ทนายสายหยุด เพ็งบุญชู อดีตทนายความของ “ทนายตั้ม” หรือ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ให้สัมภาษณ์กับพีพีทีวี วิเคราะห์ชะตากรรมของทนายตั้ม รวมถึงผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้น หลังจากเมื่อวานนี้มีรายงานหลังศาลมีการนัดตรวจพยานหลักฐานว่า 2 ใน 7 ผู้ต้องหาที่ถูกกล่าวหาว่าร่วมกันฉ้อโกง จนทำให้มาดามอ้อยต้องสูญเงิน 39 ล้าน คือ “นุ” กับ “สา” กลับลำการรับสารภาพ ทำให้หลายคนมองว่าจะทำให้ทนายตั้มตกอยู่ในที่นั่งลำบากหรือไม่
โดยทนายสายหยุด บอกว่า ต้องดูรายละเอียดของคำรับสารภาพด้วยว่ารับอย่างไร รับแล้วซัดทอดว่าทนายทนายตั้มมีการร่วมกันวางแผนและแบ่งเงินอย่างที่ถูกกล่าวหา หรือรับจบกันเพียงแค่ 2 คน ทนายตั้มไม่เกี่ยวข้อง ผลก็จะออกมาต่างกันแต่เรื่องของการรับจบก็ไม่ใช่ว่าจะสามารถทำได้ง่ายๆ
ส่วนทิศทางของทนายตั้ม หลังจากนี้ ทนายสายหยุด มองว่า เมื่อวานนี้ที่ศาลมีการนัดตรวจพยานหลักฐานถือว่าเป็นวันสำคัญของทนายตั้มมาก เพราะในฐานะที่ยังคงเป็นนักกฎหมายเชื่อว่า หลังจากนี้ทนายตั้มจะต้องมีการไปยื่นขอคัดลอกพยานหลักฐานซึ่งจะใช้เวลาประมาณหนึ่งเดือน แล้วมาวิเคราะห์ ช่องทางการต่อสู้ของตัวเอง
แต่ถ้าจะให้วิเคราะห์ว่าทนายตั้มจะมีการยอมรับสารภาพ ระหว่างที่ต้องรอนัดสืบพยานอีกครั้งคือเดือนมีนาคมปีหน้าไหม ถ้าดูแล้วสถานการณ์ของทนายตั้มแตกต่างจากนุกับสา เพราะคดีมีหลายกรรม มีความผิดทั้งเรื่องของการฉ้อโกงและการฟอกเงิน จึงเชื่อว่าไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะยอมรับสารภาพเลย เพราะเจ้าตัวก็ยืนยันมาโดยตลอด
อย่างไรก็ตามคดีนายตั้มศาลมีการนัดสืบ พยานอีกครั้งเดือนมีนาคมปีหน้าซึ่งระหว่างนี้ทนายตั้มเองก็ยังคงมีสิทธิ์ในการยื่นขอปล่อยตัวชั่วคราว ซึ่งก็อยู่ที่ดุลยพินิจของศาลว่าจะอนุญาตหรือไม่