เปิดวิธีดูแลผิวของทุกช่วงวัย เพราะผิวสวยไม่ใช่แค่ขาว แต่ต้องสุขภาพดี


โดย BDMS

เผยแพร่




การดูแลผิวพรรณนี้ไม่ได้หมายถึงแค่ความสวย ความงามหรือช่วยชะลอวัยเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวกับสุขภาพอีกด้วย เพราะสัญญาณจากผิวกายที่หมองคล้ำหรืออาการผมร่วง ก็อาจเป็นตัวบ่งบอกความผิดปกติของร่างกายภายในได้เช่นกัน

ในช่วงอายุ 20 ปี เป็นช่วงผิวที่มีคอลลาเจนมากที่สุด ฮอร์โมนเริ่มคงที่ การผลิตน้ำมันในชั้นผิวไม่มากไม่น้อยจนเกินไป แต่ในช่วงนี้บางคนอาจยังมีสิวและผิวมันอยู่ ซึ่งควรดูแลอย่างเหมาะสมนะ และนอกจากปัญหาเรื่องสิวและผิวมันแล้ว เมื่อคนส่วนใหญ่อายุเข้าเลข 2 กรรมพันธุ์ ไลฟ์สไตล์ และสิ่งแวดล้อม ทำความสะอาดผิว ทั้งผิวหน้าและผิวกาย โดยไม่เลือกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่แรงเกินไปจนผิวแห้ง

รักษารอยสิวๆได้ง่ายด้วย วัตถุดิบก้นครัว ไม่ต้องพึ่งสารเคมี

รู้จักชนิด "วิตามินซี" กินให้ถูกต้องได้ประโยชน์สูงสุด

 

ในวัย 20 ปลาย หรือช่วงอายุ 25-29 ปีนั้น อาจต้องเริ่มบำรุงกันเป็นพิเศษ ควรมองหาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ต่อปัญหาผิวที่เผชิญอยู่ อย่างคนที่มีปัญหารูขุมขนกว้างก็สามารถเลือกใช้ตัวบำรุงที่มีคุณสมบัติในการกระชับรูขุมขน เพื่อช่วยเรื่องความเรียบเนียนของผิว

พอเข้าสู่เลข 3 ปัญหาในชั้นผิวหนังแท้เริ่มมีมากขึ้น เพราะคอลลาเจนและอิลาสตินหรือความยืดหยุ่นของผิวเราถูกทำลายมากขึ้นกว่าเดิม แถมผิวชั้นนอกสุด หรือชั้นหนังกำพร้ามีการผลัดตัวช้าลง ทำให้ผิวดูหยาบกร้านมากยิ่งขึ้น จึงเริ่มเห็นริ้วรอย รอยหมองคล้ำ และฝ้าชัดเจนขึ้น แปลง่าย ๆ ก็คือ สัญญาณความชรา

เมื่อประกอบเข้ากับเป็นวัยที่เริ่มเผชิญกับการทำงานที่เครียดและมีปัญหาไม่ซ้ำกันในแต่ละวัน ความเหนื่อยล้าต่างๆ เริ่มแสดงออกมาผ่านผิวของเรามากขึ้น เราจึงควรป้องกันปัญหาผิวโทรมด้วยการใช้สกินแคร์บำรุงผิวในโหมดที่มีส่วนช่วยต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นต้นเหตุของผิวแก่ ผิวโทรม หรือสกินแคร์ที่มีสารหลักสำคัญอย่าง ไฮยาลูโรนิค แอซิด ที่ช่วยเติมเต็มริ้วรอย ยกกระชับใบหน้าให้กลับมาตึง เรียบเนียน และช่วยเติมความชุ่มชื้นคืนกลับสู่ผิว 

เมื่อถึงวัยกลางคนอย่างวัย 40 ปี ผิวของเราจะเริ่มอ่อนแอและมีการยุบตัวมากขึ้น เพราะปัญหาผิวได้ลงลึกไปถึงชั้นไขมัน พอเข้าวัยเลข 4 ไขมันในชั้นผิวจะเริ่มลดน้อยลง ไม่หนาแน่นเหมือนในวัยเด็ก รูปหน้าจึงเริ่มหย่อนคล้อย เริ่มปรากฏริ้วรอยที่ใบหน้าเห็นชัดขึ้น ทั้งรอยตีนกา ร่องแก้ม มือ

