จากกรณีนายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ หรือ “ฟิล์ม” ดารานักแสดงชื่อดัง ที่ถูกพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ออกหมายเรียกให้เข้ารับทราบข้อกล่าวหาพยายามกรรโชกทรัพย์ จากกรณีคลิปเสียงเรียกรับเงิน 20 ล้านบาท จาก บอสปัน ผู้บริหารบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด นั้น
ล่าสุด นายสาคร ศิริชัย ทนายความของ “ฟิล์ม รัฐภูมิ” เปิดเผยว่า นายรัฐภูมิได้รับหมายเรียกจากตำรวจแล้ว และจะไปพบตำรวจตามหมายเรียกในวันนี้ พร้อมกับยืนยันว่าไม่ได้หลบหนี และขณะนี้ตนได้ขอถอนตัวจากการเป็นทนายความในคดีนี้แล้ว
โดยนายสาคร ชี้แจงถึงขอถอนตัวจากการเป็นทนายความในคดีดังกล่าวว่า เป็นเรื่องเหตุผลส่วนตัว ไม่ได้มีความขัดแย้งอะไรกัน แค่ไม่สะดวกใจที่จะทำคดีต่อเท่านั้น แต่ก่อนหน้าที่ตนจะถอนตัวจากการเป็นทนายความ เมื่อวันที่ 22 พ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งได้ไปลงบันทึกประจำวันกับพนักงานสอบสวน กก.2บก.ป.เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่านายรัฐภูมิ จะไม่หลบหนี และประสงค์จะสู้คดี โดยในวันที่ 25 พ.ย.ที่ผ่านมา ได้แจ้งนายรัฐภูมิ ทราบว่าตนจะขอถอนตัวจากคดีนี้
นายสาคร กล่าวต่อว่า เดิมทีนายรัฐภูมิ จะเดินทางมาพบพนักงานสอบสวนก่อนที่จะครบกำหนดของการออกหมายเรียก แต่พนักงานสอบสวนแจ้งว่าเป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจ จึงแนะนำให้มาตามกำหนดนัดตามหมายเรียกดีกว่า เพื่อให้สะดวกกับทุกฝ่าย และจะได้ไม่ต้องควบคุมตัว เพราะคดีไม่ได้มีความรุนแรงอะไร
ส่วนรายละเอียดการลงบันทึกประจำวันของทนายความนั้น ระบุว่า นายรัฐภูมิ มีความประสงค์จะต้องสู้คดี และไม่หลบหนี ซึ่งมีที่อยู่ตามบัตรประชาชนชัดเจน และทนายความยืนยันว่านายรัฐภูมิ จะไม่เข้าไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน พร้อมต่อสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรม หากพนักงานสอบสวนจะเรียกนายรัฐภูมิมารับทราบข้อกล่าวหา ให้แจ้งผ่านทนายความ หรือผ่านเบอร์โทรศัพท์ของทนายความ และเบอร์โทรศัพท์ของนายรัฐภูมิ ที่ให้ไว้
อาหารกินบ่อยเสี่ยง “ไขมันพอกตับ” ปัจจัยก่อมะเร็งตับถึงไม่ดื่มแอลกอฮอล์
ผู้สื่อข่าวถามว่า ทำไมนายรัฐภูมิ ถึงเก็บตัวเงียบไม่ออกมาชี้แจงกับสื่อนายสาคร ระบุว่า ตนไม่ทราบ แต่คาดว่าน่าจะเป็นเหตุผลส่วนตัว เพราะเรื่องบางเรื่องเขาอาจจะใช้เป็นหลักฐานในการต่อสู้คดี หากไปพูดในข้อเท็จจริงทั้งหมด ก็เกรงว่าจะไม่เหมาะสม
นายสาคร กล่าวอีกว่า ครั้งล่าสุดที่ตนได้พูดคุยกับนายรัฐภูมินั้น ยอมรับว่านายรัฐภูมิมีความเครียด ซึ่งเป็นปกติของคนที่ต้องคดี และเจ้าตัวก็เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะพนักงานสอบสวนตั้งข้อหาพยายามกรรโชกทรัพย์ แต่ในมุมของทนายความมองว่าน่าจะเข้าข่ายพยายามฉ้อโกง แต่ก็ไม่รู้ว่าพนักงานสอบสวนมีพยานหลักฐานอะไรที่จะนำไปสู่การตั้งข้อกล่าวหาพยายามกรรโชกทรัพย์หรือไม่
- คอนเทนต์พิเศษ
สำหรับคุณ - TOP สังคม
- วิดีโอยอดนิยม
