เทียบ 4 ปี สถานการณ์น้ำ 4 เขื่อนหลัก หลังเขื่อนภูมิพล – เขื่อนสิริกิติ์น้ำเต็ม 97 %

โดย PPTV Online

เผยแพร่

ย้อนเทียบ 4 ปี สถานการณ์น้ำ 4 เขื่อนหลัก หลังเขื่อนภูมิพล – เขื่อนสิริกิติ์น้ำเต็ม 97 % เปิดสถิติพายุเข้าไทยปี 2549,2554,2565 และปี 2568

นายไพฑูรย์ เก่งการช่าง รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ หรือ สทนช. เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำ เปรียบเทียบระหว่างปี 2549 , 2554 ,2565 และปี 2568 โดยรายละเอียดระบุว่า

ปี 2549

มีพายุที่ส่งผลกระทบต่อประเทศไทย 2 ลูก คือพายุช้างสาร และพายุทุเรียน ปริมาณฝนเฉลี่ยทั้งประเทศ 1,605 มม. ซึ่งมากกว่าปกติ 8% โดยปริมาณฝนอยู่ในเกณฑ์ปกติ ทั่วทุกภาคมีฝนตกแผ่กระจายตามภาคต่างๆ กับมีฝนหนักถึงหนักมากในบางพื้นที่ 

สถานการณ์น้ำ FB/Kai Kengkarnchang
เทียบ 4 ปี สถานการณ์น้ำ 4 เขื่อนหลัก หลังเขื่อนภูมิพล – เขื่อนสิริกิติ์น้ำเต็ม 97 %

ขณะที่สถานการณ์ใน 4 เขื่อนหลัก ประกอบด้วย เขื่อนภูมิพล,เขื่อนสิริกิติ์,เขื่อนแควน้อย, เขื่อนป่าสักฯ รองรับน้ำได้ 6,826 ล้าน ลบ.ซม. ( ณ วันที่ 3 พ.ย.)

ปี 2554

พายุที่ส่งผลกระทบต่อประเทศไทย 5 ลูก คือ พายุไหหม่า,พายุนกเตน,พายุไห่ถาง,พายุเนสาด และพายุนาลแก  ปริมาณฝนสะสมเนื่องจากฤดูฝนในประเทศไทยเริ่มต้นเร็วกว่าปกติ และมีฝนตกต่อเนื่องโดยไม่มีภาวะฝนทิ้งช่วง ปริมาณฝนเฉลี่ยทั้งปีมากกว่าค่าปกติ 24% และมีค่ามากที่สุดในคาบ 61 ปี นับจาก พ.ศ.2494 ขณะที่สถานการณ์ใน 4 เขื่อนหลักประกอบด้วย เขื่อนภูมิพล,เขื่อนสิริกิติ์,เขื่อนแควน้อย, เขื่อนป่าสักฯ และอ่างฯ รองรับน้ำได้ 83 ล้าน ลบ.ซม.( ณ วันที่ 3 พ.ย.)

ปี 2565

พายุที่ส่งผลกระทบต่อประเทศไทย คือ พายุโนรู ปริมาณฝนเฉลี่ยทั้งประเทศ 1,876 มม. มากกว่าปกติ 27% หรือมากที่สุดเมื่อเทียบกับ ข้อมูลในอดีตย้อนหลัง 40 ปี ซึ่งหมายรวมถึง มากกว่าปี 2554 ที่ประเทศไทยเกิดอุทกภัยร้ายแรง แต่ปีนี้ไม่ได้เกิดอุทกภัยรุนแรง และยาวนานเหมือนปี 2554 ขณะที่สถานการณ์ใน 4 เขื่อนหลักประกอบด้วย เขื่อนภูมิพล,เขื่อนสิริกิติ์,เขื่อนแควน้อย, เขื่อนป่าสักฯ และอ่างฯ รองรับน้ำได้ 4,120 ล้าน ลบ.ซม. ( ณ วันที่ 3 พ.ย.)

