วิเคราะห์แคนดิเดต ผบ.ตร. คนใหม่ มีม้ามืดไหม? "บิ๊กต่าย" เหมาะหรือไม่?

โดย PPTV Online

เผยแพร่

วิเคราะห์แคนดิเดตช่วงการแต่งตั้ง ผบ.ตร. คนใหม่ หลัง "บิ๊กต่าย" มาแรงเป็นเบอร์หนึ่ง ขณะเดียวกันมีข่าวลือว่าอาจมี "ม้ามืด" วิ่งแซงชิงแคนดิเดต ผบ.ตร.

สถานการณ์ในแวดวงตำรวจกลับมาร้อนแรงอีกครั้ง เนื่องจากเป็นช่วงของการแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) คนใหม่ ซึ่งการแต่งตั้งนั้นนอกจากการอิงจากความอาวุโสแล้ว ยังต้องคำนึงถึงความเหมาะสม และเรื่องอื่น ๆ ด้วย

หากคำนึงจากความอาวุโสแล้ว เบอร์หนึ่งแน่นอนว่าเป็น พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ หรือ “บิ๊กต่าย” ขณะเดียวกันก็มีคำถามเกิดขึ้นว่า จะมีม้ามืดแซงขึ้นมารับตำแหน่งแทน “บิ๊กต่าย” หรือไม่ เรื่องนี้จึงถือเป็นมหากาพย์แห่งวงการตำรวจที่ยาวนานมากว่า 1 ปี

คอนเทนต์แนะนำ
เช็กชื่อแคนดิเดต ผบ.ตร. ใครเข้าวิน? รอลุ้นหลัง 3 ต.ค.นี้
ปูดข่าวลือ! "ม้ามืด" นั่งเก้าอี้ ผบ.ตร.มาแรงแซง 3 โผแคนดิเดต
“ทนายตั้ม” เตือนระวัง ผบ.ตร. ม้ามืดมาแรง สายตรงอดีตนายกฯ

พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ อดีตรอง ผบ.ตร. และ ก.ตร. ผู้ทรงคุณวุฒิ และพล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ร่วมพูดคุยกับ PPTV ในรายการคุยข้ามช็อต Exclusive Talk รายการคุยข้ามช็อต Exclusive Talk
พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ อดีตรอง ผบ.ตร. และ ก.ตร. ผู้ทรงคุณวุฒิ และพล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ร่วมพูดคุยกับ PPTV ในรายการคุยข้ามช็อต Exclusive Talk

พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ อดีตรอง ผบ.ตร. และ ก.ตร. ผู้ทรงคุณวุฒิ และพล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ร่วมพูดคุยกับ PPTV ในรายการคุยข้ามช็อต Exclusive Talk เกี่ยวกับกรณีการแต่งตั้ง ผบ.ตร. คนใหม่ไว้อย่างน่าสนใจ

เช็กสิทธิรัฐจ่าย เงินดิจิทัล 10000 บาท โอนงวดสุดท้าย 2.26 ล้านคน ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ-ผู้พิการ

สรุปดรามา! ทองออนไลน์ “แม่ตั๊ก-ป๋าเบียร์” เกิดอะไรขึ้นบ้าง

เช็กสถิติหวย "สลากกินแบ่งรัฐบาล" งวดวันที่ 1 ตุลาคม ย้อนหลัง 10 ปี

มั่นใจผู้ใช้อำนาจไม่กล้าเสี่ยง ตั้ง "ประจวบ วงศ์สุข" เสนอชื่อเข้าชิง ผบ.ตร.

