นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า การฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 สามารถลดการแพร่ระบาด ลดความรุนแรงของอาการ และลดการเสียชีวิตได้ แต่มีบางรายที่ยังกังวล ต่อผลข้างเคียงที่จะตามมา โดยทั่วไปมักพบผลข้างเคียงตั้งแต่ปวดแขนบริเวณที่ฉีด ปวดศีรษะ มีไข้ ปวดเมื่อยเนื้อตัวหรืออ่อนเพลีย และอาจมีอาการไปได้ 2–3 วัน หลังฉีดวัคซีน และอาการจะค่อย ๆ ดีขึ้นตามลำดับ
แพทย์ แนะช่วงหน้าหนาว ควรกินอาหารที่มีเครื่องเทศ รสเผ็ดร้อน ช่วยสร้างความอบอุ่น
อาหาร 10 ชนิด ถ้ากินเป็นประจำจะช่วยบำรุงปอดให้แข็งแรง
ซึ่งการกินพืชสมุนไพรก็มีส่วนลดความรุนแรงหรือบรรเทาอาการที่มาจากผลข้างเคียง หลังฉีดวัคซีนได้ ทั้งนี้ พืชสมุนไพรที่แนะนำ ได้แก่
1) ขมิ้น เพราะมีสารต้านการอักเสบใช้เป็นยาแก้ปวดได้ อาจช่วยบรรเทาการปวดแขน ปวดศีรษะ
2) ขิง สามารถช่วยลดการอักเสบ
3) ผักใบเขียว มีวิตามิน ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน ใยอาหารช่วยขับสารพิษของเสียออกจากร่างกาย อาหารที่มีปริมาณน้ำสูง เช่น ผัก ผลไม้ ทำให้ร่างกายสดชื่น ช่วยให้ร่างกายทำงานได้ปกติ
4) ธัญพืชต่างๆ สามารถช่วยรักษาสุขภาพลำไส้ ระบบขับถ่ายปกติ และยังให้พลังงานกับร่างกายหลังเกิดอาการอ่อนล้าหลังฉีดวัคซีนด้วย
กรมควบคุมโรค ชวนฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น หลังฉีดเข็ม 2 ห่าง 3 เดือนขึ้นไป
เช็กมาตรการ เดินทางเข้าประเทศไทยหลัง ศบค.มีมติให้ปรับ เริ่มใช้ 16 ธ.ค.นี้
“สำหรับการเตรียมตัวไปฉีดวัคซีนนั้น สองวันก่อนและหลังการฉีดวัคซีนให้งดออกกำลังกายหนักหรือยกของหนัก นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และวันที่ฉีดควรดื่มน้ำเปล่าอย่างน้อย 500 - 1,000 ซีซี งดเครื่องดื่ม ที่มีแอลกอฮอล์ โดยหลังฉีดแล้วเจ้าหน้าที่จะให้รอดูอาการในบริเวณที่ฉีด 30 นาที ถ้ามีไข้ หรือปวดเมื่อยมาก ทนไม่ไหว สามารถกินยาพาราเซตามอลขนาด 500 มิลลิกรัม ครั้งละหนึ่งเม็ด หากยังไม่ดีขึ้นกินซ้ำต่อได้ แต่ควรห่างกัน 4 - 6 ชั่วโมง นอกจากนี้ การฉีดวัคซีนโควิด-19 ควรห่างกับวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ อย่างน้อย 1 เดือน” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว