นายสายหยุด เพ็งบุญชู ทนายความของ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เดินทางมาให้สัมภาษณ์หลังเข้าเยี่ยม นางปทิตตา เบี้ยบังเกิด ภรรยาของทนายตั้ม ซึ่งการเข้าเยี่ยมได้พูดคุยประมาณ 15 นาที ภรรยาทนายตั้มมีอาการเครียดและวิตกกังวล เป็นห่วงคนข้างนอก และคิดถึงลูก ได้ฝากข้อความไปบอกลูก และฝากตนเองว่า จะให้ใครเข้ามาเยี่ยมบ้าง รวมถึงมีการสอบถามเรื่องการประกันตัว แต่ตัวเองก็ตอบกลับไปว่าขณะนี้ยังตอบไม่ได้เนื่องจากต้องรอให้พ้นฝากแรก 12 วันไปก่อน
ส่วนของทนายตั้มนั้น พรุ่งนี้ (12 พ.ย.67) เช้าตนเองจะเข้าไปเยี่ยม ซึ่งหากยังต้องเยี่ยมผ่านวีดีโอคอนเฟอเรนซ์อยู่ในช่วง 5 วันแรก ก็คงจะถามในเรื่องส่วนทั่วไป เมื่อพ้น 5 วันไปแล้วถึงจะคุยเรื่องคดี เพราะมองว่าผ่านคอนเฟอเรนซ์แล้วไม่เป็นส่วนตัว
ส่วนกรณีเงิน 39 ล้านบาท ที่ตำรวจยังไม่เจอตัว "สากับนุ" มีความกังวลอะไรหรือไม่ นายสายหยุด บอกว่า ตนเองขอไม่ก้าวล่วงดีกว่า เพราะคดีนี้ยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหากับทนายตั้ม และตนเองก็ยังไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในคดีนี้ วิพากษ์วิจารณ์ไปก็ไม่ดี โดยหากมีการออกหมายจับทั้ง 2 คนในภายหลังแล้วมีความเกี่ยวพันกับทนายตั้ม มองว่าตามหลักกฏหมายแล้ว คนที่ซัดทอดคนอื่นเพื่อให้ตัวเองพ้นผิด ก็เป็นพยานที่ฟังได้ยากเหมือนกัน ซึ่งตนเองก็ยังไม่ได้ถามรายละเอียดเรื่องนี้กับลูกความเช่นกัน
ยึดทรัพย์แล้ว 71 ล้าน เงินสด-บ้านหรู“ทนายตั้ม”
เปิดสถิติ ลิเวอร์พูล บ่งชี้มีโอกาสเกิดเหตุซ้ำรอยซีซั่น 2019-20 อีกครั้ง
เช็กสถิติหวย-สลากกินแบ่งรัฐบาล ย้อนหลัง 10 ปี งวดวันที่ 16 พ.ย.
"ถ้าผมดูพยานหลักฐานของตำรวจ แล้วชัดเจนว่าลูกความผมกระทำความผิดจริง ผมไม่รับทำแน่นอน ถ้าผมดูแล้วอย่างที่เป็นข่าวว่ามีอันนั้นอันนี้มาแตะเชื่อมโยง ฟังดูว่าเขาผิดแล้วให้ผมไปสู้คดีผมคงไม่รับ เพราะทำคดีแพ้ผมไม่อยากทำ"
ส่วนประเด็นเรื่องเงิน 71 ล้าน หรือ 2 ล้านยูโร ที่ก่อนหน้านี้ธงการต่อสู้คดีว่าจากให้โดย เสน่หา มาเป็น ให้ลงทุนนั้น ทนายสายหยุด บอกว่า เงิน 71 ล้าน ในคดีแพ่ง บอกไว้ว่า “ผู้ให้ให้ทรัพย์ ผู้รับรับทรัพย์” บอกไว้เพียงแค่นี้ แต่ต้องมาตีความว่า ที่ทนายตั้มบอกว่า ให้โดยเสน่หา นั้นมันเหมือนกับการไปขอเงินที่อ้อยมาทำธุรกิจเลี้ยงครอบครัว ไปขอเขา 2 ล้านยูโร พี่อ้อยบอกว่า "ไม่มากนิ เดี๋ยวพี่ช่วย" ทนายตั้มก็รับมา ซึ่งข้อเท็จจริง ตรงที่ว่า จะคืนเมื่อไหร่ คืนอย่างไร ตรงนั้นหายไป ทำให้ทนายตั้มเข้าใจว่าให้โดย เสน่หา
เมื่อไม่ได้มีการพูดเรื่องชักชวนลงทุน มันเป็นการหลอกตรงไหน ผมก็บอกว่า ถ้ายืมก็ยืม มาทวงตามกฎหมาย มันมีข้อกฎหมายยึดทรัพย์ ไม่ใช่มารวมทุกอย่างแบบนี้แล้วเอาเขาเข้าคุก แบบนี้ไม่น่าจะถูก