พล.ต.อ.เอก กล่าวว่า หากตอบตามขอบเขตตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนดแล้ว กฎหมายการแต่งตั้งตำรวจ ณ ปัจจุบันคือ พรบ.การแต่งตั้งตำรวจปี 2565 ประกอบกับ กฎ ก.ตร. ว่าด้วยการแต่งตั้งปี 2567 ซึ่งจะมีผลใช้ในวันที่ 2 ตุลาคมนี้ โดยกำหนดไว้ว่าต้องกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการแต่งตั้งให้ชัดเจน ใครอาวุโสอย่างไรต้องมีการระบุชัดเจน วาระการแต่งตั้งแต่งตั้งเดือนไหน ใครก่อนหลัง

โดยหลักเกณฑ์กำหนดไว้ในมาตรา 78 (1) ว่า การแต่งตั้งต้องเริ่มจากให้นายกรัฐมนตรีเริ่มแต่งตั้ง ผบ.ตร. ก่อน หลังจากนั้นให้ ผบ.ตร. ที่ได้รับการแต่งตั้ง เป็นผู้แต่งตั้งผู้ใต้บังคับบัญชาในลำดับถัด ๆ ไป จะเห็นได้ว่าในลำดับถัดไปนั้น อำนาจการแต่งตั้งจะอยู่ที่ ผบ.ตร. นายกฯ ไม่มีสิทธิแต่งตั้ง

จากสมมติฐานที่มีการระบุว่า พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. ที่อ้างว่ามีความใกล้ชิดนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมเตรียมไต่เต้าขึ้นสู่ตำแหน่ง ผบ.ตร. คนถัดไปนั้น ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากขณะนี้มีแคนดิเดตอยู่ถึง 3 คน ประกอบกับเจตนารมย์ของกฎหมายในบริบทต่าง ๆ จะต้องแต่งตั้ง ผบ.ตร. โดยทันที เพื่อให้ไปแต่งตั้งลำดับถัดไป แต่อยู่ดี ๆ จะไม่แต่งตั้ง ผบ.ตร. แล้วจะไปแต่งตั้งผู้ช่วยฯ เป็นรองฯ แล้วจะให้รองฯ เป็นแคนดิเดตนั้น ยิ่งไม่สามารถตอบได้ว่าเป็นไปตามระบบคุณธรรม

พล.ต.อ.เอก กล่าวต่อว่า ประการสำคัญคือ เรื่องนี้สุ่มเสี่ยงกับการโดนร้องต่อคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.) ซึ่งตั้งขึ้นมาเพื่อสอบทานการใช้อำนาจของผู้มีอำนาจในการแต่งตั้ง เนื่องจากหากมีการวินิจฉัยอย่างไรไปแล้ว อาจเข้าข่ายไม่เป็นไปตามระบบคุณธรรม

โดยสรุปแล้ว มีบทบัญญัติของกฎหมายที่ระบุไว้ในมาตรา 87 วรรคท้าย ที่ว่า ผู้ใดให้ ขอให้ รับว่าจะให้ทัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด แอบอ้างอำนาจของบุคคลใด เรียกรับ ยอมจะรับทรัพย์สิน หรือกระทำการโดยมิชอบเพื่อให้มีการแต่งตั้งหรือไม่มีการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจผู้ใด ใช้อำนาจโดยมิชอบไปแต่งตั้ง ระวังโทษจำคุก 5 ปี

ต่อมามีการนำข้อความดังกล่าวไปใส่ในบททั่วไปในกฎ ก.ตร. ด้วยว่า หาก ก.พ.ค.ตร. วินิจฉัยไม่เป็นไปตามกฎหมาย หรือมีการไปร้องศาลปกครองแล้วเป็นคุณกับผู้ร้อง ผู้บังคับบัญชาต้องถูกลงโทษทางวินัยโดยไม่ต้องสอบสวน และหากการดำเนินการดังกล่าวส่งผลให้เกิดผู้เสียหาย และมีการฟ้องร้อง จะทำให้ผู้บังคับบัญชาถูกลงโทษวินัยร้ายแรง ให้ออกจากราชการ

จากทั้งหมด พล.ต.อ.เอก จึงมองว่า ผู้ใช้อำนาจคงไม่กล้าเสี่ยง

พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ อดีตรอง ผบ.ตร. และ ก.ตร. ผู้ทรงคุณวุฒิ รายการคุยข้ามช็อต Exclusive Talk
พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ อดีตรอง ผบ.ตร. และ ก.ตร. ผู้ทรงคุณวุฒิ

"ประจวบ วงศ์สุข" ไม่มีทางถูกตั้งเป็นแคนดิเดต ผบ.ตร.