ในวัยนี้ขอแนะนำให้เลือกลงทุนกับผลิตภัณฑ์ดูแที่มช่วยในการป้องกันริ้วรอยแห่งวัย สามารถไปหาซื้อสกินแคร์ในกลุ่มนี้ได้ โดยมองหาคำว่า “Anti Aging” ที่ระบุบนฉลากผลิตภัณฑ์มีหลากหลายยี่ห้อ และที่ไม่ควรขาดเลยเช่นทุกวัยคือครีมกันแดด เพราะรังสียูวีนี่อันตรายต่อผิวและสุขภาพมาก หรือใครอยากสุขภาพผิวดีจากภายในสู่ภายนอกแบบที่เคยได้ยินกันก็อย่าลืมใส่ใจเรื่องอาหารและโภชนาการ เพราะอาหารบางชนิดอาจช่วยเรื่องปัญหาผิวได้ และอาหารบางชนิดก็อาจเร่งให้ผิวเสื่อมก่อนวัยได้เหมือน เพราะฉะนั้น นอกจากเรื่องปัญหาริ้วรอยที่เริ่มฝังลึกบนผิวเราแล้ว ปัญหาหนักอกหนักใจ แต่ไม่หนักหัวของคนในวัย 40 หลายคนก็คือเรื่อง ผมร่วง-ผมบาง 

พอเข้าสู่เลข 5 วัยนี้ ปัญหาผิวได้ลงลึกมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยนอกจากริ้วรอยยิ่งลึกยิ่งขึ้นแล้ว ผิวหนังเริ่มบางลง อ่อนแอลง ไวต่อแดดมากขึ้น แต่ที่น่ากังวลกว่านั้นคือบางคนรูปหน้าเริ่มเปลี่ยนไป อย่างหน้าดูไม่สมส่วน หน้าดูตอบ หรือดูบุ๋มลงไปก็มี ซึ่งก็เป็นผลจากผิวหนังที่หย่อนคล้อยมาก โครงสร้างของใบหน้าก็การยุบตัวลงตามธรรมชาติ

ปัญหาผิวของคนวัยนี้มักเป็นปัญหาผิวที่สะสมต่อเนื่องจากวัย 30 เป็นต้นมา ประกอบกับโครงสร้างผิวที่เปลี่ยน การฟื้นฟูของผิวที่น้อยลง ก็จะยิ่งที่ให้ปัญหาผิวหนักยิ่งขึ้นไปอีกครับ ไม่ว่าจะเป็น ผิวระคายเคืองง่าย บางคนสีผิวเริ่มซีด ในขณะที่บางคนก็มีปัญหาผิวผลิตเม็ดสีส่วนเกินมากเกินไปจนเป็นกระ เป็นฝ้า

ดังนั้น วิธีดูแลผิวสำหรับคนอายุ 50 ปีขึ้นไป คือการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนต่อผิว ที่ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิว มีคุณสมบัติกระชับผิว และลดริ้วรอยแห่งวัยไปในตัว แน่นอนว่าคนวัย 50 ก็ไม่ควรละเลยการทาครีมกันแดดเป็นประจำวันทุกวัน

สำหรับผิวพรรณคนในวัย 60 ปีขึ้นไปนั้น เป็นช่วงที่ผิวเริ่มเสื่อมโทรม ฮอร์โมนต่าง ๆ ก็ค่อย ๆ ลดต่ำลง ผิวพรรณจึงแย่ลง ดูแลยากกว่าเดิม จนอาจเรียกช่วงวัยนี้ว่าเป็นการรวมแทบทุกปัญหาของผิวของแต่ละช่วงวัยเอาไว้เลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นเป็นกระ เป็นฝ้า ผิวหย่อนคล้อย  ผิวดูหยาบ เพราะไม่มีการสร้างเซลล์ผิวใหม่ แต่ปัญหาผิวที่เห็นได้ชัดอีกอย่างหนึ่งในคนวัยนี้คือผิวแห้ง ขาดน้ำ ผิวเดิมก็บางลงมาก กลายเป็นผิวอ่อนแอ

แม้ว่าคนที่เข้าสู่วัยนี้หลายคนอาจเลิกสนใจเรื่องความสวยความหล่อไปแล้ว แต่สุขภาพผิวยังจำเป็นต้องดูแลอยู่ เพื่อไม่ให้ผิวเซลล์เสื่อมโทรมหรืออ่อนแอไปมากกว่านี้

คนวัยนี้จึงต้องปกป้องผิว หลีกเลี่ยงแสงแดด ระมัดระวังเรื่องเส้นเลือดเปราะแตกง่าย อุบัติเหตุจากการช้ำ ทำให้หายช้า การฟื้นตัวก็จะช้าตามไปด้วย

เมื่ออายุย่างเข้าสู่เลข 7 ระบบภูมิคุ้มกันของผิวก็ลดลง ทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อมากขึ้น ตรงส่วนนี้ต้องระวัง เพราะอาจส่งผลต่อสุขภาพร่างกายได้มากขึ้นด้วย 

 

คอนเทนต์แนะนำ
สมเด็จพระสังฆราช ประทานกัปปิยภัณฑ์ พร้อมให้ทุกวัดสวดเจริญพระพุทธมนต์ สร้างขวัญกำลังใจประชาชน
แชร์ว่อน! ประสบการณ์กินคอลลาเจนนาน ทำให้เลือดเป็นกรด จริงเท็จแค่ไหน?

TOP สุขภาพ
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