ้า การชลประทาน การป้องกันน้ำท่วม และการรักษาระบบนิเวศ ทั้งหมดนี้ไม่สามารถอาศัยเพียงความรู้ด้านใดด้านหนึ่งได้ แต่ต้องใช้ความรู้หลากหลาย ทั้งด้านภูมิศาสตร์ วิศวกรรม อุทกวิทยา นิเวศวิทยา และสังคมศาสตร์ การผสมผสานองค์ความรู้จากหลายศาสตร์นี้ช่วยให้การจัดการน้ำมีความครอบคลุมและยั่งยืนมากขึ้น 

การวางแผนระยะยาวและการปรับตัว: เขื่อนภูมิพลถูกออกแบบให้สามารถรองรับการเปลี่ยนแปลงในอนาคต คงทนทั้งด้านสภาพภูมิอากาศและความต้องการใช้น้ำที่เพิ่มขึ้น สามารถใช้งานได้นับร้อยปี แนวคิดนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งในการรับมือกับความท้าทายด้านน้ำในปัจจุบัน ที่มีความผันผวนสูงขึ้นเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

การสร้างสมดุลระหว่างการพัฒนาและการอนุรักษ์: นอกเหนือจากการสร้างเขื่อนเพื่อประโยชน์ในการพัฒนา ยังมีการวางแผนฟื้นฟูและอนุรักษ์ป่าต้นน้ำเพื่อรักษาสมดุลของระบบนิเวศ แนวคิดนี้แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการมองภาพรวมของระบบนิเวศน้ำ ไม่ใช่เพียงแค่การจัดการน้ำในเขื่อนเท่านั้น
การส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชน: เขื่อนภูมิพลได้แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการมีส่วนร่วมของชุมชนท้องถิ่นในการดูแลรักษาแหล่งน้ำและใช้ประโยชน์จากเขื่อนอย่างยั่งยืน การสร้างความเข้าใจและการมีส่วนร่วมของชุมชนเป็นกุญแจสำคัญในการบริหารจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ
 

เขื่อนภูมิพล โครงการตามรอยพระราชา
เขื่อนภูมิพล
ในวาระครบรอบ 60 ปีของเขื่อนภูมิพล และท่ามกลางวิกฤตน้ำท่วมที่กำลังเกิดขึ้น เป็นโอกาสอันดีที่ทุกภาคส่วนจะได้ทบทวนและนำบทเรียนจากความสำเร็จของเขื่อนภูมิพลมาประยุกต์ใช้ในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมและการบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน
การแก้ไขปัญหาน้ำท่วมและการบริหารจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพไม่ใช่ความรับผิดชอบของหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง แต่เป็นภารกิจที่ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม การนำแนวคิดและหลักการที่ได้จากการศึกษาเขื่อนภูมิพลมาปรับใช้อย่างจริงจัง เหมาะสมกับบริบทปัจจุบัน จะช่วยให้ประเทศไทยสามารถพัฒนาระบบการบริหารจัดการน้ำที่มีประสิทธิภาพและยั่งยืนมากขึ้น
 
ท้ายที่สุด การเรียนรู้จากประสบการณ์ 60 ปีของเขื่อนภูมิพล ไม่เพียงแต่เป็นการรำลึกถึงพระอัจฉริยภาพของในหลวงรัชกาลที่ 9 แต่ยังเป็นการวางรากฐานสำคัญสำหรับการพัฒนาระบบบริหารจัดการน้ำของประเทศไทยในอนาคต เพื่อให้สามารถรับมือกับความท้าทายด้านทรัพยากรน้ำที่นับวันจะทวีความซับซ้อนมากขึ้น การนำบทเรียนเหล่านี้ไปประยุกต์ใช้อย่างจริงจังและเป็นระบบ จะเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างความมั่นคงด้านน้ำให้กับประเทศไทยในระยะยาว
โครงการตามรอยพระราชา ทิพยสืบสาน รักษา ต่อยอด นวัตกรรมศาสตร์พระราชา จัดมาอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกเดือน ตั้งแต่ปี พ.ศ.2561 โดยเป็นการเผยแพร่ศาสตร์ของพระราชา และปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง พร้อมด้วยคุณธรรม 5 ประการ เพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ 17 เป้าหมาย ภายในปี 2030 สำหรับผู้ที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ คุณจารุกัญญ์ โทรศัพท์ 099 397 5333 FB : ตามรอยพระราชา-The King’s Journey LINE : The King’s Journey
 

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

PPTVHD36

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