ที่จ.สุพรรณบุรี เกิดเหตุไฟไหม้ป่าบนภูเขาโป่งคอม บ้านโปงคอม หมู่ 7 ตำบลด่านช้าง อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี ลุกลามขยายวงกว้างแดงเต็มภูเขาดูแล้วน่าสะพรึงกลัว โดยนายพีรพงษ์ เมืองวงษ์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 ตำบลด่านช้าง ได้รับแจ้งว่ามีไฟไหม้ที่บนภูเขา จึงทำการตรวจสอบพบว่ามีไฟกำลังลุกไหม้ ต้นไม้ใบหญ้าแห้งจากบนภูเขาก่อนจะลามลงมาที่ชายเขา ซึ่งมีพืชไร่ ไร่มันสำปะหลัง ป่ายูคา พืชผลทางการเกษตรของชาวบ้าน และวัวที่ชาวบ้านเลี้ยงไว้ กำลังจะถูกไฟไหม้นับ 10 ตัว
จึงประสาน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่ป้องกัน อบต.ด่านช้าง นำกำลังพร้อมรถน้ำดับเพลิงไปตรวจสอบพบไฟกำลังไหม้ลุกลามลงมาจากเทือกเขาเป็นวงกว้างเผาใบไม้ หญ้าแห้ง และต้นมันสำปะหลังในไร่ ของชาวบ้านกำลังจะลามเข้าคอกวัว จึงช่วยกันดับโดยใช้เครื่องเป่าลม ไม้ตบและกิ่งไม้ เท่าที่หาได้ เบื้องต้นสามารถช่วยชีวิตวัวเอาไว้ได้ พร้อมทำแนวกันไฟบริเวณดังกล่าวเอาไว้ แต่ไฟก็ยังไหม้ขยายวงลามไปยังจุดอื่น
ต่อมาเจ้าหน้าที่ ป้องกัน อบต.ด่านช้าง ได้ประสานนายเชาว์ สุขรักษ์ เจ้าพนักงานป่าไม้ชำนาญงาน หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาผืนป่าที่ สพ.1 (ด่านช้าง) จัดกำลังเจ้าหน้าที่ชุดควบคุมไฟป่าพร้อมอุปกรณ์เข้าสนับสนุน ในการดับไฟป่า ซึ่งเป็นไปด้วยความยากลำบากเนื่องจากพื้นที่เกิดเหตุอยู่บนภูเขา
ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 ตำบลด่านช้าง กล่าวว่า ไฟป่าที่ไหม้เทือกเขาโป่งคอม ได้ลุกไหม้ขึ้นตั้งแต่ เมื่อวันที่ 28 ม.ค. 2568 ที่ผ่านมา ซึ่งไฟได้ลุกไหม้มาจากทาง หมู่ 4 บ้านพุน้ำร้อน ซึ่งเป็นเขตติดต่อกับ หมู่ 7 บ้านโป่งคอม โดยวันนี้ 30 ม.ค. ไฟได้ลุกไหม้และลามทั่วภูเขา ทำให้เจ้าหน้าที่ ป่าไม้ เจ้าหน้าที่ อบต.ด่านช้าง พร้อมกับผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ได้ช่วยกันนำอุปกรณ์ดับไฟมาช่วยกันดับไฟและทำแนวกันไฟ ที่กำลังจะลุกลามเข้าไร่พืชผลการเกษตรของชาวบ้านและคอกวัวที่มีวัวกว่า 10 ตัว แต่ด้วยลมที่พัดแรงทำให้การดับไฟและทำแนวกันไฟเป็นไปอย่างยากลำบาก โชคดีที่ดับไฟทันหากดับไฟไม่ทันอาจจะทำให้ให้วัวที่อยู่ในกว่า 10 ตัว ถูกเผาทั้งเป็น ไฟที่ไหม้ครั้งนี้เฉพาะหมู่ 7 ตำบลด่านช้าง ที่มีพื้นที่เป็นป่าชุมชนเนื้อที่กว่า 5,000 ไร่ วันนี้ไหม้ไปแล้วกว่า กว่า 3,000 ไร่
ซึ่งก่อนหน้าประมาณ 2 อาทิตย์ก็เกิดไฟไหม้ป่าชุมชนเสียหายไปกว่า 300 ไร่รวมแล้วเกือบ 1,000 ไร่ ส่วนสาเหตุนั้นเชื่อว่ามาจากคนที่ขึ้นไปหาของป่าล่าสัตว์แล้วจุดไฟเผาป่า ซึ่งตอนนี้ทางผู้นำชุมชนเจ้าหน้าที่ อบต.ด่านช้าง เจ้าหน้าที่ป่าไม้ได้มีการเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันที่จะไม่ให้ไฟลุกไหม้ขึ้นอีกโดยมีการสลับเปลี่ยนหมุนเวียนออกตรวจตราพื้นที่อย่างต่อเนื่อง
