มนุษย์เราต่างเคยตั้งคำถามว่า มีโอกาสกี่เปอร์เซ็นที่โลกจะแตก และคำถามถัดมาคือ แล้วโลกกลม ๆ ใบนี้จะแตกเมื่อไหร่ คำถามสั้นๆ อาจจะเป็นหัวข้อสนทนาที่ดูเพ้อฝันและแสนจะไกลตัว แต่ในงาน Next Door Catastrophe ผลงานของ นิสิตจุฬาฯ จาก 7 คณะ ทั้งสายวิทย์และสายศิลป์ รวมตัวกันในชื่อ Samyan Mustard นั้นกำลังจะบอกกับมวลมนุษยชาติ ว่า โลกแตกไม่ใช่เรื่องไกลตัวมันอาจจะเกิดขึ้นได้ และอาจจะเกิดขึ้นในเร็ววันนี้ และเมื่อเรารู้ตัว ตอนนั้นแหละเราจะพูดว่า "รู้ตัวอีกที วินาศสันตะโร" เสียแล้ว
ความวินาศสันตะโรทั้ง 6 คือชนวนที่อาจทำ "โลกแตก"
- สงครามระหว่างเผ่าพันธ์เมื่อเอไอถึงเหิมเกริมคิดจะครองโลก
- ความวินาสันตะโรเกิดเมื่อมนุษย์โลภอย่างไม่สิ้นสุด
- ภัยพิบัติที่แท้จริงคือมนุษยชาติไร้ความจริงใจ
- โลกอาจจะแตกถ้ามนุษย์ต่างดาวบุกโลก หรือ เพราะมนุษย์เอง
- ความวินาศสันตะโรที่แท้จริงคือเจาะระบบแฮกสามัญสำนึก
- ยุคสมัยแห่งการสูญพันธ์อาจจะกลับมาตอนที่มนุษย์ทำตัวเป็นภัยแก่กัน
“ความเป็นจริงแล้ว ต้นตอความวินาศสันตะโรในชีวิต อาจไม่ได้มาจากไหนไกล หากแต่มันอาจกำลังมองเราจากจุดใดจุดหนึ่งผ่านมุมมองของ 6 ผู้เชี่ยวชาญ พร้อมตั้งคำถามที่ลึกลงไป ว่าท้ายที่สุดสิ่งใดคือ ความวินาศสันตะโรที่แท้จริงคืออะไร "
PR SAMYAN MUSTARD
ผศ.ดร.สุกรี สินธุภิญโญ อาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
-
สงครามระหว่างเผ่าพันธ์เมื่อเอไอถึงเหิมเกริมคิดจะครองโลก
ผศ.ดร.สุกรี ชวนตั้งคำถามกับประเด็นนี้ว่า แท้จริงแล้วมนุษย์หรือเปล่า ที่เอากิเลส ความทะยานอยากของตัวเองไปตั้งคำถามกับเอไอ บทเรียนจากอดีตแสดงให้เห็นว่าความอยากของมนุษย์นี่แหละที่คอยสร้างปัญหาให้มนุษย์ด้วยกันเอง สิ่งที่เอไอจะทำได้วันนี้ คงไม่ได้เป็นการทำร้ายพวกเราโดยตรง แต่กลายเป็นพวกเราเองต่างหาก ที่หลงลืมความรู้สึกของตัวเอง เอไอจะมายึดครองเราหรือไม่ ขึ้นอยู่กับว่าเราจะเลือกใช้มันอย่างไร ? ก่อนทิ้งประโยคชวนคิดเอาไว้ให้กับมนุษยชาติว่า แนวปะทะที่เอไอยังห่างไกลจากเราคำตอบ คือ “อารมณ์” “ความคิด” “ความรู้สึก” แนวปะทะที่แม้กระทั่งมนุษย์เอง ก็ยังไม่เข้าใจถึงที่มาที่ไป และเป็นสิ่งที่เอไอเลียนแบบได้ยากยิ่ง
