“ทนายนิด้า” เผย เอาผิด “พระ ว.” คดีแชร์ลูกโซ่ไม่ได้ ต้องพิสูจน์เจตนา

โดย PPTV Online

เผยแพร่

“ทนายนิด้า” โพสต์ จะเอาผิด “พระ ว.” ในฐานะตัวการแชร์ลูกโซ่หรือผู้สนับสนุนในแชร์ลูกโซ่นั้น ต้องพิสูจน์เจตนาให้ได้ว่า ในขณะพูด พระทราบว่า “ดิไอคอน” คือแชร์ลูกโซ่

วันที่ 18 ต.ค. 67 เพจเฟซบุ๊ก “ทนายนิด้า” ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีที่อาจมีการดำเนินคดี “พระเมธีวชิโรดม” หรือ “พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี” เจ้าของนามปากกา “ว.วชิรเมธี” ในข้อหาสนับสนุนการแชร์ลูกโซ่ ซึ่งสืบเนื่องมาจากคลิปที่ท่านเคยพูดถึงธุรกิจของ “ดิไอคอน” หรือ บริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด

โดยทนายนิด้าบอกว่า ในส่วนของพระ ว. จะเอาผิดในฐานะตัวการแชร์ลูกโซ่หรือผู้สนับสนุนในแชร์ลูกโซ่ ต้องพิสูจน์เจตนาให้ได้ว่า ในขณะพูดนั้นพระทราบว่าดิไอคอนคือแชร์ลูกโซ่

คอนเทนต์แนะนำ
ปปง.ยึดทรัพย์ “ดิไอคอน” เพิ่ม 40 รายการ รวมมูลค่าเกือบ 49 ล้านบาท
เผยอาการล่าสุด 18 บอส “ดิไอคอน” เครียด ไม่ยิ้ม และคุยกันน้อยลง

“ทนายนิด้า” เผย เอาผิด “พระ ว.” คดีแชร์ลูกโซ่ไม่ได้ ต้องพิสูจน์เจตนา FB/ทนายนิด้า
“ทนายนิด้า” เผย เอาผิด “พระ ว.” คดีแชร์ลูกโซ่ไม่ได้ ต้องพิสูจน์เจตนา

แต่หากพูดไปโดยไม่ทราบว่า ดิไอคอนคือแชร์ลูกโซ่ ต่อให้มีลักษณะเชิญชวนมาเป็นครอบครัวดิไอคอนก็ไม่อาจผิดได้เพราะขาดเจตนา ซึ่งการกระทำความผิดอาญานั้นจะขาดเจตนาไปไม่ได้เลย เว้นแต่กฎหมายจะระบุไว้เป็นอย่างอื่น

การที่พระ ว. จะบอกว่า ในขณะที่พูด ไม่มีเจตนาเพราะไม่รู้ว่าเป็นแชร์ลูกโซ่ ก็ค่อนข้างมีน้ำหนักว่าไม่ทราบได้ เพราะขนาดคนมีสี ข้าราชการทหาร ตำรวจ หรือแม้แต่ครอบครัวนักกฎหมายเองบางคนควรรู้ยิ่งกว่ายังไม่รู้เลยว่ามีลักษณะลูกโซ่จริงและไปเป็นเครือข่ายอยู่ และความก็เพิ่งมาแตกว่าเข้าข่ายเป็นแชร์ลูกโซ่ เพราะเมื่อไม่นานมานี้มันมีคนมาให้ข้อเท็จจริงกันไปในทิศทางเดียวกันเป็นจำนวนมากออกสู่สาธารณะนี่เอง

ส่วนตัวไม่มองอะไรแบบไม่เป็นธรรม โดยจะไม่เอาความชอบหรือไม่ชอบมาบอกว่ากรณีใดเข้าข่ายผิดกฎหมายใดหรือไม่ผิด และไม่ยัดเยียดข้อเท็จจริงเกินไปกว่าความเป็นจริง แต่พิจารณาตามเหตุและผล และตามพยานหลักฐานที่ปรากฏ

กรณีดังกล่าวพระ ว. เทียบได้กับพรีเซนเตอร์ที่ไม่ใช่ระดับบอสนะ

ในส่วนของบอสดารา ที่อ้างว่าเป็นพรีเซนเตอร์ด้วยและเป็นบอสด้วย จะมีหน้าที่ในการโปรโมตด้วย ชักชวนคน สนับสนุนดิไอคอนต่อประชาชน เพื่อเพิ่มจำนวนสมาชิกโดยมีวัตถุประสงค์คือผลประโยชน์จากส่วนแบ่งกำไรจากจำนวนสมาชิกที่เพิ่มขึ้น จึงมีภาระหน้าที่ความรับผิดชอบที่ยิ่งยวดขึ้นไปในการตรวจสอบความถูกต้องแท้จริงเกี่ยวกับระบบภายในของดิไอคอนว่าถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ มีลักษณะฉ้อโกงหลอกลวงหรือไม่ กลยุทธ์ของบริษัทคืออะไร

ส่วนพรีเซนเตอร์สินค้า จะมีหน้าที่แค่โฆษณาตัวผลิตภัณฑ์ให้เป็นที่รู้จัก ดังนั้นเพียงการตรวจสอบว่าผลิตภัณฑ์ปลอดภัย ได้รับอนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ก็พอจะมองว่าสุจริตได้แล้ว ไม่ถึงขนาดว่าต้องรู้ว่ากลยุทธของบริษัทเจ้าของผลิตภัณฑ์เป็นยังไง เพราะก็ไม่มีหน้าที่ชักชวนสมาชิกมาลงทุนและก็ไม่ได้รับผลประโยชน์อะไรจากค่าตัวที่แน่นอนการจะเอาผิดพรีเซ็นเตอร์ที่ถือผลิตภัณฑ์ของดิไอคอนแล้วกล่าวหาว่าเป็นตัวการร่วมในขบวนการแชร์ลูกโซ่หรือผู้สนับสนุนจึงเห็นว่าไกลไป

กลับมาในส่วนของพระ ว. การรับเงินบริจาค 1 ล้านบาทก็ยังไม่มีข้อเท็จจริงว่าเป็นส่วนแบ่งรายได้จากการที่พระ ว. ชักชวนสมาชิก ข้อความที่ปรากฏไม่ว่าจะรวยเร็วก็ดิไอคอนแล้ว ส่วนการอวยยศดิไอคอนหรือการกล่าวหาว่าคนไม่เปิดใจ ไม่ปรับมายด์เซต ไม่ลงคอร์สอบรมคือดักดาน ก็ยังไม่ชัดแจ้งว่าเป็นคำชักชวน ยังไม่ถือเป็นการชักชวนโดยตรง แม้จะมีคำไม่เหมาะสม หรือไม่ใช่กิจของสงฆ์ก็เป็นคนละเรื่องกันกับคดีอาญา

ดังนั้นจึงเห็นว่าพระ ว. และดาราที่เป็นพรีเซนเตอร์เฉย ๆ ยังไม่เข้าข่ายที่จะเป็นตัวการร่วมหรือผู้สนับสนุนแชร์ลูกโซ่ของดิไอคอนนั่นเอง

Bottom-PL-HLW Bottom-PL-HLW

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

PPTVHD36

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