รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก Thira Woratanart โดยระบุว่า โควิด-19 vs ไข้หวัดใหญ่ ในกรุงเทพมหานคร ดูข้อมูลจากระบบรายงานเช้านี้ ในช่วง 4 วันที่ผ่านมา สัปดาห์ที่ 19 ปี 2568 น่าสนใจว่ามีเคสที่ป่วยมารับการรักษาที่รพ. (ทั้งผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก) โดยเป็นโรคโควิด-19 มากกว่าไข้หวัดใหญ่ 6.7 เท่าโควิด-19 นั้น เพศหญิงเยอะกว่าชายราว 2 เท่า
ส่วนไข้หวัดใหญ่ หญิงชายพอ ๆ กัน ในกลุ่มที่เป็นโควิด-19 มีเด็กเล็ก 0-4 ปีในสัดส่วนราว 5% ของจำนวนเคสที่รายงานทั้งหมด ในขณะที่กลุ่มที่เป็นไข้หวัดใหญ่นั้น เด็กเล็ก 0-4 ปีมีราว 13%
ทั้งนี้ กลุ่มวัยทำงานถือเป็นกลุ่มผู้ป่วยที่มากที่สุดในทั้งสองโรค ด้วยทิศทางนี้ พอประเมินกันได้เองว่า หากป่วยตอนนี้มีโอกาสเป็นโควิด-19 สูงกว่าไข้หวัดใหญ่พอสมควร
นพ.ธีระ ยังระบุว่า 27 เมษายน-3 พฤษภาคม 2568 ตัวเลขในระบบโควิด-19 รายงานไว้ 8,446 ราย ที่ป่วยไปรพ. ทั้งผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยใน ไม่รวมคนที่ติดเชื้อแล้วไม่ได้ไปรักษาที่รพ. จะเห็นว่าป่วยกันทุกช่วงอายุ ที่น่าเป็นห่วงคือ เด็กเล็ก 0-4 ปีก็ป่วยกันเยอะทีเดียว ไม่ใช่แค่วัยทำงานและวัยสูงอายุ กทม.เคสเยอะสุดเดี๋ยวเปิดเทอม ผู้ปกครองและคุณครูคงต้องช่วยกันดูแลเด็ก ๆ ให้ดี
ขณะที่ลองดูสถานการณ์ในช่วง 3 วันที่ผ่านมา ข้อมูลสัปดาห์ที่ 19 ตั้งแต่วันที่ 4 พ.ค.2568 จนถึงปัจจุบัน คนป่วยจากโควิด-19 สูงกว่าไข้หวัดใหญ่ถึง 2 เท่า เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย
หากใครมีอาการป่วยตอนนี้ แต้มต่อในการเป็นโควิด-19 : ไข้หวัดใหญ่ = 2:1 หรือแทงว่าน่าจะมีโอกาสเป็นโควิด-19 ราว 67% ในขณะที่หากย้อนดู 2 สัปดาห์ จะพบว่าโควิด-19 เสียชีวิตไป 2 ราย ไข้หวัดใหญ่ไม่มีเสียชีวิต และหากย้อนดู 4 สัปดาห์ โควิด-19 เสียชีวิตไป 5 ราย ไข้หวัดใหญ่ 2 ราย ซึ่ง ตัวเลขป่วยในระบบข้างต้นไม่นับคนที่ไม่ได้มารับการรักษาที่รพ.
ขณะที่ธรรมชาติของโรค
- ติดเชื้อ...แพร่ให้คนอื่นได้ตั้งแต่ 2-3 วันก่อนมีอาการ
- ติดเชื้อ...ใช้เวลา 3-4 วันก่อนจะมีอาการป่วย
- ติดเชื้อ...อาจใช้เวลา 4-5 วันหลังเริ่มป่วยไวรัสจึงจะพีค ตรวจวันแรกๆ อาจได้ผลลบ ดังนั้นจึงควรตรวจซ้ำ
- ติดเชื้อ...แยกตัว 5 วัน ยังมีโอกาสเพาะเชื้อขึ้น 50%, 7 วัน 25-30%, 10 วัน 10% ดังนั้นจึงควรแยกตัวให้เพียงพอ จนไม่มีอาการและตรวจซ้ำได้ผลลบ และใส่หน้ากากช่วยลดการแพร่เชื้อ
ยิ่งหากเป็นการทำงานที่ต้องดูแลคนอื่น ๆ ระบบต้องมีการตัดสินใจให้ถี่ถ้วน บริหารความเสี่ยงให้ดี คำนึงถึงหลักฐานวิชาการมากกว่าการใช้ความเชื่อความรู้สึก เพราะสุดท้ายแล้ว กลัวคนทำงานไม่พอ ให้รีบกลับมาทำงาน แต่ป้องกันไม่ดี สถานที่ไม่ถ่ายเทอากาศ มีกิจกรรมที่ต้องคลุกคลีใกล้ชิดคนอื่น ทั้งคนให้และรับบริการ สุดท้ายก็จะแพร่กันไปทั่วได้ เลือก trade off จุดไหน ต้องมีแผนช่วยลดความเสี่ยงเสริมเข้าไปให้ครบถ้วน