จากกรณีที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ภาพ คลิปเหตุการณ์ พร้อมข้อความระบุว่า “ขออนุญาตใช้พื้นที่ตรงนี้ ขอความช่วยเหลือ ช่วยแชร์ถึงหน่วยงานที่สามารถจัดการได้ทีค่ะ ขอร้อง..ช่วยลินทีค่ะ ลินไม่สามารถนอนหลับได้ หรือ ใช้ชีวิตปกติได้เลย ใน 3 วันที่ผ่านมา เนื่องจากลินโดนชายชาวพม่า คนในคลิป Stalker และ ข่มขู่ ตามถึงคอนโด ถึง 3 ครั้ง 3 วันติดต่อกัน”
จุดเริ่มต้น ชายชาวพม่า :
เริ่มต้นชายพม่าคนนี้สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ในระดับนึงซึ่งชายคนนี้ได้มีการส่งข้อความเข้ามาทาง Instagram โดยใช้ข้อความประมาณว่า “ผมสงสัยว่าทำไมผู้หญิงที่สวยถึงดึงดูดแต่ผู้ชายที่ไม่เห็นคุณค่าของเธอ” ซึ่งทางลินได้มีการตอบข้อความกลับไปว่า “เพราะบางคนอาจจะคิดแค่เรื่องอย่างว่า” และไม่ได้ตอบโต้ข้อความอะไรใด ๆ กลับไปอีก
ซึ่งชายคนนี้ก็ได้ส่งข้อความมาไม่หยุด จนทางลินเองก็เริ่มรู้สึกแปลก ๆ และได้ทำการบล็อกไป แต่หลังจากนั้น พม่าคนนี้ก็สมัครแอ็กเคานต์ใหม่มาส่งข้อความซ้ำ ๆ ทั้งทาง Instagram, Facebook, TikTok รวม ๆ กันเป็น 10-20 แอ็กเคานต์ ซึ่งลินตามบล็อกทุกแอ็กเคานต์ที่เขาส่งข้อความมา
วันเกิดเหตุครั้งแรก : 26/04/2025
ชายพม่าคนนี้ได้ส่งข้อความมาล่าสุดโดยใช้แอ็กเคานต์ใหม่ว่า “กล้าดียังไงมาบล็อกกู เลขห้องมึงเลขอะไร มึงเตรียมตัวไว้เลย กูจะเอาตัวมึงไป” ซึ่งลินได้บล็อกไป ในขณะที่เขาส่งข้อความนี้มา เขาได้เดินทางมาที่คอนโด และนั่งอยู่ตรงส่วนกลางแล้ว แต่วันนั้นลินไม่ได้อยู่คอนโดค่ะ เดินทางมาบ้านแม่กับแฟน แต่มีการเช็กกล้องวงจรปิดย้อนหลังแล้ว บวกกับข้อมูลจากหัวหน้า รปภ.
วันเกิดเหตุครั้งที่ 2: 27/04/2025
ชายพม่าคนนี้เดินทางบุกมาที่คอนโดอีกรอบแต่ไม่สามารถขึ้นมาบนตึกได้เนื่องจากการเข้าอาคารต้องใช้คีย์การ์ด ชายคนนี้ใช้เบอร์ไทยโทรมาหาลิน ช่วงเวลา 22.30 น. โดยประมาณ ซึ่งลินไม่ทราบเลยว่าเขาเอาเบอร์โทร ที่อยู่ส่วนตัวมาจากไหน เพราะลินไม่เคยโพสต์เรื่อส่วนตัวลงเฟซบุ๊กหรือช่องทาง Social เลย
หลังจากรับสาย เขาก็พูดว่าลงมาให้เจอหน้าหน่อย ซึ่งในเวลานั้นลินคิดว่าเป็นเบอร์ของลูกค้าที่ลินกำลังจะร่วมประชุมงานกับเขาช่วงเที่ยงคืน พอลินรู้สึกแปลก ๆ ลินก็วางสายทันที หลังจากนั้นเขาก็โทรกลับมา ลินจึงให้แฟนคุย โดยแฟนก็คุยถามปกติว่าเป็นใคร ทำแบบนี้ทำไม
เขาได้กดตัดสาย และก็โทรมาอีกรอบ พร้อมใช้คำพูดข่มขู่แปลเป็นไทยได้ว่า “มึงจะลงมาให้เห็นหน้าดี ๆ หรือจะลงมาแบบเป็นศพ หรือจะต้องให้กูขึ้นไปทำให้พวกมึงเป็นศพทั้งคู่”
