12 ต.ค. 68 ชาวบ้านในหมู่บ้านแนวชายแดน อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ต่างสุดทนกับพฤติกรรมทั้งของผู้นำ ทหาร และประชาชนกัมพูชา ที่แสดงพฤติกรรมยั่วยุไทย ทั้งในพื้นที่ 4 จังหวัดภาคอีสาน รวมถึงหมู่บ้านหนองจาน หนองหญ้าแก้ว จ.สระแก้ว แบบไม่หยุดหย่อน ทำให้สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาตึงเครียดเสี่ยงที่จะสู้รบกัน
ล่าสุด ชาวบ้านในพื้นที่พบโดรนปริศนา 3 - 4 ลำบินว่อนแถวชายแดน คาดว่าเป็นของฝั่งกัมพูชาที่ต้องการยั่วยุ หรือสอดแนมไทย ทั้งยังมีคนแปลกหน้าเข้ามาถ่ายรูปในหมู่บ้าน สร้างความหวาดระแวงให้กับชาวบ้าน
จึงอยากเรียกร้องให้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มีคำสั่งปิดด่านแบบถาวร รวมถึงจุดผ่อนช่องสายตะกู ของ อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ด้วย
และเร่งสร้างกำแพงกั้นระหว่างไทยกับพูชาโดยเร็ว ตามที่นายกรัฐมนตรีรับปากไว้ตอนที่เดินทางมาเยี่ยมชาวบ้านชายแดน เมื่อวันที่ 4 ต.ค. ที่ผ่านมา เพราะยืดเยื้อมานานแล้วไม่ดำเนินการให้เด็ดขาดสักที ทำให้ชาวบ้านที่อยู่ชายแดนต้องเดือดร้อน
นายกฤษวี ชาวบ้านชายแดน อ.บ้านกรวด บอกว่า ช่วงนี้ยังมีคนเห็นโดรนปริศนาบินว่อนอยู่แถวชายแดนไทย-กัมพูชา 3 – 4 ลำ คาดว่าน่าจะเป็นของฝ่ายกัมพูชาที่บินก่อกวน หรือพยายามสอดแนมไทย นอกจากนั้นยังมีคนแปลกหน้าเข้ามาถ่ายรูปในพื้นที่ด้วย ยิ่งสร้างความกังวลใจให้กับชาวบ้าน เพราะช่วงนี้สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาไมปกติไม่รู้จะรบกันอีกตอนไหน ทำให้ชาวบ้านต้องใช้ชีวิตด้วยความหวาดระแวงทุกวัน
ส่วนที่นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่มาเยี่ยมชาวบ้านชายแดนอำเภอบ้านกรวด เมื่อวันที่ 4 ต.ค. ที่ผ่านมา แล้วรับปากว่าจะสร้างกำแพงตามแนวชายแดน และปิดด่าน ก็รู้สึกดีใจและมีความหวังว่ามากขึ้น เพราะชาวบ้านจะได้ใช้ชีวิตและทำมาหากินเป็นปกติสักที ไม่ใช่ต้องคอยระแวง
นายกฤษวี กล่าวต่อว่า ส่วนตัวอยากให้ปิดด่านถาวรไปเลย และอยากให้สร้างกำแพงเป็นลักษณะคอนกรีตปิดตาย ใหญ่เหมือนกำแพงเมืองจีนไปเลยยิ่งดี เพราะกัมพูชาไม่เคยซื่อสัตย์หรือสำนึกบุญคุณประเทศไทยที่เคยช่วยเหลือเขาเลย ดังนั้น ก็ควรตัดขาดความสัมพันธ์ไม่ต้องญาติดีกันเลย ไม่ต้องช่วยเหลืออะไรกัมพูชาอีกเลย มนุษยธรรมเอาไว้ใช้กับคนดี แต่ไม่ใช่กับเขมรเพราะเขาเชื่อแต่ AI ไม่เคยรับฟังความจริงเลย
ทีมข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับอำเภอบ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ เมื่อช่วงที่มีการสู้รบระหว่างวันที่ 24 – 28 ก.ค.68 ที่ผ่านมา มีคนบาดเจ็บ 3 ราย วัว สุกร ตาย 8 ตัว รถยนต์เสียหาย 3 คัน บ้านเรือนพัง 15 หลัง พืชผลการเกษตร 67 ไร่