คืบหน้าวัคซีนโควิด สัญชาติไทย 2 ตัว คาดได้ใช้ปี 65

โดย PPTV Online

เผยแพร่

จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดงานเสวนา CHULA the Impact ครั้งที่ 5 เรื่อง “ความคืบหน้าวัคซีนโควิด-19 ของจุฬาฯ นวัตกรรมของไทย ความหวังของโลก”

เริ่มที่ วัคซีน ChulaCov19 ชนิด mRNA กระตุ้นภูมิสูงกว่าไฟเซอร์ 2 เท่า

อบจ.ปทุมธานี เปิดลงทะเบียน "โมเดอร์นา" ฉีดเข็ม 3 ฟรี เริ่ม 22 พ.ย. เวลา 11 โมง

จุดเด่นวัคซีน ChulaCov-19 และ 4 แนวทางไทยมีวัคซีนอย่างน้อยหนึ่งชนิดของตนเองก่อนสงกรานต์ 65

ศ.นพ.เกียรติ รักษ์รุ่งธรรม ผู้อำนวยการบริหารโครงการพัฒนาวัคซีนโควิด-19 ศูนย์วิจัยวัคซีน คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ (วัคซีน ChulaCov19) กล่าวว่า จุดเด่นของวัคซีน ChulaCov19 คือเรื่องของการกระตุ้น ภูมิคุ้มกันที่มีประสิทธิภาพมาก และสามารถป้องกันเชื้อข้ามสายพันธุ์ได้ทั้งใน B Cells และ T Cells โดยเฉพาะใน T Cells ที่สูงกว่า ไฟเซอร์ (Pfizer) ถึง 2 เท่า หลังฉีดโดสที่ 2 ใน 7 วัน

 

ซึ่งต้องรอพิสูจน์อีกครั้งในการทดสอบระยะที่ 3 ต่อไป รวมถึงการออกแบบตัวเนื้อวัคซีนที่ต่างจากวัคซีนโควิด-19 ชนิด mRNA ที่มีอยู่ในปัจจุบัน ทำให้ไม่ติดในเรื่องของสิทธิบัตร ส่วนตัวห่อหุ้มที่ซื้อสิทธิบัตรมาใช้ก็เป็นเทคโนโลยีล่าสุด รวมถึงสูตรของวัคซีนที่เก็บได้นานกว่า คือสามารถเก็บในอุณหภูมิที่ 2-8 องศาได้นานถึง 3 เดือน

ยืนยันใช้งบ 2,300 ล้านบาท จากรัฐบาลอย่างเหมาะสม คาดเร็วสุด กลางปี 2565

ในส่วนของ งบประมาณ จำนวน 2,300 ล้านบาทที่ได้รับการอนุมัติจากรัฐบาล ซึ่งมอบอำนาจให้ทางคณะแพทยศาสตร์และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยบริหารนั้น ศ.นพ.เกียรติยืนยันว่า จะนำไปจัดสรรใช้อย่างเหมาะสม ทั้งในเรื่องของการพัฒนาวัคซีน การวิจัยในอาสาสมัคร และเรื่องของวัตถุดิบและการผลิตหลังขึ้นทะเบียนกับ อย. โดยคาดว่าจะสามารถขออนุมัติใช้ได้เร็วที่สุดคือช่วงกลางปี 2565 ตั้งแต่เดือนมิถุนายน – กันยายน

“บทเรียนที่ผ่านมาของเราคือการที่จะต้องพึ่งพาเทคโนโลยีของคนอื่นไปเรื่อยๆ ถามว่าทำไมต้องพัฒนาวัคซีนเอง จะเห็นได้ว่าในช่วงแรกๆ ต่อให้มีเงินก็ซื้อวัคซีนไม่ได้ หรือซื้อได้ก็ต้องรอ วันนี้เราอาจจะช้ากว่า แต่ในวันหน้าเราจะพึ่งพาตัวเองได้มากขึ้นและทันท่วงที เราต้องมองไกล สิ่งนี้คือการลงทุนเพื่อความมั่นคงทางด้านสุขภาพ สังคมและเศรษฐกิจของประเทศ เป็นความมั่นคงที่ต้องมีอย่างยั่งยืน” ศ.นพ.เกียรติ กล่าว

วัคซีนจุฬาฯ-ใบยา คาดอนุมัติให้ใช้ได้ อย่างเร็วที่สุดในไตรมาสที่ 3 หรือ 4 ของปี 2565

ผศ.ภญ.ดร.สุธีรา เตชคุณวุฒิ คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาฯ และ CEO & Co Founder บริษัท ใบยา ไฟโตฟาร์ม จำกัด  เปิดเผยว่า จุดเด่นของวัคซีนจุฬาฯ-ใบยา คือเป็นวัคซีนที่ผลิตขึ้นโดยเทคโนโลยีแพลตฟอร์มและองค์ความรู้ที่สามารถปรับเปลี่ยนและผลิตได้หลากหลายทั้งวัคซีนและยารักษาโรคต่างๆ เพื่อให้ประเทศไทยสามารถพึ่งพาตัวเองได้ในทางการแพทย์ หากทุกอย่างเป็นไปตามแผน และพบวัคซีนที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคโควิด-19 คาดว่าจะสามารถขออนุมัติให้ใช้ได้ อย่างเร็วที่สุดในไตรมาสที่ 3 หรือ 4 ของปี 2565

ปัจจุบันได้ดำเนินการออกแบบและสร้างโรงงานผลิตวัคซีนระดับอุตสาหกรรม เพื่อรองรับการผลิตวัคซีนจากระบบดังกล่าวสำเร็จเรียบร้อยแล้ว มีกำลังการผลิตจำนวน 1-5 ล้านโดสต่อเดือน

ส่วนวัคซีนอยู่ในระหว่างการทดสอบในมนุษย์ระยะที่ 1 โดยได้เริ่มฉีดให้กับอาสาสมัครช่วงอายุ 18-60 ปี จำนวน 96 ราย ตั้งแต่วันที่ 27 กันยายนที่ผ่านมา ทั้งนี้ยังอยู่ในช่วงการติดตามผลทั้งเรื่องของความปลอดภัยและประสิทธิภาพ (50 วัน) เบื้องต้นยังไม่พบผลข้างเคียงที่น่ากังวล แต่เรื่องของประสิทธิภาพยังต้องรอข้อมูล

สำหรับการทดสอบในเฟสที่ 2 ในกลุ่มผู้สูงอายุ (61-75 ปี) ก็เริ่มมีการรับอาสาสมัครแล้วแต่ยังได้อาสาสมัครไม่ครบ เนื่องจากผู้สูงวัยใน กทม. ส่วนใหญ่ได้รับวัคซีนเกือบครบแล้ว

สำหรับ วัคซีนป้องกันโควิด-19 จากใบพืชตระกูลยาสูบสปีชีส์ “N. benthamiana” ซึ่งใช้ระบบการผลิต recombinant protein โดยการตัดต่อพันธุกรรมของแบคทีเรียที่ก่อโรคในพืชในใบยาสูบ

คู่ขนานพัฒนาวัคซีนรุ่นที่สอง ทดสอบอาสาสมัครเฟสแรกมกราคม 65

นอกจากนี้ทีมวิจัยยังได้พัฒนาวัคซีนรุ่นที่สอง โดยปรับปรุงสูตรให้สามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ดีขึ้น และมีการพัฒนาจากเชื้อไวรัสกลายพันธุ์มากกว่า 10 รูปแบบ เพื่อพัฒนาเป็นวัคซีนผสม (Cocktail vaccine) ซึ่งปัจจุบันวัคซีนรุ่นที่สองก็ได้รับการพัฒนาขึ้นแล้ว และมีการทดสอบในอาสาสมัครเฟสแรกในช่วงเดือนมกราคม 2565 เพื่อคัดเลือกวัคซีนตัวที่ดีที่สุดไปทดสอบในเฟสที่ 2 ต่อไปในช่วงเดือนกุมภาพันธ์

“เราไม่เคยพัฒนายาใหม่หรือวัคซีนขึ้นเองได้ แต่ตอนนี้เราทำได้ในระยะเวลาแค่สองปี ถือว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีและภาคภูมิใจ แต่เราจะทำไม่ได้เลยหากไม่มีการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานหรือระบบนิเวศที่เอื้อต่อการพัฒนาที่มีมาก่อนหน้านี้ ถึงแม้วันนี้มันจะยังไม่ดีที่สุด แต่เราเริ่มเห็นแล้วว่าประเทศเราต้องขับเคลื่อนด้วยองค์ความรู้และวิทยาศาสตร์ที่สามารถพึ่งพาตัวเองได้” ผศ.ภญ.ดร.สุธีรา กล่าวทิ้งท้าย
 

Bottom-PL-HLW Bottom-PL-HLW

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

PPTVHD36

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