วันที่ 11 ธ.ค.2567 นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของ บอสพอล-วรัตน์พล วรัทย์วรกุล ผู้ต้องหาในคดีบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด เปิดเผยกรณีที่เพจเฟซบุ๊ก “วรัตน์พล วรัทย์วรกุล” เผยแพร่ “สารจากเรือนจำฉบับที่ 2” ระบุว่า ข้อความที่มีการเผยแพร่ผ่านเพจดังกล่าว เป็นข้อความที่บอสพอลฝากผ่านทีมทนายให้ส่งสารไปถึงคนทั่วไปจริง โดยเป็นความตั้งใจของบอสพอลหลังไม่ได้รับประกันตัว ว่าอยากสื่อสารคำพูดของตัวเองออกไปข้างนอกเรือนจำ
จึงมีการพูดคุยกับทีมทนายว่าจะทำอย่างไร จนได้ข้อสรุปว่าทีมทนายที่เข้าไปเยี่ยมแต่ละครั้ง ก็จะมีการจดบันทึกคำพูดของบอสพอลที่ต้องการจะสื่อสารออกมาด้วย โดยจดตามคำบอกเล่าไม่ได้มีการดัดแปลงใดๆ รวบรวมทีละท่อนจดออกมาเป็นจดหมายแต่ละฉบับ ซึ่งตอนนี้รวบรวมมาได้เป็นสารถึง 5-6 ฉบับแล้ว ซึ่งจะทยอยเผยแพร่ผ่านเพจเฟซบุ๊กของบอสพอล
"เขาอยากสื่อสารมานานแล้วมันไม่ได้ประกัน คือขอประกันไปคงไม่ให้คงไม่ได้ก็เลยต้องใช้วิธีนี้ มันเพิ่งฉบับที่ 2 เองนะ ฉบับแรกเราโพสต์กันที่เพจดิไอคอน นั่นคือฉบับแรก ฉบับที่ 2 โพสต์ที่เพจของคุณพอล ฉบับที่ 3, 4, 5, 6 คงจะโพสต์ในช่องทางเดียวกันคือเพจของคุณพอลเป็นหลัก"
“ชาล็อต-ณวัฒน์” แถลง เผยกลโกงมิจฉาชีพใช้เอไอหลอกสูญเงิน 4 ล้าน
ออสเตรเลียสั่งสอบ ตัวอย่างไวรัสอันตราย 300 ตัวอย่างหายไปจากห้องแล็บ
คนไทยค้นหาอะไรบน Google มากที่สุดในปี 2024 ?
ทั้งนี้นายวิฑูรย์ ยังพูดถึงเนื้อหาในสารฉบับที่ 2 ที่บอสพอลบอกว่าคดีดิไอคอนกรุ๊ปไม่มีผู้เสียหายนั้นว่า เรื่องนี้มีการพูดคุยกับทีมทนายความเป็นประจำตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เพราะจาก 9,000 กว่าคนที่เข้ามาแจ้งความกับดิไอคอนกรุ๊ปนั้น ร้อยละ 70 เป็นคนที่ซื้อกินหรือใช้เอง หรือนำไปขายต่อรายย่อย ส่วนใหญ่จะเปิดบิลราคา 2,500 บาท ซึ่งกลุ่มนี้ได้รับสินค้าไปหมดแล้ว ส่วนร้อยละ 20 เป็นระดับซูเปอร์ไวเซอร์ เปิดบิลราคา 25,000 บาท ซึ่งบางคนก็เปิดบิลตรงกับบริษัท บริษัทส่งของให้ก็คือจบ และบางคนก็เปิดบิลกับแม่ทีม หากแม่ทีมส่งให้ก็จบ แต่หากแม่ทีมไม่ส่งให้ คนที่ทำผิดก็คือแม่ทีม ไม่ใช่บอสหรือบริษัท