เอไอไม่ได้ร้ายกาจขนาดทำร้ายเราได้หรอกครับ หากแต่เราเองนี่แหละ ที่ลืมความเป็นตัวเรา ความรู้สึกต่าง ๆ ที่ประกอบเป็นตัวเรา ถ้าวันนั้นมาถึง ผมที่ออกมาเล่าเรื่องนี้ให้ทุกท่านฟัง ก็คงจะหายไป
-
ความวินาสันตะโรเกิดเมื่อมนุษย์โลภอย่างไม่สิ้นสุด
“เฮียวิทย์” เปิดมุมมองความวินาศสันตะโรในแง่มุมของประวัติศาสตร์และเศรษฐกิจรายละเอียดต่างๆ และหน้าประวัติศาสตร์ทางการเงิน ที่ตอกย้ำความโลภของมนุษย์ ที่แม้จะเห็นหรือสังเกตจุดเล็กๆ ในความผิดปกติ แต่มนุษย์เลือกที่จะมองผ่านเพียงเพราะเข้าใจว่า สิ่งที่เกิดขึ้นนั้น ไกลตัวเกินไป ก่อนจะรู้อีกทีก็ วินาศสันตะโรไปเสียแล้ว “สิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนเลย คือ ‘สัญชาติญาณความโลภ’ และ "การคิดเข้าข้างตัวเอง’ ของมนุษย์ ว่าจะสามารถเอาชนะคนอื่นได้ เอาชนะเทรนด์ได้ สิ่งนี้คือ เค้าลางแห่งความพินาศ ที่ทำให้โลกใบนี้ เกิดเหตุแบบนี้ ซ้ำแล้วและซ้ำอีก
ไม่ต้องดูอื่นไกล ต้นตอวิกฤตทั้งหลาย อยู่ในตัวเรา
-
ภัยพิบัติที่แท้จริงคือมนุษยชาติไร้ความจริงใจ
“ครูโอ๋” ชวนสำรวจจิตใจของเราในฐานะมนุษย์ มหันตภัยที่วินาศสันตะโรที่สุดสำหรับมนุษย์ อาจจะไม่ใช่ตัวของบุคคลที่เป็น ‘ป้าข้างบ้าน’ แต่เป็นการที่ป้าข้างบ้าน สามารถไปอยู่ในตัวทุกคนได้ คำพูดที่ร้ายกาจเป็นขีปนาวุธที่ระเบิดใจมนุษย์ จะเห็นได้ว่าสิ่งที่เล็กที่สุด อาจส่งผลให้ ทั้งโลกก็มีแต่ ‘ความสัมพันธ์ที่ล่มสลาย’ และไม่มีใครจริงใจต่อกันอีกต่อไป
“ คำพูดที่ร้ายกาจเป็นขีปนาวุธที่ระเบิดใจมนุษย์ แล้วความเลวร้ายจากคำพูดมาจากคนใกล้ตัว คนที่เรารัก และแม้แต่จากตัวเราที่ด่าตัวเราเองก็ตาม "
-
โลกแตกเพราะมนุษย์ต่างดาวบุกโลก หรือ เพราะมนุษย์เอง
อาจารย์ ดร.ณัชพล บุญประเสริฐกิจ ตั้งคำถามกับจักรวาลนี้ผ่านวรรณกรรมหลายๆ เรื่อง กับประเด็นที่ว่า มนุษย์ต่างดาวมีจริงหรือไม่ และความน่าสนใจของมนุษย์ต่างดาวต้องการบุกโลกจริงหรือเปล่า แม้ว่าจะมีการวิจัย หรืองานทดลองออกมาในหลากหลายชิ้น มีวัตถุประหลาดที่อยู่บนพื้นดิน แต่มนุษย์หรือเปล่าที่เลือกจะไม่สนใจ แปลความหมาย และเลือกที่จะสนใจแต่เรื่องของตัวเอง อาจารย์ ดร.ณัชพลยัง ตั้งคำถามถึง "Fermi Paradox" ว่าทำไมเราถึงไม่เคยพบร่องรอยของพวกมัน วรรณกรรมเรื่อง "นิวโรแมนเซอร์" เสนอแง่คิดว่า “แท้จริงแล้วสิ่งที่เป็นหายะวินาศสันตะโรแห่งจักรวาลอาจเป็นเรา เหล่ามนุษย์ที่สร้างความเดือดร้อนรำคาญ จนทำให้สิ่งทรงปัญหาอื่นทิ้งเราไว้เบื้องหลัง”
