นายประยุทธ มหากิจศิริ กรรมการและผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยน๊อคซ์ สเตนเลส จำกัด (มหาชน) ถูกดำเนินคดี 3 คดี เกี่ยวกับโฉนดบวม โดยพฤติการณ์แห่งคดี คือ การนำโฉนดมาขอรังวัด สอบเขต ใหม่ โดยหลังการรังวัดสอบเขตแล้ว ที่ดินในโฉนดเพิ่มขึ้น ซึ่งที่ดินที่เพิ่มขึ้น มีทั้งที่ สปก.และที่ป่า
คดีที่ 1 ที่ จ.กระบี่ ศาลอาญาคดีทุจริตฯภาค 8 มีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2566 จำคุก นาย ประยุทธ 2 ปี 8 เดือน และเพิกถอนโฉนดทั้งฉบับ ซึ่งที่ดินผืนนี้ถูกขายต่อไปแล้ว มูลค่า 500 ล้านบาท
คดีที่ 2 ที่ จ.นครราชสีมา ศาลอาญาคดีทุจริตฯภาค 3 มีคำพิพากษา วันที่ 1 พฤษภาคม 2568 จำคุก เจ้าสัวประยุทธ 24ปี และ ลูกสาว คือ น.ส.อุษณา มหากิจศิริ 12ปี ซึ่งโฉนดถูกนำไปใช้ก่อสร้างสนามกอล์ฟเมาน์เทน ครีกฯ
และคดีที่ 3 ที่ จ.นครราชสีมาเช่นกัน ซึ่ง ป.ป.ช. เพิ่งมีมติชี้มูลความผิด เจ้าสัวประยุทธกับลูกสาว เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2567
ส่วนการนอนเรือนจำคืนแรกของ "ประยุทธ มหากิจศิริ" และลูกสาว นางกนกวรรณ จิ๋วเชื้อพันธุ์ ผบ.เรือนจำจังหวัดนนทบุรี ในฐานะรองโฆษกกรมราชทัณฑ์ ระบุว่า เรือนจำกลางสุรินทร์ ได้รับตัวจากศาล เวลาประมาณ 18.00 น.วานนี้ และนำเข้าสู่กระบวนการรับตัวและตรวจร่างกาย พบว่า นายประยุทธ มีโรคประจำตัวตามวัย และมียารับประทานประจำ พร้อมใบรับรองแพทย์ และเนื่องจากอายุมาก เรือนจำฯ จึงได้แยกกักโรคโควิด-19 ไว้ที่สถานพยาบาลเรือนจำฯ เป็นเวลา 5 วัน และมอบหมายอาสาสมัครสาธารณสุขเรือนจำดูแลใกล้ชิด 2 ต่อ 1
ทั้งนี้ ภายหลังกักโรคโควิดครบ 5 วัน ญาติจึงสามารถเยี่ยมได้ อย่างไรก็ตาม ทั้ง นายประยุทธ และ น.ส.อุษณา ให้ความร่วมมือกับเรือนจำฯ ดี และค่อนข้างปรับตัวได้ดี สามารถหลับได้ รับประทานอาหารได้ อีกทั้งวานนี้ กว่าทั้งคู่จะมาถึงเรือนจำฯ ก็เป็นเวลาค่ำแล้ว จึงไม่ได้กินอาหารเรือนจำ แต่วันนี้สามารถสั่งซื้ออาหารจำหน่าย นอกเหนืออาหารเรือนจำรับประทานได้
ในส่วนของนายประยุทธ ขณะนี้ยังแยกกักโรค ที่สถานพยาบาลจนกว่าจะครบ 5 วัน หลังจากนี้จะพิจารณาอีกครั้งว่าจะคุมขังไว้ที่ใด ตามความเหมาะสมด้านความมั่นคงและสุขภาพ ส่วนบุตรสาว แยกกักโรคไว้แดนหญิง มีอาสาสมัครสาธารณสุขเรือนจำดูแล ทั้งนี้ เรือนจำได้มีการดำเนินการตามมาตรฐานการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังในเรือนจำ อย่างเคร่งครัด
อย่างไรก็ตามล่าสุดมีรายงานว่า ศาลให้ประกันตัว นายประยุทธ พร้อมพวกแล้ว