นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยว่า ในจำนวนผู้ใช้สิทธิบัตรทองที่ต้องบำบัดทดแทนไต จะมีคนไข้กลุ่มหนึ่งที่เหมาะกับวิธีล้างไตทางหน้าท้อง แต่ด้วยปัจจัยบางอย่างทำให้คนไข้กลุ่มนี้ปฏิเสธการล้างไตทางหน้าท้องแล้วเลือกใช้วิธีฟอกเลือดแทน ซื่งตามหลักเกณฑ์เดิมของ สปสช. ผู้ป่วยจะต้องจ่ายเงินเองครั้งละ 1,500 บาท ซึ่งใน 1 สัปดาห์จะต้องฟอก 2-3 ครั้ง มีค่าใช้จ่ายประมาณ 3,000 บาท/สัปดาห์ หรือ เดือนละ 12,000 บาท ถือเป็นจำนวนเงินที่สูงโดยเฉพาะกับผู้ที่รายได้น้อย
เหตุผลที่ต้องตรวจเช็ก "กระเพาะอาหารและลำไส้ใหญ่"
ทำความรู้จัก "โรคไอบีเอส (IBS)" หรือ "โรคลำไส้แปรปรวน"
ดังนั้น แทนที่จะให้คนไข้จ่ายเงินเอง มติคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) จึงมีนโยบายเพิ่มทางเลือกแก่ผู้ป่วยโรคไตให้สามารถเลือกวิธีการบำบัดทดแทนไตได้
หากประสงค์จะฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม สปสช. จะเข้าไปดูแลเพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ครอบคลุมทุกอย่างตั้งแต่ค่าฟอกเลือด ค่าเจาะเตรียมเส้นเลือด ค่ายากระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดแดง โดยที่ประชาชนไม่ต้องจ่ายเงินเองอีกต่อไป
นโยบายดังกล่าวจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. 2565 ในส่วนคนไข้เดิมที่ปฏิเสธการล้างไตทางหน้าท้องแล้วจ่ายเงินฟอกเลือดเองก็ไม่ต้องจ่ายอีกต่อไป คนไข้ใหม่ที่แพทย์วินิจฉัยแล้วว่าต้องทำการบำบัดทดแทนไตและเลือกวิธีฟอกเลือดก็ไม่ต้องจ่ายเช่นกัน รวมทั้งส่วนผู้ที่ใช้วิธีล้างไตทางหน้าท้องแต่อยากเปลี่ยนมาใช้วิธีฟอกเลือดก็สามารถเปลี่ยนได้เช่นกัน
พลังงานอาหารจีนมงคล ตรุษจีน 2565
ไหว้ตรุษจีน 2565 สิ่งที่ต้องรู้ เสริมความเป็นสิริมงคล
สำหรับ วิธีการบำบัดทดแทนไตมี 2 วิธีหลักๆ คือ 1.ล้างไตทางหน้าท้อง โดยวางท่อบริเวณหน้าท้องแล้วเทน้ำยาล้างไตผ่านท่อเพื่อล้างของเสียออกจากร่างกาย วิธีนี้ต้องล้างทุกวัน มีข้อดีคือสะดวกในการใช้ชีวิตประจำวัน ไม่จำเป็นต้องมาที่โรงพยาบาลหรือหน่วยฟอกไต และวิธีที่ 2.การฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม วิธีนี้ต้องไปทำที่โรงพยาบาลสัปดาห์ละ 2-3 วัน ใช้เวลาครั้งละ 3 ชั่วโมงเป็นอย่างน้อย
"การที่ผู้ป่วยจะเลือกวิธีไหน แพทย์ต้องคุยกับคนไข้ แนะนำข้อดีของเสียของทั้ง 2 วิธีนี้ และการตัดสินใจต้องเป็นการตัดสินใจร่วมระหว่างแพทย์และผู้ป่วย โดยพิจารณาความเหมาะสมต่างๆ เช่น โรงพยาบาลในพื้นที่มีหน่วยไตเทียมหรือไม่ เพราะหน่วยไตเทียมส่วนมากกระจุกตัวในเมืองใหญ่ ขณะที่ตามชนบทห่างไกลหรือโรงพยาบาลอำเภอบางแห่งอาจไม่มีหน่วยไตเทียม หรือถ้ามีหน่วยไตเทียมในพื้นที่แล้วคิวฟอกไตเยอะหรือไม่ ระยะทางระหว่างบ้านผู้ป่วยและหน่วยฟอกไตไกลเท่าใด คนไข้สะดวกเดินทางไปฟอกเลือดหรือไม่ ค่าใช้จ่ายในการเดินทางสูงหรือไม่ เป็นต้น" นพ.จเด็จ กล่าว
ปัจจุบันจำนวนผู้ป่วยโรคไตที่ต้องบำบัดทดแทนไตมีประมาณเกือบ 200,000 คน และยังมีคนไข้อีกกลุ่มหนึ่งที่เป็นโรคไตแต่ยังไม่ถึงขั้นบำบัดทดแทนไต กลุ่มนี้ก็ประมาณการว่ามีจำนวนกว่า 1 ล้านราย ขณะที่ผู้ใช้สิทธิบัตรทองที่ต้องบำบัดทดแทนไตมีประมาณ 60,000 รายและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี