ชายคนนี้อายุ 53 ปี กำลังกักตัวเองในคอกวัวเก่าที่ผู้นำชุมชนและคนในครอบครัวได้มาปรับปรุงให้เป็นที่กักตัว ให้พอได้อยู่อาศัยได้ ทำห้องน้ำให้อย่างเร่งรีบ หลังได้รับแจ้งจากเขาตอนอยู่กรุงเทพฯ ติดเชื้อโควิด-19 รอเตียงมา 4 วันแล้ว แต่ยังไม่ได้ จึงอยากกลับมารักษาตัวที่บ้านเกิดใ
ซึ่งทันทีที่ทางบ้านได้รับแจ้ง ก็ประสานทางผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน และอสม. เพื่อจัดวางมาตรการให้รัดกุม เพื่อให้ปลอดภัยทั้งคนป่วยและชาวบ้านที่อาศัยอยู่ จึงมีการเตรียมคอกวัวเก่า ห่างชุมชนประมาณ 1 กิโลเมตร
2 ผัวเมียติดโควิด ไม่มีเตียง ขี่มอไซค์กลับบ้าน 400 กม. ปทุมฯ-ศรีสะเกษ
สามีภรรยาติดโควิด ขี่จยย.กลับศรีสะเกษ 497 กม. หมดหวังไร้เตียงรักษา
โดยเริ่มจากการเดินทาง คนป่วยขับรถขังตัวเองอยู่ด้านหน้ารถยนต์เพียงคนเดียว ส่วนลูกอายุ 12 ปี และ 13 ปี พร้อมภรรยาผลตรวจไม่พบเชื้อ ให้นั่งกระบะด้านหลัง ระหว่างทาง เติมน้ำมันครั้งเดียว และแวะซื้อขนมปังกินประทังความหิวเพียงครั้งเดียว โดยให้ภรรยาจัดการ ส่วนคนติดเชื้อไม่ออกจากรถเลย เมื่อเจอด่าน ก็ลดกระจกลงบอกว่าติดเชื้อ เจ้าหน้าที่ก็ให้รีบเดินทางต่อทันที และกำชับห้ามแวะจอดในที่ชุมชนโดยเด็ดขาด เมื่อถึงบ้านจอดส่งลูกเมียที่บ้าน แล้วก็เข้ากักตัวทันที
และนี่คือการดำเนินการขั้นต่อมา โดยการกั้นพื้นที่บริเวณที่ครอบครัวนี้อาศัย ห้ามเข้าออกเด็ดขาด 14 วัน ส่วนอาหารญาติจะมาวางไว้ให้ แล้วโทรศัพท์ให้มาหยิบไป
สำหรับผู้ป่วยรายนี้ ติดเชื้อแต่ไม่แสดงอาการ ซึ่งได้ประสานกับทางโรงพยาบาลโพธิ์ศรีสุวรรณแล้ว คาดว่าน่าจะได้รับการรักษาในช่วงบ่ายวันนี้ ขณะเดียวกัน ก็มีญาติๆชาวบ้านบางส่วนที่กังวล ก็ได้โทรสอบถามคนในครอบครัว แต่ด้วยการประชาสัมพันธ์ สร้างความเข้าใจอย่างดีในชุมชน จึงไม่มีคนรังเกียจผู้ป่วย แต่ก็ได้มีการระมัดระวังตัวเองกันอย่างเคร่งครัด