4 อาการสำคัญ เข้าข่าย PTSD ภาวะป่วยทางจิตจากเหตุการณ์รุนแรง

โดย PPTV Online

เผยแพร่

จากกรณีของนักร้องสาว มิล่า จามิล่า พันธ์พินิจ หรือ มิล่า kamikaze ออกมาเรียกร้องความยุติธรรมหลังถูกคนในครอบครัวทำร้ายร่างกายอย่างรุนแรงมาก และมีผลทำให้เป็น PTSD ภาวะป่วยทางจิตจากเหตุการณ์รุนแรง มาทำความรู้จัก 4 ลักษณะอาการสำคัญ และทำความรู้จักโรคนี้กัน

อันดับแรกมารู้จักกับ โรค PTSD (Post-Traumatic Stress Disorder) ก่อน ซึ่งเป็นอาการ สภาวะป่วยทางจิตใจเมื่อเผชิญกับเหตุการณ์ที่กระทบกระเทือนจิตใจอย่างร้ายแรง ส่งผลให้เกิดความเครียดอย่างมาก เช่น

รักและเสียใจอย่างมีสติ คนที่คุณทำร้ายอาจเป็นผู้ป่วย “จิตเภท”

พบสถิติโรคจิตก่อเหตุรุนแรงพุ่ง 3 เท่า สาเหตุหลักจากยาเสพติด

  • ภัยธรรมชาติต่างๆ อุทกภัย แผ่นดินไหว
  • อุบัติเหตุร้ายแรง รวมถึงอุบัติภัยหมู่
  • การก่อจราจล การต้องเผชิญกับสงคราม
  • การฆาตกรรม บุคคลอันเป็นที่รักฆ่าตัวตาย
  • การถูกทำร้ายร่างกาย คุกคามทางเพศ เช่น การถูกข่มขืน การถูกทรมาน
  • หรือการที่อยู่ในครอบครัวหรือบ้านที่มีความรุนแรง

และคนที่เผชิญอยู่กับเหตุการณ์นั้นๆ รอดชีวิตมาได้ หรือว่าเป็นผู้ที่สูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักในเหตุการณ์นั้นๆ ทำให้เกิดมีความเครียดทางด้านจิตใจชนิดรุนแรงมาก จนทุกทรมาน ส่งผลให้เกิดความบกพร่องในหน้าที่การงานและการใช้ชีวิตประจำวันต่างๆ ตามมา

โดย อาการของ PTSD คือ กลุ่มอาการที่เกิดได้กับทุกเพศและวัย ประกอบด้วย 4 ลักษณะ คือ

1.คิดว่าอยู่ในเหตุการณ์นั้น (Re-experiencing) การคิดวนเวียนถึงเหตุการณ์นั้นซ้ำๆ หรือบางครั้งนึกถึงความทรงจำเลวร้ายนั้นขึ้นมาเอง ทำให้รู้สึกเหมือนต้องไปอยู่ในเหตุการณ์นั้นซ้ำไปซ้ำมาจนตกใจกลัว (Flashback) ฝันถึงเหตุการณ์เหล่านั้นซ้ำๆ หรือมีปฏิกิริยาทางร่างกายและจิตใจเวลาต้องเจอสัญลักษณ์ สิ่งของหรือสถานการณ์ที่ลักษณะคล้ายคลึงกับเหตุการณ์ที่ผ่านมา

2.กลัวและหลีกเลี่ยง (Avoidance) กลัวสถานที่หรือสถานการณ์หลังจากประสบเหตุนั้นๆ หลีกเลี่ยงที่จะคิดและรู้สึกเกี่ยวกับสิ่งที่เชื่อมโยงกับเหตุการณ์ ไม่กล้าเผชิญกับปัจจัยสิ่งเร้าภายนอกที่จะทำให้นึกถึงเหตุการณ์ เช่น กลัวสถานที่ สถานการณ์ กิจกรรม บทสนทนา

3.มีความรู้สึกนึกคิดในทางลบ (Negative alteration of cognition and mood) คือการไม่มีอารมณ์ในทางบวก ไม่มีความสุขและไม่สนใจที่จะร่วมกิจกรรมนั้นๆ การรู้สึกแปลกแยกจากผู้อื่น มีความเชื่อและคาดหวังที่เป็นไปในทางลบอย่างต่อเนื่อง มีการตีความขยายออกไปในทางลบ บางรายไม่สามารถจดจำส่วนที่สำคัญของเหตุการณ์นั้นได้ทำให้อาจมีความคิดบิดเบือนจากสาเหตุและผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นตามมาของเหตุการณ์ ซึ่งความคิดดังกล่าวจะนำไปสู่การตำหนิตัวเองและคนอื่น ส่งผลให้มีอารมณ์ฝังใจในทางลบ ขี้โกรธ ขี้อาย ขี้กลัว รู้สึกผิดอยู่ตลอดเวลา

4.อาการตกใจและหวาดกลัว (Hyperarousal symptoms) เป็นอาการคอยจับจ้อง คอยระวังตัว ตื่นตัว และมักมีอาการหงุดหงิด ตกใจง่าย โกรธง่าย รวมถึงสะดุ้งและผวาง่ายขึ้นกับเสียงดังๆ ส่งผลให้ขาดสมาธิ นอนหลับไม่สนิท หลับยาก หรือชอบสะดุ้งตื่นในขณะที่นอนหลับ

อาการผู้ที่เข้าข่ายเสี่ยงเป็นภาวะ PTSD คือ

อาการในช่วงแรกประมาณ 1 เดือน เราจะเรียกว่าระยะทำใจ (Acute Stress Disorder) หรืออาการเครียดเฉียบพลัน ซึ่งอาจจะทำให้เกิดอาการเครียดแล้วเกิดอาการทางประสาทขึ้นมาได้

ระยะที่สอง (PTSD: Post-Traumatic Stress Disorder) คือ กินระยะเวลานานมากกว่า 1 เดือน บางคนอาจจะยาวนานหลายเดือน หรือนานเป็นปีแล้วแต่บุคคล

ส่วนการรักษา จะมีทั้ง ทางด้านจิตใจ ประกอบด้วยการทำจิตบำบัด ไปจนถึง การรักษาด้วยยา ซึ่งปัจจุบันการใช้ยา กลุ่ม SSRIs (Selective serotonin reuptake inhibitor) เช่น Sertraline, Paroxetine มีประสิทธิภาพในรักษาในผู้ใหญ่ แต่ถ้าเกิดกับเด็กยังขาดข้อมูลสนับสนุนทางงานวิจัยในเด็ก ดังนั้นการใช้ยาในเด็กและวัยรุ่นควรจะพิจารณาเป็นรายๆไป

 

ข้อมูล โรงพยาบาลสมิติเวช / โรงพยาบาลรามาธิบดี

Bottom-BDMS Bottom-BDMS

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

PPTVHD36

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