เหตุการณ์ไฟไหม้เทือกเขาโป่งคอม ตำบลด่านช้าง อ.ด่านช้าง ครั้งนี้น่าจะเกิดจากฝีมือมนุษย์ ที่ขึ้นไปล่าสัตว์ป่าบนเขาและได้จุดไฟไล่สัตว์ป่า จนทำให้ไฟลุกลามไหม้เขาทั้งลูกเนื้อที่เกือบ 1,000 ไร่ ซึ่งการก่อเหตุของคนพวกนี้ได้สร้างความเสียหายให้กับผืนป่าทรัพยากรธรรมชาติ ชีวิตสัตว์ เช่น เก้ง หมูป่า ไก่ป่า กระต่าย ผึ้ง ต้นไม้ กอไผ่ที่ออกหน่อให้ชาวบ้านได้เข้าไปหามาขายแต่กลับมาถูกคนเผาทำลาย นอกจากนี้ยังเป็นการเพิ่มมลพิษทางอากาศ PM 2.5 ที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ รัฐบาลได้ประกาศห้ามเผาเป็นวาระแห่งชาติ แต่คนก่อเหตุกลับก่อเหตุแบบเย้ย
ด้านนายเชาว์ สุขรักษ์ เจ้าพนักงานป่าไม้ชำนาญงาน หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาผืนป่าที่ สพ.1 (ด่านช้าง)กล่าวว่า ได้สังเกตการณ์แจ้งเตือนของจุด ฮอตสปอต ที่รายงานขึ้นหน้าจอของป่าไม้ ซึ่งวันนี้ก็มีขึ้นหลายจุดในพื้นที่อำเภอด่านช้าง โดยเฉพาะเทือกเขาโป่งคอม ตำบลด่านช้าง แต่เนื่องด้วยพื้นที่ที่จะเข้าไปควบคุมไฟป่าการเดินทางเข้าไปอย่างยากลำบาก ทำให้อาจจะไปควบคุมได้ล่าช้าบ้าง แต่ก็ได้จัดชุดเฝ้าระวังลาดตระเวนไว้กับชาวบ้านและผู้นำชุมชนด้วย ซึ่งตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้ได้ประสานหน่วยงานจากหลายพื้นที่ขอยืมอุปกรณ์เครื่องพ่นลมดับไฟและอุปกรณ์ทำแนวกันไฟมาให้เจ้าหน้าที่และชาวบ้านได้ช่วยกันขึ้นไปดับไฟและทำแนวกันไฟด้วย
เจ้าหน้าที่ผู้ใหญ่บ้านและผู้นำชุมชนได้ฝากไปถึงมือจุดไฟเผาป่าว่าไม่อยากให้จุดไฟเผาป่าอีก ที่ผ่านมาไฟก็ไหม้ทุกปี ไม่เคยเว้นสักปีเดียว ทำให้สัตว์ที่อาศัยอยู่ในป่าสูญหายและสูญพันธุ์ นอกจากสัตว์ที่สูญหายและสูญพันธุ์แล้วป่าโป่งคอม ที่เป็นพื้นที่ป่าชุมชนที่ชาวบ้านใช้หาของป่า ไม่ว่าจะเป็นหน่อไม้ เห็ดโคน หรือผักหวาน ตอนนี้เริ่มหดหายและน้อยลงไปทุกครั้งที่มีการจุดไฟเผาป่า อยากให้ช่วยกันรักษาผืนป่า จะได้มีไว้ให้ลูกหลานได้เห็นผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์
สำหรับสถานการณ์ไฟไหม้ขณะนี้ได้เกิดขึ้นหลายจุด ลักษณะ เหมือนคนแกล้งเผาไล่เป็นจุด เจ้าหน้าที่ได้แบ่งกำลัง ขึ้นไปดับ บางจุดสามารถควบคุมไม่ไห้ลุกลามแต่ยังมีไฟไหม้ตอไม้ กอไผ่ กลางเขาที่เจ้าหน้าที่เข้าไม่ถึงยังมีกลุ่มควัน ลอยไปตามภูเขา ยังไม่สามารถดับไฟได้สนิท นอกจากนี้ยังมีภูเขาพื้นที่ อำเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งอยู่ติดกันก็มีไฟกำลังลุกไหม้ ซึ่งบริเวณดังกล่าวมีไร่อ้อย และไร่มันสำปะหลังจำนวนมากที่ยังไม่ได้ตัด ชาวบ้านในพื้นที่เป็นห่วงกลัวว่าไฟจะลุกลามข้ามเขตเข้าไหม้ไร่อ้อย ไร่มันสำปะหลัง กลัวจะได้รับความเสียหาย
ล่าสุดได้เกิดไฟไหม้ขึ้นอีกในพื้นที่หมู่ 4 บ้านพุน้ำร้อน ตำบลด่านช้าง เจ้าหน้าที่และผู้นำชุมชนอย่ระหว่างช่วยกันดับ
- คอนเทนต์พิเศษ
สำหรับคุณ - TOP สังคม
- วิดีโอยอดนิยม