ส่วนอีกร้อยละ 10 คือกลุ่มดีลเลอร์ที่บิลราคา 250,000 บาท ส่วนใหญ่เข้ามาแจ้งความแล้วบอกว่าสินค้าไม่มีคุณภาพจึงขายไม่ได้ ซึ่งกลุ่มนี้บริษัทก็ส่งของให้ตามสัญญา จะขายได้ไม่ได้ก็เป็นเรื่องของดีลเลอร์ ส่วนหากบริษัทจะมีการสัญญาว่าจะช่วยขายแล้วขายไม่ได้ ก็ควรจะต้องเป็นเรื่องความผิดทางแพ่ง ไม่ใช่นำคนมาขังในข้อหาฉ้อโกง ซึ่งประเด็นนี้ตนเองพูดในข้อกฎหมาย แต่บอสพอลก็ฝากสารในมุมนี้ มาในสารฉบับที่ 3 ที่เตรียมจะเผยแพร่ด้วย
นายวิฑูรย์ ยังบอกอีกว่า ส่วนสภาพจิตใจของผู้ต้องหานั้น ตอนนี้ทุกคนมีความเครียดเนื่องจากรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมในการต่อสู้คดี โดยเฉพาะเรื่องของการที่ไม่ได้รับการประกันตัวออกมาต่อสู้คดี ทำให้บอสพอลเขียนระบายในจดหมายว่าเหมือนกับถูกมัดมือมัดเท้า และถูกโจมตีอยู่ฝ่ายเดียว ซึ่งตอนนี้ผู้ต้องหาทั้งหมดก็เริ่มปรับตัวอยู่ข้างในกันได้แล้ว แต่ทุกคนก็ยังโหยหาอิสรภาพ โดยเฉพาะในระหว่างที่คดียังไม่มีคำพิพากษา และข้อเท็จจริงยังไม่ชัดเจนว่ามีความผิดจริงหรือไม่
ส่วนความคืบหน้าเรื่องของการยื่นขอประกันตัวผู้ต้องหานั้น นายวิฑูรย์ ระบุว่า ขณะนี้ตนเองกำลังรอดูก่อนว่าอัยการจะส่งฟ้องทันตามกำหนดฝากขังหรือไม่ ซึ่งของผู้ต้องหาทั้ง 17 คนจะครบกำหนดในวันที่ 8 ม.ค. 2568 และของบอสพอลจะครบกำหนดในวันที่ 9 ม.ค. 2568 หากส่งฟ้องไม่ทัน ผู้ต้องหาก็จะได้รับการปล่อยตัว แต่หากส่งฟ้องทันตนเองก็จะไปยื่นขอประกันอีกครั้งในวันที่มีการส่งสำนวนฟ้อง เนื่องจากต่อให้ยื่นขอประกันตัวในช่วงนี้ ก็เชื่อว่าศาลจะยังไม่ให้ประกันอยู่ดี
ส่วนความคืบหน้าในการดำเนินคดีกับกลุ่มคนที่ทำให้บริษัทดิไอคอลกรุ๊ปเสียหายนั้น นายวิฑูรย์ บอกว่า ได้ดำเนินการไปแล้ว 3 ออเดอร์ ซึ่งสิ้นสุดไปแค่การแจ้งความกับทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด ส่วนคนอื่นๆ ก็ยังไม่ได้ทำอะไรเพิ่มเติม พร้อมบอกว่า “ ตอนนี้รูปคดีเราทำงานแก้ไขก่อน ส่วนงานแก้แค้นเอาไว้ทีหลัง” เน้นเรื่องการสู้ข้อกล่าวหาของดีเอสไอ ซึ่งฝ่ายตนเองก็พยายามให้ความร่วมมือ แต่ขอข้อมูลหลายอย่างไปจากดีเอสไอก็ไม่ได้รับข้อมูลกลับมา ทั้งเรื่องรายละเอียดคนที่แจ้งความในคดีดิไอคอน มีการแจ้งความมาอย่างไรบ้าง ทำให้เป็นอุปสรรคในการสู้คดี