จากกรณีธุรกิจขายตรงชื่อดัง “The icon” ซึ่งมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความจำนวนมาก โดยมีมูลค่าความเสียหายหลายร้อยล้านบาทนั้น
ล่าสุดรายการโหนกระแส ได้สัมภาษณ์ครอบครัวผู้เสียหายจากการลงทุนกับบริษัทดังกล่าวจนคิดสั้นฆ่าตัวตาย และสัมภาษณ์ “บอสพอล” วรัตน์พล วรัทย์วรกุล ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง บริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด (The iCON) โดยในการสัมภาษณ์ในรายการ “บอสพอล” สะอื้นไห้ พร้อมบอกตอนหนึ่งว่า ตนกลัวที่จะมารายการ แต่ที่ตัดสินใจมาอยากมาตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ก็จะดี
โดย “บอสพอล” บอกตอนหนึ่งว่า ไม่เคยทราบว่ามีคนเสียชีวิต แม้จะเคยรู้ว่ามีผุ้เสียหายที่ร้องผ่าน The icon Help ซึ่งส่วนใหญ่จะเป้นการร้องเรียนของผู้ที่มีปัญหาในการทำธุรกิจ เรื่องเล็กๆน้อยๆ รวมทั้งเรื่องใหญ่ที่อยากจะร้องเรียนเรา แต่การร้องเรียนว่ามีคนเสียชีวิตเหตุการณ์รุนแรงแบบนี้ตนไม่ทราบ ถ้าตนทราบคงไม่ยอมให้เกิดขึ้น พร้อมขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิตและแสดงความเสียใจกับครอบครัว
โดย “บอสพอล” ยังบอกอีกว้าหลังจากรับฟังเรื่องราวของผู้เสียหายแล้วรู้สึกเสียใจมาก เพราะแต่ละคนได้รับผลกระทบต่อชีวิตเขาหนักมากๆจนถึงขั้นเสียชีวิต
เมื่อถามว่าเรื่องนี้จะทำอย่างไรต่อไป “บอสพอล” บอกว่า ก็ต้องเยียวยาต้องช่วย โดยตนจะรับผิดชอบ ส่วนเรื่องรายละเอียดก็ต้องเป็นไปอย่างเหมาะสมแก่ทุกๆคนเพราะมีผู้เสียหายเกิดขึ้นจำนวนมาก ซึ่งจะต้องเอาผู้เสียหายมาดูว่ากลุ่มไหนเสียหายมาก กลุ่มไหนเสียหายน้อย หลุ่มไหนจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องไปช่วยเหลือ
“จากที่ได้รับฟังแล้วผมก็พูดได้คำเดียวว่าผมจะพยายามรับผิดชอบให้เต็มที่ที่สุด คำว่าเต็มที่ที่สุด อธิบายให้เข้าใจง่ายๆก็คือว่าจนกว่าผมจะไม่มีอะไรเหลือ หรือจนกว่าผมจะตาย ก็แค่ 2 อย่างนี้ครับ”
พิธีกรถามว่าทำไมพูดเหมือนเตรียมตัวอะไรบางอย่าง “บอสพอล” บอกว่า มันไม่ได้เตรียมตัวหรืออะไรทั้งสิน การมารายการนี้ก็ไม่ได้อยากมา ไม่ได้เตรียมตัว แต่ก็เตรียมที่จะทำทุกอย่างเพื่อให้ทุกคนได้บรรเทาความเสียหายจนเขารู้สึกว่าเป็นธรรมสำหรับเขาและอยู่ภายใต้กฎหมาย ส่วนจะช่วยเป็นเงินกี่บาทตนยืนยันว่าตนจะช่วยจนบาทสุดท้าย หากหมดบาทสุดท้ายถ้าตนยังเหลือชีวิตอยู่ให้ตนไปทำงานอะไรแล้วหามาช่วยตนก็จะช่วย
เมื่อถามว่าหากต้องลงเอยเหมือนกรณี “แม่ตั๊ก” อาจจะไม่สามารถจ่ายเงินคืนให้ผู้เสียหายได้จะทำอย่างไร “บอสพอล” บอกว่า ตนจะทำจนวินาทีสุดท้ายที่ตนทำได้ แต่หากทรัพย์สินถูกฟรีซโดยกระบวนการตามกฎหมาย ก็เชื่อว่าภาครัฐมีวิธีการมีกระบวนการที่จะมาเยียวยาต่อ เพราะทรัพย์สินก็อยู่ตรงนั้นไม่ได้หายไปไหน
เมื่อพิธีกรถามว่าพูดแบบนี้เหมือนว่ายอมแพ้แล้ว “บอสพอล” บอกว่า “ผมยอมแพ้มานานแล้วครับ ผมไม่รู้ผมสู้กับไรอยู่ด้วยซ้ำ ทุกวันนี้ผมยังไม่รู้ว่าชีวิตผมสู้กับอะไรอยู่ก็ไม่รู้ ผมยอมแพ้ครับ”พน้อมบอกอีกว่า ตนไม่มีแผนอะไรสำหรับชีวิตแล้ว ตนไม่รู้ว่าตนสู้อยู่กับอะไร