"เราอาจเป็นสิ่งมีชีวิตที่ใช้ประโยชน์จากทรัพยากรของดวงดาวอย่างไร้การดูแล สร้างผลกระทบต่อชีวิตอื่นและสิ่งแวดล้อมในระบบนิเวศ"
-
ความวินาศสันตะโรที่แท้จริงคือเจาะระบบแฮกสามัญสำนึก
ภูมิปรินทร์ มะโน สิ่งที่แฮกเกอร์ต่างกับคนทั่วไปคือ สามัญสำนึก ซึ่งปกติแล้วแฮกเกอร์เจาะเข้าไปในอุปกรณ์ หรือระบบ แต่ในปัจจุบันการแฮกนั้นง่ายขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก เพราะการเจาะที่ง่ายที่สุดคือ “ใจคน”
-
ยุคสมัยแห่งการสูญพันธ์อาจจะเมื่อมนุษย์ทำตัวเป็นภัยแก่กัน
อาจารย์ ดร.ชวธัช ธนูสิงห์ ชวนคิดกับประเด็นของโลกใบนี้ และตั้งคำถามว่า มนุษยชาติ สูญพันธ์กันไปแล้วทั้งหมดกี่ครั้งและอะไรที่ทำให้ มนุษยชาติกลับมาได้อีกครั้งเมื่อธรรมชาติเสียสมดุล จะพยายามทำให้ทุกอย่างคืนสู่สมดุลให้ได้ และหากมนุษย์เปลี่ยนแปลงโลกนี้จนเสียสมดุลโลกอาจจะต้องดำเนินการบางสิ่งเพื่อรักษามันไว้ให้ได้มากที่สุด
“ ตลอดการเดินของมนุษย์ที่นับวันจะเดินเร็วมากยิ่งขึ้น เปลี่ยนแปลงระบบในธรรมชาติ หากเรายังคงไม่มองสิ่งรอบข้างเหล่านี้ สุดท้ายคนที่อยู่ข้าง ๆ คุณ คงหายไป”
คำถามสำคัญในวันนี้คงไม่ใช่ว่าที่ผ่านมา เราพลาดอะไรตรงไหน ใครเป็นคนที่ผิดที่สุดในเรื่องทั้งหมด หากแต่คือเราจะก้าวเดินต่อไปอย่างไรให้ชาญฉลาดและไม่ซ้ำรอย
อย่างไรก็ตาม SAMYAN MUSTARD คือ แล็บทดลอง ทางไอเดียของนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยรุ่นใหม่ ที่ต้องการสร้างนวัตกรรมทางการศึกษา โดยถ่ายทอดเนื้อหา นอกห้องเรียน อันเป็นสิ่งสำคัญที่ควรตระหนักถึงในยุคปัจจุบัน จากการผสมผสานเนื้อหาให้เกิดการถกเถียงผ่าน 4 มิติการศึกษา ระหว่างศาสตร์วิทยาศาสตร์ สังคมศาสตร์ ศิลปศาสตร์และ วิศวกรรมศาสตร์
ประกาศฉบับที่ 7 รับมือ “พายุฝนฟ้าคะนอง-ลมกระโชกแรง”
วิเคราะห์ฟุตบอลโลก 2026 เกาหลีใต้ พบ ทีมชาติไทย 21 มี.ค.67
ด่วน! ศาลสั่งจำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา "ครูปรีชา" คดีฟ้องเท็จ
- คอนเทนต์พิเศษ
สำหรับคุณ - TOP ไลฟ์สไตล์
- วิดีโอยอดนิยม