ทางลินเองก็รู้สึกไม่ปลอดภัยแล้วค่ะ จึงได้โทรหานิติบุคคลช่วยยืนยันว่าชายคนนี้อยู่ตรงนี้จริงหรือไม่ ทางนิติยืนยันมาว่าใช่ ทางลินได้มีการโทรแจ้งตำรวจในทันที เมื่อตำรวจมา ทางลินก็ลงไปพร้อมกับตำรวจ แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถไกล่เกลี่ยกันได้ จึงเดินทางไปที่โรงพัก สน.บางขุนเทียน เพื่อทำการแจ้งความลงบันทึกประจำวัน
หลังจากนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนก็ได้ทำการตรวจสอบเอกสารของชายพม่าคนนี้ ซึ่งเขาไม่มีเอกสารครอบครองรถมอเตอร์ไซค์ passport ตัวจริง รวมไปถึง work permit มีเพียงแค่รูปถ่ายหน้าพาสปอร์ตเพียงเท่านั้น
หลังจากตรวจสอบเอกสารเสร็จ ทางตำรวจก็ได้มีการถ่ายรูปทำประวัติชายคนนี้ไว้ พร้อมได้เตือนว่าให้หยุดทำแบบนี้ ไม่เช่นนั้นจะดำเนินคดีตามกฎหมาย และก็ปล่อยชายคนนี้กลับไป โดยที่ไม่ตรวจสอบอะไรเพิ่มเติมเลยสักนิด ซึ่งทางตำรวจก็ได้มีการสอบถามว่าไปได้ที่อยู่ของลินมาจากไหน ทางเขาอ้างมาว่าได้มาจากที่ทำงาน
ซึ่งทางลินได้โต้กลับทันทีว่าเป็นไปไม่ได้ ลินทำธุรกิจส่วนตัวกับแฟนที่บ้านหากมีใครมาหาเป็นไปไม่ได้ที่ลินกับแฟนจะไม่รู้ ซึ่งอีพม่ามันก็เงียบและก้มหน้าไม่ตอบอะไรกลับมา แต่หลังจากแจ้งความได้ไม่ถึง 24 ชั่วโมง ชายคนนี้ก็ส่งข้อความกลับมา ว่า “มันยังไม่จบ มันจะไม่สิ้นสุดแม้ว่าฉันจะต้องตาย..”
วันเกิดเหตุครั้งที่ 3 : 28/04/2025
ทางลินและแฟนได้เดินทางไปลงบันทึกประจำวันเพิ่มเติมว่าชายพม่าคนนี้ส่งข้อความมาไม่หยุด หลังจากแจ้งความเสร็จแล้ว ระหว่างทางกลับบ้าน ลินกับแฟนก็ได้เจอชายพม่าคนนี้ได้มาดักรออยู่แถวบริเวณคอนโด เป็นครั้งที่ 3 หลังจากทำการแจ้งความไปแล้ว ลินก็ได้โทรแจ้งตำรวจอีกครั้งและเดินทางกลับไปที่ สน.เทียนทะเลอีกครั้ง ซึ่งยังคงไม่มีเอกสารตัวจริงเช่นเดิม
และทางเจ้าหน้าที่ก็จะแค่นัดมาให้ปากคำเช่นเดิม ซึ่งลินได้แจ้งไปแล้วว่า ลินมีความประสงค์ที่จะแจ้งความร้องทุกข์เพื่อดำเนินคดี ไม่ใช่ต้องการแค่ลงบันทึกประจำวัน ซึ่งทุกครั้งที่ลินไป สน. ทางเจ้าหน้าที่แจ้งมาแค่ว่า จะให้ทำไงอะ ก็ “เหตุ มัน ยัง ไม่ เกิด”
การที่ลินโดนข่มขู่ โดนตามขนาดนี้ ต้องรอให้เหตุมันเกิดก่อนจริง ๆ หรอค่ะ ลินต้องรู้สึกกลัว ไม่ปลอดภัย ทั้ง ๆ ที่อยู่ในประเทศตัวเอง แบบนี้ จริงๆหรอ ???? ลินส่งข้อความขอความช่วยเหลือจากสื่อไหน ๆ ทุกสื่อเงียบหมด เจ้าหน้าที่เงียบหมด ไร้การให้ความช่วยเหลือใดใดทั้งสิ้น หรือต้องให้มันถึงแก่ชีวิตของลินและคนในครอบครัวก่อนจริงๆเหรอคะ ถึงจะสามารถเอาผิดกับชายพม่าคนนี้ได้ ..?”
