ชีวิตพลิกผันสาวลูกครึ่งนักเรียนนอกป่วยติดเตียง

ร่างกายของนางสาวแคทรีน อายุ 46 ปี ลูกครึ่งไทย-อเมริกัน อยู่ในสภาพซูบผอม นอนบนที่นอนที่เต็มไปด้วยกลิ่นปัสสาวะ บนที่นอนยังมีทั้งน้ำยาล้างจาน ขวดซอสปรุงรส วางอยู่ ส่วนรอบๆ เต็มไปด้วยถุงผ้าอ้อมสำเร็จรูป  โดยนางสาวแคทรีนเป็นผู้ป่วยติดเตียง อยู่ในอพาร์ทเม้นท์แห่งหนึ่ง ใน ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี

เธอเล่าว่า พ่อของเธอเป็นทหารอเมริกันเสียชีวิตไปแล้ว เช่นเดียวกับแม่ที่เป็นชาวนครสวรรค์ ก็เสียชีวิตไปแล้วเช่นกัน ที่ผ่านมามีชีวิตค่อนข้างดี

 

 

แบกพ่อผู้ป่วยติดเตียง 12 ปี ลงทะเบียน “เราชนะ”

เด็ก 12 ปี ยอดกตัญญู ขาดเรียน-ขาดสอบ ดูแลพ่อป่วยติดเตียง

หลังเรียนจบการโรงแรมจากแคนาดา ได้บินกลับมาทำงานบนเรือสำราญ 1 ปี ก่อนมาทำงานด้านความสวยความงามในคลินิก จนช่วง 10 ปี ก่อน เริ่มมีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง เพราะได้รับพันธุกรรมโรคมาจากแม่ ซึ่งแม่ และยายก็เป็นโรคนี้  ทำให้ต้องออกจากงานเพราะไม่สามารถทำงานได้  ช่วงแรกยังพอเดินได้ แต่ตอนนี้เดินไม่ได้แล้ว การลุกขึ้นนั่งก็ยังทำได้ยาก มีเพียงแขนที่พอหยิบจับสิ่งของได้บ้างส่วนการพูดก็พูดได้ช้าลง

เธอไม่มีญาติพี่น้องที่ไหน มีเพียงแม่บ้านอพาร์ตเม้นท์และคนรู้จักไม่กี่คน คอยช่วยเหลือหาอาหารมาให้และช่วยดูแลทำความสะอาดให้บ้าง แต่ล่าสุดคนที่คอยดูแล อาจต้องไปอยู่กับลูก จึงไม่อยากเป็นภาระใคร และอยากไปอยู่บ้านพักคนพิการ

นางวิไล นามสิริ แม่บ้านอพาร์ตเม้นท์ เล่าว่า นางสาวแคทรีน มาอยู่ที่นี่ตั้งแต่ ปี 2556 โดยมีวินจักรยานยนต์คนหนึ่งพามา ก่อนจะกลับมาอีกครั้งตอนปี 2561  ซึ่งช่วงนั้นมีคนคอยช่วยเหลือแคทรีน 3 คน คือ ตัวเธอ คนรู้จักที่ชื่อป้าเหลือง และวินจักรยานยนตต์รับจ้าง ช่วงแรกแคทรีนยังช่วยเหลือตัวเองได้ จึงสลับกันไปซื้ออาหารมาให้ทุกเช้า จนช่วง 1 ปี หลัง ต้องนอนติดเตียง
และคนที่คอยให้ความช่วยเหลือก็มีความจำเป็นต้องกลับบ้าน รวมถึงตัวเธอเองที่อนาคตอาจต้องไปอยู่กับลูกที่อื่น จึงกังวลว่าจะไม่มีคนดูแล ขณะที่ก่อนหน้านี้ เคยมีเจ้าหน้าที่รับปากว่าจะพานางสาวแคทรีนไปดูแล แต่ก็เงียบหายไป

ด้านนางรัชนี วชิรภูชัย พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดปทุมธานี บอกว่า สำหรับกรณีนี้ อาการเพิ่งมารุนแรงช่วงหลัง และที่ผ่านมาผู้ป่วยมีเงินสนับสนุนจากประกันสังคม เบี้ยยังชีพคนพิการ และบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รวม 8,000 บาท จึงไม่ถือว่าเคสที่ต้องเร่งพิจารณา แต่เมื่อผู้ป่วยรายนี้
ไม่มีผู้ดู และ และไม่สามารถช่วยตัวเองได้ จึงมีความจำเป็นต้องเร่งช่วยเหลือ แต่ต้องนำมาไว้สถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งหญิงธัญบุรีชั่วคราว เพราะสถานคุ้มครองและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการเต็ม หลังจากนี้ก็จะเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูร่างกาย และจิตใจผู้ป่วย

นางรัชนี อธิบาย เพิ่มเติมว่า กรณีของผู้ป่วยรายนี้ พม.ปทุมธานี เข้าช่วยดูแล ตั้งแต่ปี 2561 และเห็นว่า ผู้ป่วยยังสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ จนช่วงปีนี้จะเร่งประสานสถานที่ และประสานเรื่องเงินประกันตนทุพลภาพ ไม่เข้า บัญชี 2 เดือน ซึ่งหน่วยงานต้นสังกัดประสานกับเจ้าตัวแล้ว ล่าสุดเตรียมย้ายเข้าสถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งหญิงธัญบุรีวันจันทร์นี้