ล่าสุดทีมข่าวไปพบข้อมูลผู้ที่กักตัวในเถียงนาจริงๆ ได้โพสต์ข้อความตัดพ้อระบายความในใจ บอกว่าให้มากักตัวเถียงนาก็มากักแล้ว อยู่มาตั้งหลายวันแต่ไม่มีใครมาเหลียวแล มีเพียงแม่ที่คอยส่งข้าวส่งน้ำให้ ส่วนทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แม้แต่คนที่จะวัดไข้หรือให้ยารักษายังไม่มีเลย ไปฟังคลิปบางช่วงบางตอนกัน
นี่เป็นบรรยากาศภายในเถียงนา ของชาวบ้านใน ต.สำโรงปราสาท อ.ปรางค์กู่ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งชายหนุ่มรายนี้ได้กักตัวที่เถียงนาขนาดเล็กภายในจังหวัดบ้างเกิด
รู้จัก "เถียงนา" ภูมิปัญญาชาวบ้าน คุณประโยชน์หลากหลาย
ชาวนาสะท้อน “เถียงนาโมเดล” ส่งคนมาลำบาก
โดยเถียงนาทำด้วยสังกะสีเก่าๆ มีสภาพผุพังทรุดโทรม ภายในเถียงนามี มุ้ง หมอน และผ้าห่ม รวมถึงอุปกรณ์ที่ใช้ในการดำรงชีวิตเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นายอัมรินทร์ ระยับศรี เล่าให้ฟังว่า ตนเองใช้ชีวิตที่เถียงนาแห่งนี้ได้ 12 วันแล้ว หลังจากเจ้าหน้าที่ไม่ให้เคลื่อนย้ายไปไหน ช่วงนี้ค่อนข้างลำบากเพราะมีฝนตกหนักทุกวัน และเถียงนาของตนเองก็ไม่มีสายล่อฟ้าทำให้ค่อนข้างอันตรายเวลาที่ฝนตก อีกทั้งความรุนแรงของพายุก็อาจทำให้เถียงนาพังเสียหายได้ บางคืนต้องลุกขึ้นมานั่งประกอบสังกะสี เพราะลมพายุพัดเเรงทำให้สังกะสีหลุดกระเด็นออกไป
ที่ตนเองตัดสินใจโพสต์เฟซบุ๊กในทำนองตัดพ้อ เพราะว่ารู้สึกน้อยใจที่ตั้งแต่มาอยู่ในเถียงนาแห่งนี้ตามมาตรการ เพราะหวังอยากจะเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับชาวบ้าน แต่กลับไม่มีใครมาสนใจ มีเพียงแม่ที่คอยเดินส่งข้าว-ส่งน้ำให้ทุกวัน บางวันที่ฝนตกหนักตนเองก็จะเป็นห่วงแม่ เพราะท่านเป็นผู้สูงอายุแล้ว อีกทั้งพื้นที่ส่วนใหญ่จะเป็นดินโคลนจึงเกรงว่าอาจจะเกิดอุบัติเหตุได้
ส่วนเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งรับปากว่าจะมาดูแล แต่พอถึงเวลาจริงๆกลับไม่มีเจ้าหน้าที่มาเลยซักคน มีเพียงอาสาสมัครของหมู่บ้านที่มาคอยวัดไข้ แต่ก็ไม่ได้มาทุกวัน โดยจะเข้ามาประมาณ 3วัน/ต่อครั้ง แต่ละครั้งที่มาก็ไม่ได้ถามไถ่สารทุกข์สุขดิบอะไรมาก จะอยู่เถียงนาแค่ไม่เกิน 5นาที เสร็จแล้วก็เดินทางกลับไปทันที ทำให้ตนเองรู้สึกน้อยใจที่ถูกทอดทิ้งทั้งๆที่พยายามทำตามมาตรการ ศบค. อย่างเคร่งครัด พร้อมอยากขอวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้ามาช่วยเหลือเร่งด่วน