“ทางลินขอยืนยันว่าไม่ได้มีการให้ข้อมูลส่วนตัวที่อยู่กับชายพม่าคนนี้อย่างแน่นอน และ อยากให้ทางเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเช่นกันว่า ชายพม่าคนนี้มารับรู้ข้อมูลส่วนตัวของลินได้อย่างไร! เบื้องต้นลินส่งเรื่องไปทุกเพจแล้วค่ะ แต่เงียบหมดเลยค่ะ ไม่มีการตอบกลับใดใดเลย”
ตำรวจแจง
ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปหาผู้เสียหายที่คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งบนถนนราชพฤษ์ โดยได้พูดคุยกับ ลิน อายุ 28 ปี ผู้เสียหาย เธอยอมรับว่าตั้งแต่ถูกตามคุกคามมา ทำให้เธอกินไม่ได้ นอนไม่หลับ ไม่กล้าแม้แต่จะเดินลงมาคอนโดฯ คนเดียว เพราะกลัวอันตราย ซึ่งเมื่อต้นปีที่ผ่านมาได้มีชายชาวเมียนมา ชื่อว่า เคลลี่ อายุ 24 ปี ส่งข้อความมาหาเธอใน Instagram ส่วนตัว ทำนองว่า “ทำไมฉันถึงไม่สามารถทำให้ผู้หญิงสวยสวยอย่างเธอหลงใหลฉันได้” จากนั้นก็เป็นเรื่องราวตามที่เธอได้โพสต์เอาไว้
ขณะเดียวกันทีมข่าวได้ข้อมูลจาก พ.ต.อ.กฤติเดช จันทร์เพชร ผกก.สน.บางขุนเทียน ทราบว่า เมื่อวันที่ 27 เมษายน ถึงวันที่ 28 เมษายนตำรวจได้รับแจ้งจึงได้จึงได้ควบคุมตัวชายชาวเมียนมามาที่โรงพัก และได้มีการตรวจสอบประวัติพาสปอร์ตพบว่ามีใบอนุญาต จึงได้ทำประวัติไว้ แต่ยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหา
จนกระทั่งคืนวันที่ 29 เมษายน ชายชาวเมียนมา ได้บุกไปที่คอนโดฯ อีกครั้ง ซึ่งตำรวจได้มีการเชิญตัวมาที่โรงพัก พร้อมกับยึดรถจักรยานยนต์ที่ผู้ก่อเหตุใช้ขับขี่ในการไปที่คอนโดฯ และทราบว่ารถจักรยานยนต์คันดังกล่าว ผู้ก่อเหตุไม่ได้ครอบครอง แต่เป็นชื่อของคนไทยจึงต้องยึดไว้ตรวจสอบ
ส่วนที่ไม่สามารถแจ้งข้อกล่าวหาได้นั้น เนื่องจากยังไม่ได้สอบปากคำของผู้เสียหาย จึงเป็นแค่ข้อหาก่อความเดือดร้อนรำคาญ ส่วนข้อหาทางอาญาที่จะสามารถควบคุมตัวได้นั้น ต้องรอทางนิติบุคคลของคอนโดเป็นผู้ดำเนินแจ้งความข้อหาบุกรุก เนื่องจากมีการบุกเข้าไปที่คอนโดโดยไม่ได้รับอนุญาต
ทั้งนี้ ทางตำรวจได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนประสานกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเพื่อส่งข้อมูลของชายชาวเมียนมา ไปตรวจสอบ หากพบข้อกล่าวหาในการเข้ามาก่อความวุ่นวายในประเทศก็จะมีการยกเลิกพาสปอร์ตหรือวีซ่าและผลักดันกลับประเทศทันที
- คอนเทนต์พิเศษ
สำหรับคุณ - TOP สังคม
- วิดีโอยอดนิยม
