วันที่ 19 ม.ค. 2568 หน่วยเฉพาะกิจราชมนู (ฉก.ราชมนู) ร่วมกับ ตำรวจ.สภ.แม่สอด , ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) และฝ่ายปกครอง สนธิกำลังออกลาดตระเวนและเฝ้าตรวจ บริเวณ บ้านวังตะเคียนใต้ ม.7 ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก
โดยขณะลาดตระเวนอยู่นั้นได้ตรวจพบบุคคล กำลังเดินข้ามผ่านช่องทางธรรมชาติจากฝั่งประเทศเมียนมาข้ามมายังประเทศไทย ทางเจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตนเข้าตรวจสอบพบว่ากลุ่มบุคคลดังกล่าวเป็นบุคคล สัญชาติอินโดนีเซีย ตรวจสอบทั้งหมดไม่มีวีซ่าผ่านแดนโดย ลักลอบข้ามแดนมาฝั่งไทย จำนวน 32 คน (ช.30 ญ.2 )
จากการซักถาม บุคคลทั้ง 32 คนให้การว่า ทำงานอยู่ใน จ.เมียวดี ประเทศเมียนมา และไม่ประสงค์จะทำงานต่อ จึงลักลอบข้ามมายังฝั่งไทยตามช่องทางธรรมชาติเพื่อเดินทางกลับประเทศของตน เจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวน จึงควบคุมตัวส่ง พนักงานสอบสวนสภ.แม่สอด เพื่อซักถาม และดำเนินการตามกฏหมายต่อไป
รายงานข่าวจากหน่วยข่าวทางทหารในพื้นที่ เปิดเผยว่า การหลบหนีของกลุ่มคนชาวอินโดนีเซียดังกล่าวเกิดมาจากกรณีที่เมื่อวันที่ 15 ม.ค.2568 ที่ผ่านมา กลุ่มผู้นำ กกล.BGF และ DKBA ได้เรียกประชุมด่วน ผู้ประกอบธุรกิจชาวจีน เพื่อแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ การหลอกลวง และการค้ามนุษย์ ในพื้นที่ จ.เมียวดี รัฐกะเหรี่ยง ในประเทศเมียนมา จึงทำให้ผู้ที่เข้าไปทำงานผิดกฎหมายในพื้นที่ดังกล่าวรวมตัวกันหลบนายกมาเพราะอาจถูกกดดันดังกล่าว