"ทนายตั้ม" ลั่นอยู่ในเรือนจำได้ไม่มีปัญหา ไม่ยื่นประกันตัว

จากกรณีตำรวจกองปราบติดตามจับกุมตัวนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม ในข้อหาฉ้อโกง , ฟอกเงิน, ร่วมกันฟอกเงิน และสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิด ฐานฟอกเงิน และนางปทิตตา เบี้ยบังเกิด ภรรยา ในข้อหาร่วมกันฟอกเงิน ได้ที่ ต.แสนภูดาษ อ.บ้านโพธิ์ ฉะเชิงเทรา เมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา ก่อนควบคุมตัวมาสอบปากคำ ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) นั้น

ช่างภาพพีพีทีวี

ช่วงเช้าวันนี้ 8 พ.ย.2567 ตำรวจควบคุมตัวทนายตั้ม พร้อมภรรยา ลงมาจากชั้นบนของอาคาร เพื่อนำตัวเข้าห้องควบคุมตัว บริเวณชั้น 1 ของอาคาร หลังจากนำตัวไปสอบปากคำเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา

ซึ่งจากการสังเกตพบว่า ทนายตั้มมีสีหน้าที่เรียบเฉย ส่วนภรรยาของ ทนายตั้ม ยังคงสวมแว่นดำและหน้ากากอนามัยปิดบังใบหน้า 

เลือกตั้งสหรัฐฯ 2024: เชื่อ “ทรัมป์” เปิดทางอิสราเอลทำสงครามอิหร่าน

"รถถัง" เผยไปเตะบอลไม่เกี่ยวทำตกตาชั่ง เสียแชมป์โลก

สรุปเหตุการณ์ "รถถัง" เสียแชมป์โลก เพราะตกตาชั่ง

หลังจากนั้นไม่ถึง 5 นาที "กลุ่มญาติของทนายตั้ม" ได้ลงมาจากอาคารกองบังคับการปราบปรามเพื่อเดินทางกลับ โดยก่อนจะขึ้นรถนั้น ผู้สื่อข่าวได้พยายามสอบถามว่า ได้มีการพูดคุยอะไรกับทนายตั้มหรือไม่ ปรากฏว่าญาติของทนายตั้มไม่ได้ตอบคำถามใด ๆ และรีบเดินขึ้นรถทันที

ด้าน นายสายหยุด เพ็งบุญชู ทนายความของทนายตั้ม และภรรยา เปิดเผยว่า ทนายตั้ม ได้ยืนยันกับตัวเองในฐานะทนายความตั้งแต่เมื่อคืนวานนี้แล้วว่ามีความประสงค์ไม่ต้องยื่นประกันตัวให้กับทนายตั้ม ขอเพียงยื่นประกันตัวให้ภรรยาเพียงผู้เดียว

โดยทนายตั้มพูดทิ้งท้ายด้วยท่าทีนิ่งๆ ไว้ว่า “ขอให้ผมในฐานะทนายความรวบรวมพยานหลักฐานให้ครบถ้วน เตรียมพร้อมสู้คดี ตัวเขาเองไม่ได้มีปัญหาอะไร อยู่ในเรือนจำได้ และยังคงยืนยันทุกอย่างตามที่เคยได้พูดไปว่าเขาไม่ได้โกงใคร“

 ส่วนเงินสดหรือหลักทรัพย์จะเตรียมมาเท่าไหร่นั้น เป็นเรื่องของญาติ แต่ทั้งหมดก็ต้องขึ้นอยู่กับหลักเกณฑ์และดุลยพินิจของศาลด้วย

อย่างไรก็ตาม ทางทนายตั้ม และทีมงานทางด้านกฎหมายมั่นใจว่า 3 ข้อหาที่ทางทนายตั้มได้ถูกแจ้งข้อกล่าวหานั่น สามารถต่อสู้ได้ เนื่องจากทั้ง 3 ข้อหามันก็คือ ข้อหาเดียว คือ ฉ้อโกง แต่แบ่งเป็น 3 กรรม ได้แก่ คดีเงิน 71 ล้านบาท , ซื้อรถเบนซ์ 1.5 ล้านบาท และคดีโครงการบ้าน 9 ล้านบาท ซึ่งก้ำกึ่งไปทางคดีแพ่งและคดีอาญา ซึ่งจะต้องใช้หลักฐานในการต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริง.

ขณะที่นายสมชาติ พินิจอักษร ทนายความของเจ๊อ้อย ระบุว่า ขณะนี้ตัวเองเดินทางไปที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก เพื่อขอยื่นคัดค้านประกันตัวทนายตั้ม และภรรยา เพราะเกรงว่าจะหลบหนีแล้วไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน รวมถึงไปข่มขู่คุกคามผู้อื่น

ด้าน พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยความคืบหน้าการสอบปากคำ "ทนายตั้ม" และภรรยา เมื่อคืนที่ผ่านมา โดยระบุว่าผู้ต้องหาทั้ง 2 คนยังคงให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา นอกจากนี้ทั้งคู่บอกด้วยว่าจะทำหนังสือคำให้การมาชี้แจงเพิ่มเติมภายใน 15 วัน

และวันนี้พนักงานสอบสวนจะคุมตัวผู้ต้องหาไปขออำนาจศาลอาญาฝากขัง โดยคัดค้านการประกันตัวเนื่องจากผู้ต้องหามีพฤติการณ์ยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ข่มขู่พยาน และมีพฤติการณ์หลบหนี

ส่วนที่ผู้ต้องหาอ้างว่าไม่ได้หลบหนี แค่ไปทำบุญ ก็ไม่ได้มีผลเปลี่ยนแปลงในเรื่องของพยานหลักฐาน และที่ทนายตั้มอ้างว่าแต่งสูทรอมา 5 วันแล้ว แต่ตำรวจไม่ไปจับกุม ก็ไม่ได้มีผล เช่นกัน

ส่วนการขยายผลดำเนินคดีกับผู้ร่วมกระทำความผิดคนอื่นๆ นั้น ยังอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวน ซึ่งหากพบพยานหลักฐานเชื่อมโยงถึงบุคคลใดก็จะต้องดำเนินคดีเพิ่มเติม