ปัตตานีวุ่น! พบโควิดวันเดียว 51 ราย เข้มด่านตรวจทุกคนทุกคัน
ปัญหาฝุ่นโกดังท่าเรือส่อกระทบแผน รพ.สนาม
แท็กซี่ส่วนตัวสีเขียวเหลืองของนายสงกราณ หันจรัส เป็น 1 ในรถแท็กซี่อาสา 4 คัน ที่ผ่านเงื่อนไขและข้อกำหนดของโรงพยาบาลราชวิถีให้เข้ามาร่วมรับส่งผู้ป่วยโควิด-19 ตามโครงการของทางโรงพยาบาล โดยหลังจากโควิดระบาดในไทยระลอกที่ 3 เมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา เขาและเพื่อนคนขับแท็กซี่อาสาอีก 4 คน ต้องขับรถรับส่งผู้ติดเชื้อโควิด-19 วันละ 9 ถึง 10 รอบ หรือประมาณ 30 คน โดยหลังจากส่งผู้ป่วยเสร็จแต่ละรอบ กลุ่มแท็กซี่อาสาทุกคัน จะต้องทำความสะอาดรถด้วยอุปกรณ์และวิธีการที่ทางโรงพยาบาลราชวิถีจัดเตรียมไว้
นายสงกราณ และกลุ่มแท็กซี่อาสา ยอมรับว่า เริ่มแรกก็มีความกลัวเรื่องความเสี่ยงที่ต้องใกล้ชิดผู้ป่วยอยู่บ้าง แต่เมื่อได้รับการความรู้ถึงวิธีการป้องกันที่ทางโรงพยาบาลดูแลเป็นอย่างดี ก็เบาใจขึ้น ที่สำคัญพวกเขาได้รับค่าตอบแทนจากโครงการนี้เดือนละ 50,000 – 60,000 บาทต่อคน เพื่อใช้จ่ายเป็นค่าแก๊ส ค่าทำความสะอาดรถ ค่าบำรุงรักษา และค่าแรงที่จะต้องนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน ก็ถือว่าคุ้มค่าในช่วงโควิดระบาด ที่ลูกค้าหายไปอย่างมาก และแต่ละคนก็มีหนี้สินติดตัวอยู่
นพ.ไพโรจน์ เครือกาญจนา รองผู้อำนวยการด้านการแพทย์ รพ.ราชวิถี เปิดเผยว่า โครงการนี้ทำมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปี 2563 ที่โควิดระบาดในไทยระลอกแรก เพราะทีมแพทย์เห็นปัญหาและความเสี่ยงในการเดินทางของผู้ป่วยโควิดอยู่แล้ว โดยเริ่มแรกใช้วิธีการหาแท็กซี่ที่สมัครใจ จากนั้นแท็กซี่อาสาคันแรก ก็ไปชวนคนรู้จักที่ไว้ใจได้มาร่วมโครงการ โดยทางโรงพยาบาลมีเงื่อนไขว่าจะต้องตรวจสอบประวัติและนิสัยใจคอของคนขับในเบื้องต้น และคนขับทุกคนจะต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดอย่างเคร่งครัด ประกอบด้วย จะต้องนำรถมาติดตั้งอุปกรณ์แผงพลาสติกปิดกั้นอากาศระหว่างคนขับ กับผู้โดยสาร ระหว่างรับส่งผู้ป่วยจะต้องเปิดกระจกด้านหลังและด้านหน้าให้อากาศถ่ายเท โดยไม่เปิดแอร์ และผู้ป่วยที่เป็นผู้โดยสารจะต้องเปิดประตูขึ้นลงเอง ที่สำคัญคนขับต้องสวมชุดป้องกันเต็มตัวตลอดเวลาและจะต้องใจเย็น ห้ามขับรถเร็ว ซึ่งมีข้อกำหนดให้ขับความเร็วระหว่าง 80 – 100 กม./ชม. เท่านั้น โดยหลังจากติดตั้งอุปกรณ์ตามมาตรฐาน จะมีการทดสอบโดยการจุดธูปภายในรถด้านที่นั่งของผู้ป่วยว่ามีกลิ่นเล็ดลอดออกไปถึงคนขับหรือไม่
ส่วนวิธีการใช้บริการผู้ติดเชื้อโควิดสามารถติดต่อประสานงานไปยังโรงพยาบาลราชวิถี ได้ที่เบอร์ 096-771-1687 หรือจองผ่านระบบสแกน QR coad ของทางโรงพยาบาล ซึ่งแท็กซี่อาสาจะรับส่งผู้ป่วยไปยังทุกโรงพยาบาลในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล ตั้งแต่เวลา 9 โมงเช้า ถึง 1 ทุ่มตรง โดยนพ.ไพโรจน์ ยอมรับว่า ต้องการขยายกลุ่มคนขับแท็กซี่อาสาเพื่อมาร่วมกันทำภารกิจนี้ แต่ยังมีข้อจำกัดเรื่องงบประมาณที่ใช้เงินค่าตอบแทนคนขับจากเงินบริจาค รวมถึงต้องคัดกรองคนขับให้ได้ตามมาตรฐานความปลอดภัยที่วางไว้ด้วย
ชะลอ เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 3-ทัวร์เที่ยวไทย
กางไทม์ไลน์ "หนุ่มยูกันดา-ภรรยาชาวไทย" ปกปิดข้อมูลโควิด-19 เตรียมเอาผิดหลังหายป่วย
