วันนี้ 29 ส.ค. 2565 นายอภิดิศร์ อินทุลักษณ์ หลานชายอดีตรัฐมนตรี เดินทางมาพบตำรวจ สน.โชคชัย เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา ตามหมายเรียก ในคดีที่ถูกกล่าวหาว่าวางยา ข่มขืนกระทำชำเรานักแสดงสาวอายุ 22 ปี คนหนึ่ง
โดยนายอภิดิสร์ เปิดเผยว่า วันนี้มาเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ใจ หลังจากมีหมายเรียกส่งมาที่บ้านโดยระบุให้ตนมาให้ปากคำวันนี้ ยืนยันว่าเรื่องที่เกิดขึ้นตนเองถูกแบล็คเมล
ตร.ยันหลักฐานครบคดีดาราสาวถูกล่วงละเมิด คาดสื่อสารผิดพลาด
ทนายตั้มงง! หลักฐานเด็ดเอาผิดหลานรมต.หาย
โดยสิ่งที่ผู้เสียหายกล่าวอ้างไม่เป็นความจริง เพราะในคืนเกิดเหตุฝ่ายหญิงเป็นฝ่ายทักมาหาก่อน บอกว่าทะเลาะกับพี่สาว ไม่อยากกลับบ้าน ก่อนจะให้ตนเองช่วยหาโรงแรมให้ ตนจึงแนะนำโรงแรมแถวสุขุมวิทไป แต่ฝ่ายหญิงบอกว่าราคาแพงเกินไป สุดท้ายก็มีการนัดหมายกันที่รีสอร์ทย่านนาคนิวาส แล้วก็ดื่มแอลกอฮอล์กัน ตนเองไม่ได้วางยา และก็ไม่ได้นัดผู้เสียหายมาคุยงานตามที่อีกฝ่ายกล่าวอ้าง
ยืนยันมีหลักฐานทุกอย่างว่าเรื่องนี้เป็นการแบล็คเมล ตนเองพร้อมเปิดหน้าสู้ เพราะข่าวที่ออกไป ทำให้ชื่อเสียงวงศ์ตระกูลเสียหายมาก
นายอภิดิศร์ (ผู้ถูกกล่าวหา) ยังพูดถึงทนายตั้ม หรือทนายษิทรา ที่เป็นคนช่วยเหลือผู้เสียหายด้วย ว่าทนายษิทราน่าจะอยู่ฝ่ายที่ผิด เพราะไม่รู้ว่าความจริงคืออะไร และยังบอกด้วยว่า ตนเองไม่ได้มีคอนเน็คชั่นหรือเส้นสายกับตำรวจที่ไหนทั้งสิ้น อยากวอนขอความเห็นใจจากทุกฝ่าย เพราะตอนนี้โดนโจมตีอย่างหนักจากความเข้าใจผิด
ซึ่งในส่วนของคดี ล่าสุด ช่วง 16.00 น.พบว่าตอนนี้ตำรวจยังสอบปากคำนายอภิดิสร์ ไม่เสร็จ โดยใช้เวลาสอบปากคำเป็นเวลานานกว่า 5 ชั่วโมงแล้ว อย่างไรก็ตาม หลังสอบปากคำเสร็จก็จะนำตัวส่งศาลอาญารัชดา เนื่องจากเป็นคดีมีอัตราโทษสูง ซึ่งเป็นดุลยพินิจของศาลว่าจะรับฝากขัง หรือ ปล่อยตัวชั่วคราว
อีกด้านหนึ่ง ทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ได้พาดาราสาวผู้เสียหาย มาที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อร้องขอให้โอนคดีนี้จาก สน.โชคชัย มาสอบสวนต่อที่กองปราบฯ หลังไม่เชื่อมั่นการทำงานของตำรวจ สน.โชคชัย ที่นำหลักฐานสำคัญที่เป็นแชทไลน์ของผู้เสียหายและผู้ต้องหา ออกจากสำนวน และการสอบสวนผู้เสียหายที่ไม่ละเอียดรอบคอบ จนมีการสั่งย้ายรอง ผู้กำกับการสอบสวน สน.โชคชัย ไปปฏิบัติหน้าที่ที่อื่น
ขณะที่ ทนายตั้ม พูดถึงประเด็นที่ผู้ต้องหาบอกว่าตนเองอยู่ฝ่ายผิดเพราะไม่รู้ข้อมูล ซึ่งทนายตั้มยืนยันว่าตรวจสอบข้อมูลดีแล้ว เพราะหากผิดพลาดอาจกระทบต่อชื่อเสียงได้ คดีนี้มั่นใจในความบริสุทธิ์ของผู้เสียหาย
ขณะที่ ผู้เสียหาย ยืนยันว่า มีหลักฐานที่ผู้ต้องหาก่อเหตุจริง เรื่องนีั้ตนเองไม่ได้แบล็กเมล์ และอยากถามผู้ต้องหาว่าหากไม่ได้ทำผิดจริง ทำไมถึงต้องพยายามโทรมาเสนอเงินเพิ่มเพื่อให้ยุติการแจ้งความด้วย
ซึ่งผู้เสียหาย ยืนยันว่าเรื่องที่พูดมาเป็นเรื่องจริง แม้อีกฝ่ายจะเปิดหน้าสู้ แต่ก็ไม่ได้รู้สึกกลัว พร้อมท้าให้ฝ่ายชายเอาหลักฐานที่ตัวเองพูดออกมาโชว์ด้วย