พล.ต.ต.วิชัย กล่าวว่า เรื่องราวในอดีตทำให้มีรอยด่างในวงการตำรวจมาแล้ว ถ้ายังจะทำแบบนี้อีก ก็มีตัวบทกฎหมายมีบทลงโทษอยู่ คำถามคือ กล้าที่จะทำผิดกฎหมายหรือ ? การแต่งตั้งตามข่าวลือดังกล่าว จากผู้ช่วยฯ ขึ้นมาเป็น รอง ผบ.ตร. ซึ่งคนแต่งตั้งก็คือ ผบ.ตร. แต่ตอนนี้มีเพียงรักษาการณ์ ผบ.ตร. ที่แม้จะมีอำนาจในการแต่งตั้ง แต่ตามความเหมาะสมแล้วยังไม่เหมาะไม่ควร ทำไม่ได้ ตามระเบียบแล้วต้องแต่งตั้ง ผบ.ตร. ก่อน ในอดีตก็มีเหตุการณ์แต่งตั้งให้ดูแล้วว่าต้องแต่งตั้งตามลำดับอาวุโส 100% ซึ่งเป็นหลักที่ถูกต้อง

นายกรัฐมนตรี เป็นผู้มีอำนาจคนเดียวในการแต่งตั้ง ผบ.ตร. ใครจะไปก้าวก่ายไปล้วงลูกไม่ได้ ถือว่าผิดกฎหมาย ไม่สามารถแต่งตั้งผู้ช่วยฯ เป็น รอง ผบ.ตร. ไม่ได้ หากโดนร้องเรียน ก.พ.ค.ตร. จำต้องติดคุกกัน

คนที่อยากจะให้องค์กรตำรวจวุ่นวาย ขอให้เลิกเสียที ช่วยทำบุญให้กับองค์กรตำรวจหน่อยได้ไหม ทำบุญให้กับตำรวจ ทำบุญให้กับประเทศชาติ ประชาชนหน่อยได้ไหม เอาคนดีมีความรู้ความสามารถมาแก้การทำงาน มาทำงานให้ประชาชนรัก ประชาชนศรัทธาจะดีกว่า

พล.ต.ต.วิชัย ย้ำว่า ไม่มีทางที่จะมีใครแต่งตั้งผู้ช่วยฯ คนนี้ขึ้นมาเป็น รอง ผบ.ตร. แม้รักษาการณ์ ผบ.ตร. จะสามารถทำได้ แต่ตนก็มองว่าไม่สมควร จะผิดกฎระบบคุณธรรม

ด้าน พล.ต.อ.เอก กล่าวว่า ปัญหาทั้งหมดเกิดจากการโยกย้ายที่ไม่เป็นไปตามระบบ ไม่เป็นธรรม ไม่ถูกต้องตามกฎหมายเมื่อราว 1 ปีก่อน ไม่ว่าจะเป็นวิกฤตศรัทธากับประชาชน ผู้บริการทั้งสองฝั่งขัดแย้งกัน เกิดการโยกย้ายลูกน้องของทั้งสองฝั่ง ทั้งที่ปัญหาอาชญากรรมยังไม่สามารถป้องกันปราบปรามแก้ไขปัญหาได้เลย เกิดความเสียหายอย่างที่ไม่สามารถประเมินได้

ดูผิวเผินเหมือนว่ารักษาการณ์ ผบ.ตร. จะสามารถแต่งตั้งผู้ช่วยฯ เป็น รอง ผบ.ตร. ได้ แต่ตามมาตรา 78 (2) ที่ระบุให้ ผบ.ตร. ซึ่งขณะนี้ก็เป็นเพียงรักษาการณ์ เป็นผู้แต่งตั้ง จำเป็นต้องย้อนดูกฎหมายตำรวจฉบับก่อนหน้า ย้อนดูไปยังรัฐธรรมนูญปี 2560 และย้อนดูสถานการณ์ก่อนมีรัฐธรรมนูญ ปี 2560 ว่าเกิดอะไรชึ้น ทำไมถึงต้องมีการระบุในกฎหมายดังกล่าว ลองทบทวนดู

