พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) กล่าวถึงความคืบหน้าการเลือกจัดซื้อเครื่องบินขับไล่กริพเพนของสวีเดนทดแทนเอฟ-16 กองบิน1 ที่จะปลดประจำการ ว่า อยู่ในช่วงของการดูในรายละเอียดที่เพิ่มเติมมา ซึ่งโครงการจะแบ่งเป็นแพ็คเกจหลัก เรื่องขีดความสามารถสมรรถนะส่วนนี้ไม่ได้กังวลอะไร และการชดเชยที่สัมพันธ์กับมูลค่าโครงการโดยตรง (direct offset) การนำเข้าอุปกรณ์ การถ่ายทอดเทคโนโลยี การให้ลิขสิทธิ์ทางปัญญาเกี่ยวกับระบบ Tactical data link
ที่จะสามารถต่อยอดไปยังหน่วยงานอื่นได้ รวมทั้งการชดเชยโดยอ้อม หรือ Indirect offset ซึ่งยังเป็นนามธรรมค่อนข้างมากจากมูลค่าที่สวีเดนเสนอมา โดยมองว่า การชดเชยตอบแทนที่ไทยจะได้รับทั้งเรื่องสินค้า และการท่องเที่ยว ต้องแปลงเป็นมูลค่าให้ได้และต้องเป็นรูปธรรมมากกว่านี้
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.กลาโหม เข้าใจรูปแบบที่กองทัพอากาศใช้ตัดสินใจจัดซื้อเครื่องบินฝูงใหม่ โดยการคำนึงถึงผลประโยชน์ที่จะเกิดขึ้น ผบ.ทอ. กล่าว
ทั้งนี้ นับตั้งแต่การคัดเลือกจาก 22 แบบ เหลือ 6 แบบ จาก 6 แบบเหลือ 2 แบบคือ F-16 กับ กริพเพน ซึ่งมีใช้งานอยู่ในกองทัพอากาศ และมีขีดความสามารถในการซ่อมบำรุง กำลังพลมีความคุ้นเคย ซึ่งจะช่วยประหยัดงบประมาณได้มาก จนมาเหลือ 1 แบบคือกริพเพนซึ่งเรามองว่าเหมาะสมที่สุด เราให้น้ำหนักเรื่องการถ่ายทอดเทคโนโลยีและการเพิ่มขีดความสามารถเป็นหลัก รวมทั้งเรื่องชดเชยการนำเข้า ซึ่งตามที่สวีเดนเสนอมานั้นมีมูลค่ากว่าเครื่องบินที่ไทยจะจัดซื้อ ถือว่าเป็นสิ่งที่จะเกิดประโยชน์กับประเทศชาติ แต่ก็จำเป็นต้องรอบคอบและละเอียดรวมทั้งมีความชัดเจนในเรื่องการประกอบสัญญาก่อนที่จะลงนาม
โดยคาดว่าในช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม 2568 จะเสนอเข้า ครม.ให้อนุมัติแบบ เพราะขณะนี้ต้องจัดทำรายละเอียดให้ชัดเจน ซึ่งมีคณะกรรมการที่พูดคุยกับทางสวีเดนอย่างต่อเนื่องทุกวัน และเสนอความต้องการเพิ่มเติม เพราะยังมีเรื่องเงื่อนไขตอบแทนที่เป็นนามธรรมอยู่จะต้องทำให้เป็นรูปธรรม ซึ่งไทย-สวีเดนถือว่ามีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นในทุกระดับอยู่แล้ว
เมื่อถามว่า กริพเพนคือคำตอบสุดท้ายหรือไม่ ผบ.ทอ. กล่าวว่า จนถึงตอนนี้ถือว่าการเสนอเงื่อนไขที่ดีที่สุดคือ 'กริพเพน'