วันที่ 6 ธ.ค. 2565 พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางเข้าสอบสวนคดีนายทุนจีน พร้อมเปิดเผยว่าวันนี้ตำรวจได้เชิญนางพัชรินทร์ และน.ส.หลิน ซึ่งทั้งสองมีรายชื่อ เป็นกรรมการบริษัท ซึ่งมีนายตู้ห่าวเป็นประธานกรรมการ ซึ่งจะมีการสอบในฐานะพยาน ธุรกรรมการเงิน เส้นทางการเงิน การเบิกจ่ายเงิน เนื่องจากทั้งสองมีการรับจ่ายเงินเข้าออกของบริษัท โดยมีชื่อเป็นผู้ถือหุ้น 3-4 บริษัท และทั้ง 2 เป็นเพื่อนกัน เพราะเชื่อว่ายังมีเงินสดตู้ห่าวอีกจำนวนมาก
บิ๊กโจ๊ก เปิดเบื้องหลังล่าทุนจีนสีเทา เริ่มจากหญิงตายที่ผับดังย่านรัชดา
“บิ๊กโจ๊ก”ส่งหนังสือถึงทูตจีน สอบประวัติ“ตู้ห่าว”เพิกถอนสัญชาติไทย
ซึ่งที่ผ่านมาทั้งสองคนให้การเป็นประโยชน์ไปแล้วก่อนหน้านี้ และรวมถึงประเด็นความสัมพันธ์กับนายตู้ห่าว ซึ่งขณะนี้ยังไม่พบความผิดปกติ แต่หลังจากนี้ตำรวจจะตรวจสอบอย่างละเอียดหากพบความผิดจะดำเนินการโดยไม่ละเว้น และเร่งรัดตรวจสอบเส้นทางการเงินทั้งหมด เพื่อดำเนินการยึดทรัพย์ทั้งหมด
ส่วนอดีตตำรวจระดับสารวัตรและ นางสุชาดา จะเข้าให้ปากคำในว้นพฤหัสบดี 8 พ.ย. ในประเด็นอำนาจหน้าที่ เส้นทางการเงิน ในฐานะที่มีรายชื่อกรรมการบริษัทของตู้ห่าว
และ วันนี้ได้เชิญตำรวจตรวจคนเข้าเมือง หัวหน้าสถานีกว่า 20 สถานีมาให้ปากคำ ย้อนกลับไปตั้งแต่ปี 2563 เกี่ยวกับกลุ่มคนจีนสีเทา เรื่องผับจินหลิน ผับท็อปวัน คลับวัน และคนจีนที่เป็นนอมินีทั้งหมด รวมถึงที่มาขอวีซ่าคนจีนสีเทา หลังตรวจพบว่าไม่มีการเดินทางเข้าออกประเทศ มีเอเย่นต์รับต่อวีซ่า มีการเรียกรับผลประโยชน์ และใช้วีซ่าผิดประเภท อ้างว่าเป็นนักศึกษา โดยหลังจากนี้จะเข้าค้นมูลนิธิที่รู้เห็นในการกระทำผิด หากพบมีความผิดจะทำเรื่องส่งไปให้กระทรวงมหาดไทยสั่งปิดทันที