โดยในรัฐธรรมนูญปี 2560 มีการระบุไว้ในมาตรา 258 (ง) ว่า ให้ปรับปรุงกฎหมายบริหารงานตำรวจ มีหลักประกันในเรื่องของคุณธรรม ไม่ให้อยู่ใต้อาณัติของบุคคลใด ให้เป็นอิสระ ซึ่งอาจเป็นรัฐธรรมนูญฉบับเดียวบนโลกก็ได้ที่มีการนำระเบียบตำรวจ รวมถึงการร้องเรียนของตำรวจผ่าน ก.พ.ค.ตร. มาใส่

ส่วนกรณีการแต่งตั้งผู้ช่วยฯ มาเป็นรอง ผบ.ตร. เกิดขึ้นจริง และมีคนไปร้อง คำถามคือ ใครจะรับผิดชอบ? ในเมื่อผู้แต่งตั้งเป็นรักษาการณ์ ผบ.ตร. จะอาศัยอำนาจใดในเมื่อกฎระเบียบระบุว่า ต้องแต่งตั้ง ผบ.ตร. ก่อน ถ้าไม่แต่งตั้งตามนี้จะไม่ถือว่าเป็นระบบคุณธรรม

เห็นด้วย ตั้ง "บิ๊กต่าย" นั่ง ผบ.ตร.

พล.ต.ต.วิชัย มองว่า หากมีการแต่งตั้ง “บิ๊กต่าย” ขึ้นเป็น ผบ.ตร. แล้ว พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล หรือ “บิ๊กโจ๊ก” อดีตรอง ผบ.ตร. มาฟ้องร้อง การร้องสามารถร้องได้ แต่ ก.พ.ค.ตร. อาจไม่รับคำร้อง เนื่องจากการแต่งตั้ง “บิ๊กต่าย” ถือว่าเป็นการแต่งตั้งตามกระบวนการของกฎหมาย เป็นการร้องเรียนที่ไม่มีประโยชน์

โดยส่วนตัวมองว่าทุกคนต่างมีคุณสมบัติเหมาะสม มีการแข่งขันกันหมด แต่ต้องมองว่าสิ่งทมี่ผ่านมาเป็นบทเรียน การที่นำคนที่ไม่อาวุโส ไม่มีความรู้ความสามารถ ขึ้นมาเป็นผู้นำองค์กรนี้มีจะปัญหา ซึ่งความจะยึดหลักตามกฎหมาย องค์กรตำรวจจะได้เดินต่อไปได้เสียที

พล.ต.ต.วิชัย กล่าวว่า หาก พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ นั่งเก้าอี้ ผบ.ตร. แล้วเหลือเวลาอยู่ 2 ปี จะทำให้การบริหารงานมีความพอดี ในการที่จะสนองนโยบาย แก้ปัญหาองค์กรตำรวจ แก้ปัญหาให้กับประชาชน ในขณะนี้ “ม้ามืด” ที่มีการอ้างว่าจะแซงขึ้นมา ขึ้นมาเหลือเวลาอยู่เพียงปีเดียว จะสามารถแก้ปัญหาอะไรได้ การยอมรับก็ไม่มี โอกาสแตกความสามัคคีก็มี องค์กรตำรวจก็เดินไม่ได้อีก

ดังนั้นตนคิดว่า การแต่งตั้ง “บิ๊กต่าย” เป็น ผบ.ตร. มีความพอดิบพอดี เข้ามาตามกฎระเบียบตามกฎหมายจะได้ไม่ต้องมีปัญหา ก็มีความเหมาะสม

พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รายการคุยข้ามช็อต Exclusive Talk
พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล

