บรรยากาศวันที่ 14 สิงหาคม 2568 ในหมู่บ้านแนวชายแดนพื้นที่ อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ชาวบ้านที่เดินทางกลับเข้าไปใช้ชีวิตและทำมาหากินในหมู่บ้านของตัวเอง หลังต้องอพยพหนีการสู้รบระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชา ไปอยู่ศูนย์พักพิงนานกว่า 2 สัปดาห์ ต้องปรับตัวในการดำรงชีวิตและประกอบอาชีพ
โดยร้านค้าจะปิดร้านเร็วขึ้น ส่วนเกษตรกรที่ต้องออกไปกรีดยางพาราหรือเก็บยางก้อนถ้วยไปขาย ก็ต้องเปลี่ยนไปกรีดตอนกลางวัน จากเดิมที่เคยเข้าไปกรีดตั้งแต่ช่วงเที่ยงคืน หรือ ตี 1 ตี 2
เพื่อลดความเสี่ยงจากกระสุนปืนใหญ่ และวัตถุระเบิดที่อาจจะยังตกค้างในสวนยาง
ซึ่งกระสุนและวัตถุระเบิดตกค้างบางส่วนอาจจะยังไม่ทำงาน หากเข้าไปตอนกลางคืนอาจมองไม่เห็นซึ่งอาจเป็นอันตรายได้ แต่การปรับเปลี่ยนมากรีดยางตอนกลางวัน ชาวบ้านบอกว่ามีผลกระทบเพราะจะได้น้ำยางน้อยลง แต่ก็ดีกว่าไม่ได้เลย
น.ส.พิจิตร ชาวบ้านคนหนึ่ง บอกว่า หลังจากต้องอพยพหนีการสู้รบไปอยู่ศูนย์พักพิงมากว่า 2 สัปดาห์ ก็ไม่มีรายได้เข้าครัวเรือนเลย หลังจากได้กลับเข้ามาในหมู่บ้านวันนี้ก็เพิ่งจะได้เข้าเก็บยางก้อนถ้วยเพื่อนำไปขายเป็นวันแรก เพราะต้องปรับเปลี่ยนเวลาในการกรีดยางจากเที่ยงคืน เป็นตอนกลางวัน ทำให้น้ำยางออกน้อยลง 3 – 4 วัน ถึงจะเต็มถ้วย
สาเหตุที่ต้องเปลี่ยนมากรีดตอนกลางวันเพราะกลัวไม่รู้ว่าในสวนยังมีวัตถุระเบิดอะไรตกค้างอยู่หรือไม่ เพราะตอนสู้รบกันก็มีระเบิดตกกลางสวนยางเสียหายไปกว่า 10 ต้น อีกทั้งกลัวทหารเขมรจะแอบลักลอบเข้ามาทำร้ายหรือจับเป็นตัวประกันด้วย ไปตอนกลางวันจะปลอดภัยกว่า ส่วนต้นยางที่เสียหายก็อยากให้ภาครัฐเร่งเยียวยาด้วย
ด้าน ยายคง บอกว่า ลูกหลานเพิ่งจะพากลับมาบ้านได้ไม่กี่วัน ก็รีบไปเก็บกู้ถั่วลิสงที่ปลูกเอาไว้จากที่ทิ้งไปกว่า 2 สัปดาห์ หลังจากเก็บเสร็จลูกก็จะให้กลับไปอยู่บ้านญาติที่ จ.นครราชสีมา เพื่อความปลอดภัย เพราะยังไม่มั่นใจว่าจะมีการปะทะกันอีกหรือไม่ เนื่องจากตอนนี้สถานการณ์ชายแดนก็ยังตึงเครียด
ขณะที่เจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรมที่ 3 ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ (TMAC) ศูนย์บัญชาการทางทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย ก็ได้ร่วมกับหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด (EOD) กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ เร่งออกสำรวจเพื่อพิสูจน์ทราบ เก็บกู้ และทำลายสรรพาวุธระเบิด ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากการโจมตีของฝ่ายกัมพูชา ใน อ.บ้านกรวด
ทั้งจากการยิงปืนใหญ่ และจรวด BM-21 รวมแล้วมากกว่า 200 ลูก ตกอยู่ในพื้นที่ชุมชน บ้านเรือน และพื้นที่ทางการเกษตร ทั้งที่ระเบิดแล้วและที่ยังไม่ระเบิด ซึ่งได้ตรวจพื้นที่ระเบิดไปแล้ว 124 จุด มีการทำลายไปแล้ว 1 ลูก รอการเก็บกู้นำไปทำลายอีก 7 ลูก
เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้ฯ จึงได้ทำการเก็บเศษชิ้นส่วนของวัตถุระเบิด พร้อมมาร์กจุดเสี่ยง ให้สามารถเก็บกู้และทำลายได้อย่างปลอดภัย เพื่อสร้างความสบายใจให้ประชาชนในพื้นที่