ปี 2568 

พายุที่ส่งผลกระทบต่อประเทศไทย 6 ลูก คือ พายุวิภา,พายุหนองฟ้า,พายรากาซา,พายุคาจิกิ,ตาปะห์,พายุบัวลอย ปริมาณฝนเฉลี่ยทั้งประเทศ ตั้งแต่ ม.ค. - 3 พ.ย. 68 ปริมาณฝนทั้งประเทศ 1,600 มม. มากกว่าค่าปกติ 8% โดยปริมาณฝน อยู่ในเกณฑ์ปกติ ทั่วทุกภาคมีฝนตกแผ่กระจายตามภาคต่างๆ กับมีฝนหนักถึงหนักมากในบางพื้นที่

 

หลายคนอาจตั้งคำถามว่าน้ำจะท่วมไหม เหตุการณ์มันล่อแหลมมาก จะคล้ายปี 2554 ไหม กรุงเทพจะรอดไหม เมื่อไหร่น้ำจะลด ท้ายน้ำจมมานานแล้ว หลากหลายคำถามที่พรั่งพรูมาช่วงนี้? นายไพฑูรย์ เก่งการช่าง ระบุว่า เขื่อนภูมิพลความจุเกือบเท่าเขื่อนสิริกิติ์ ไล่ตามหลังมาติดๆ เกือบ 97 % เหลือช่องว่างรองรับน้ำได้ 681 ล้านลบ.ม. ( เขื่อนภูมิพลเหลือ 427 ล้าน ลบ.ม. ส่วนเขื่อนสิริกิติ์เหลือ 254 ล้าน ลบ.ม. )

ขณะที่เขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำที่ 2,400 ลบ.ม. ต่อวินาที คาดว่าจะมีน้ำสูงสุด ที่ จ.นครสวรรค์ ประมาณ 3,000 ลบ.ม.ต่อวินาที น้ำจากสะแกกรัง จ.อุทัยธานี เกือบ 250 ลบ.ม.ต่อวินาที ที่เหลือผันน้ำออกซ้าย - ขวา ประมาณ 500 ลบ.ม. ต่อวินาที

คาดการณ์ การระบายน้ำที่เขื่อนเจ้าพระยา น่าจะอยู่ในช่วง 2,500  - 2,600 ลบ.ม.ต่อวินาที น้ำจากเขื่อนภูมิพลที่จะเพิ่มเป็น 20,25,30 ล้านลบ.ม. ต่อวัน เป็นขั้นบันได เพื่อให้น้ำที่ไหลมาจากกำแพงเพชร บ้านตาก ไหลออกไปก่อน แล้วน้ำจากเขื่อนภูมิพลค่อยตามไล่หลังมา ส่วนน้ำจากสุโขทัย จะตามมาต่อท้ายน้ำจากเขื่อนภูมิพล ทำให้ยอดน้ำสูงสุด ไม่พุ่งพรวดจนทำให้ต้องเร่งระบายน้ำด้านท้ายเขื่อนเจ้าพระยามากเกินไป ส่วนเขื่อนสิริกิติ์ ยังคงที่ในการระบายไม่เพิ่ม ไม่ลด เพื่อความปลอดภัย 

ขณะที่เขื่อนป่าสักฯ เร่งพร่องน้ำมาด้านท้าย แต่ไม่มาก เพื่อให้มีช่องว่างรองรับผลกระทบจาก ‘’พายุคัลแมกี‘’ กทม. และปริมณฑล ยังสามารถรองรับน้ำด้านท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ที่ระบายลงมาได้แน่นอน ไม่เกิน 2,500 ลบ.ม.ต่อวินาที แม้น้ำทะเลหนุนสูง ส่วนที่แม่น้ำท่าจีนช่วงนี้หนักหน่อย ทั้งน้ำในพื้นที่และน้ำที่มาจากเจ้าพระยา คลองรังสิต กำลังเร่งสูบน้ำออก กทม.สูบน้ำทุกวัน แจ้งวัฒนะจุดที่พบปัญหา ฝนตกทุกเย็น ยังสูบระบายได้ต่อเนื่อง แต่ควรหลีกเลี่ยงในช่วงฝนตก เพราะระบายน้ำยาก

พายุคัลแมกี ส่งผลให้มีฝนตกหนักในพื้นที่ภาคอีสาน ตะวันออก และภาคกลางตอนบน เหนือตอนล่าง จะไม่ส่งผลถึงเขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์มากนัก แต่ก็ไม่ประมาท จึงต้องเพิ่มการระบายน้ำ

สรุปได้ว่า เราน่าจะผ่านปีนี้ไปได้แน่นอน ท่วมในบางพื้นที่ รักษาพื้นที่ส่วนใหญ่ไว้ได้ เร่งดูแล ฟื้นฟู ผู้ได้รับผลกระทบให้เร็ว วางแผนระยะยาวให้ได้ ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศรุนแรง เหวี่ยงขึ้นทุกวัน

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

PPTVHD36

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