เจ้าพ่อแห่งวงการเอไอเผย “เสียใจที่พัฒนาปัญญาประดิษฐ์ขึ้นมา”

โดย PPTV Online

เผยแพร่

จอฟฟรีย์ ฮินตัน เจ้าของฉายา เจ้าพ่อแห่งวงการปัญญาประดิษฐ์” เผยรู้สึกเสียใจที่มีส่วนในการพัฒนาระบบปัญญาประดิษฐ์

ท่ามกลางกระแสข่าวที่ปรากฏออกมาเรื่อย ๆ อย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับความก้าวหน้าของเทคโนโลยี “ปัญญาประดิษฐ์” หรือเอไอ ที่หลายคนเชื่อว่าจะเป็นอนาคตของมนุษยชาติ ก็มีผู้เชี่ยวชาญออกมาเตือนอยู่เนือง ๆ เช่นกันถึงความอันตรายของมัน อย่างเช่น อีลอน มัสก์

ล่าสุด มีอีกหนึ่งคนที่ก้าวออกมาเตือนถึงความอันตรายของการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งเขามีทั้งศักดิ์และสิทธิ์ในการจะพูดเรื่องนี้ นั่นคือ “จอฟฟรีย์ ฮินตัน” ชายผู้ได้ชื่อว่าเป็น “เจ้าพ่อแห่งวงการปัญญาประดิษฐ์”

JobsDB ใช้เอไอ ช่วยนายจ้างหาผู้สมัครที่ใช่-ช่วยคนหางานพบงานที่เหมาะสม

อีลอน มัสก์ ยืนยัน “เอไอ” มีศักยภาพเป็นภัยคุกคามต่อมนุษยชาติ

เมตาว่าไง? เมื่อเอไอกำลังจะครองโลก เมตาเวิร์สกำลังจะตกยุค

ฮินตันเป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ และถูกดึงตัวให้มาทำงานกับกูเกิลตลอด 10 ปีที่ผ่านมา เขาตัดสินใจลาออกจากกูเกิล และออกมาเตือนถึงความอันตรายของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ โดยบอกว่า มันจะทำให้โลกเต็มไปด้วยข้อมูลปลอม คลิปปลอม และภาพถ่ายปลอม เกลื่อนโลกออนไลน์ รวมถึงความเป็นไปได้ที่เอไอจะเข้ามาปั่นป่วนตลาดงาน

ฮินตัน ซึ่งปัจจุบันมีอายุ 75 ปีแล้ว กล่าวว่า เขาลาออกจากกูเกิลเพื่อที่จะสามารถพูดอย่างเปิดเผยเกี่ยวกับอันตรายของเอไอ และบอกว่า “รู้สึกเสียใจ” ที่เขามีส่วนในการพัฒนาระบบปัญญาประดิษฐ์

ทั้งนี้ การศึกษาและวิจัยของฮินตัน ถือเป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาเอไอในปัจจุบัน เช่น แชตบอตอัจฉริยะ ChatGPT

เขาบอกว่า จนถึงปีที่แล้ว เขาเชื่อว่ากูเกิลเป็น “พ่อบ้านที่เหมาะสม” ในการควบคุมดูแลเทคโนโลยี แต่ภาพดังกล่าวก็เปลี่ยนไปเมื่อไมโครซอฟต์ (Microsoft) เริ่มรวมแชตบอตเข้ากับเครื่องมือค้นหา Bing ทำให้กูเกิลต้องนำเอไอของตัวเองออกมาสู้

ฮินตันบอกว่า อันตรายบางประการของแชตบอตเอไอนั้น “ค่อนข้างน่ากลัว” พร้อมเตือนว่า “พวกมันอาจฉลาดกว่ามนุษย์ในสักวันหนึ่ง” และอาจถูกผู้ไม่ประสงค์ดีนำไปใช้ประโยชน์ได้

“ตอนนี้ พวกเขาไม่ได้ฉลาดไปกว่าเรา เท่าที่ผมสามารถบอกได้ แต่ผมคิดว่าอีกไม่นาน พวกเขาอาจจะฉลาดกว่าเรา” เจ้าพ่อแห่งวงการปัญญาประดิษฐ์กล่าว

เขาเสริมว่า “ผมได้ข้อสรุปว่า ประเภทของความฉลาดที่เรากำลังพัฒนานั้นแตกต่างอย่างมากจากความฉลาดที่เรามี ... มันเหมือนกับว่าคุณมีคน 10,000 คน และเมื่อใดก็ตามที่คน ๆ หนึ่งเรียนรู้บางสิ่ง ทุกคนก็จะรู้โดยอัตโนมัติ และนั่นคือวิธีที่แชตบอตเหล่านี้สามารถเรียนรู้ได้มากกว่าใครคนใดคนหนึ่ง”

ความกังวลของฮินตันมีแนวดน้มที่จะกลายเป็นความจริง การอัปเกรดล่าสุดของเครื่องมือสร้างภาพเช่น Midjourney หมายความว่าผู้คนสามารถสร้างภาพที่เหมือนจริงได้แล้ว และในอนาคตผู้คนอาจจะไม่สามารถแยกแยะได้ว่าสิ่งใดคือความจริงอีกต่อไป หากภาพถ่าย วิดีโอ และข้อความ สามารถถูกสร้างโดยเอไอได้เหมือนจริงขึ้นเรื่อย ๆ

ฮินตันยังกังวลว่า ในท้ายที่สุด เอไอจะเข้ามาแทนที่ตำแหน่งงานบางอย่าง เช่น นักกฎหมาย ผู้ช่วยส่วนตัว และงานที่น่าเบื่อหน่ายอื่น ๆ

“คุณลองจินตนาการดู เช่น ถ้าผู้ไม่ประสงค์ดีอย่างประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูติน ตัดสินใจให้หุ่นยนต์สามารถสร้างจุดประสงค์ย่อยของตัวเองได้ขึ้นมา มันจะเกิดอะไรขึ้น เช่น ‘ฉันต้องได้รับพลังมากกว่านี้’” ฮินตันกล่าว

ด้าน เจฟฟ์ ดีน หัวหน้านักวิทยาศาสตร์ของกูเกิลกล่าวในแถลงการณ์ว่า บริษัทชื่นชมการทำงานของฮินตันให้กับบริษัทในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา “ผมมีความสุขมากกับการสนทนาหลายครั้งของเราในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ผมจะคิดถึงเขาและขอให้เขาโชคดี!”

เขาเสริมว่า “ในฐานะหนึ่งในบริษัทแรก ๆ ที่เผยแพร่หลักการของเอไอ เรายังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาเอไอภายใต้แนวทางที่มีความรับผิดชอบ เรากำลังเรียนรู้อย่างต่อเนื่องเพื่อทำความเข้าใจกับความเสี่ยงที่เกิดขึ้นในขณะเดียวกันก็สร้างนวัตกรรมอย่างกล้าหาญ”

 

เรียบเรียงจาก BBC / The Guardian

ภาพจาก AFP

คอนเทนต์แนะนำ
ตำรวจยุโรปเตือน! มิจฉาชีพอาจเริ่มใช้ AI หลอกเอาเงิน สมจริงยิ่งกว่าเดิม
กูเกิลเผยสเปก Pixel Tablet-สมาร์ทโฟน 2 รุ่น วางจำหน่าย มิ.ย.นี้
อีลอน มัสก์-ผู้นำวงการเทคโนโลยี จี้ระงับพัฒนาเอไอ หวั่นคุกคามมนุษยชาติ

Bottom-PL-HLW Bottom-PL-HLW

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

PPTVHD36

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