ด้าน พล.ต.อ.เอก กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติบอบช้ำมาตั้งแต่กรณีปีที่แล้ว กับปัญหาในเรื่องของการแต่งตั้ง ผบ.ตร. เราควรจะเริ่มนับ 1 ใหม่ได้แล้ว เพื่อสร้างหน้าประวัติศาสตร์ใหม่ กอบกู้วิกฤติศรัทธาจากพี่น้องประชาชน อีกทั้งปัญหาเฉพาะหน้าก็ยังมีอยู่อีกมากมาย รวมถึงกรณีที่มีชาวบ้านหันไปร้องเรียนกับ กัน จอมพลัง หรืออินฟลูเอนเซอร์ต่าง ๆ ถือเป็นความล้มเหลวขององค์กรตำรวจ

ตนมองว่าถึงเวลาแล้วที่เมื่อได้นายกรัฐมนตรีมาเป็นผู้บังคับบัญชาคนใหม่ ซึ่งก็เป็นคนรุ่นใหม่ เข้ามามีบทบาทขององค์กรที่เป็นหลักสำคัญองค์กรหนึ่ง เข้ามาช่วยปฏิรูปวงการตำรวจ ซึ่งก่อนหน้านี้ปัญหาที่เกิดขึ้นมากมายก็มาจากการแต่งตั้งที่ไม่เป็นธรรมขัดแข้งขัดขากัน

โดยหลักการ ถ้าเราได้ผู้นำองค์กรที่มาโดยระบบความถูกต้อง มีคุณสมบัติความรู้ความสามารถ ซึ่งแคนดิเดตทั้ง 3 ความรู้ความสามารถเป็นที่ยอมรับได้ เคยร่วมงานกันมา แต่สุดท้ายในกฎเกณฑ์ที่มีการกำหนดไว้ชัดเจน ก็จบที่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ คนก็ยอมรับได้

"บิ๊กโจ๊ก" มีโอกาสคัมแบ๊กเข้าชิงเก้าอี้ ผบ.ตร.

พล.ต.อ.เอก กล่าวว่า “บิ๊กโจ๊ก” มีช่องที่จะสามารถกลับมาเป็นแคนดิเดต ผบ.ตร. ได้ตลอดเวลา แต่ต้องอยู่ในเงื่อนไข 3 ประการ

ประการแรกคือ คดีอาญาสิ้นสุดลง ซึ่งข้อนี้เราไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าการดำเนินคดีอาญาจะสิ้นสุดลงเมื่อไร

ประการต่อมาคือ คดีวินัย ที่ถูกตั้งคดีวินัยร้ายแรงจากการถูกตั้งคดีอาญา ข้อนี้สุดสุดเร็ว เนื่องจากมีข้อกำหนดว่าคดีวินัยต้องสอบสวนให้เสร็จภายใน 240 วัน แต่ดูแล้วอาจไม่เสร็จง่าย ๆ เนื่องจาก “บิ๊กโจ๊ก” ใช้สิทธิ์ในการยื่นร้องอื่น ๆ ซึ่งแม้ว่าจำเป็นต้องยิดออกไป แต่ก็จะสิ้นสุดภายใน 3 - 6 เดือน ถ้าจบแล้วไม่ผิด ให้กลับมาเป็นแคนดิเดตได้ทันที หากผิดคดีวินัย โทษไล่ออก ปลดออก ก็จะต้องมาเริ่มเข้าสู่กระบวนการต่าง ๆ ก็จะยาวพอสมควร

สมมติถ้ากลับมาเป็น รอง ผบ.ตร. พร้อมเป็นแคนดิเดต ผบ.ตร. ได้ แต่ก็จะมีชนักติดหลังอยู่ เพราะถึงแม้ว่าจะมีความอาวุโสสูงสุด แต่นอกจากความอาวุโสแล้ว ก็ยังต้องดูความเหมาะสมและความประพฤติต่าง ๆ ประกอบด้วย

Bottom-PL-HLW Bottom-PL-HLW

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

PPTVHD36

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