5 มี.ค. 67 คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ร่วมกับ AIS เปิดการสาธิตและนำเสนอผลการพัฒนาระบบเตือนภัยผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ Cell Broadcast Service (CBS) ที่เป็นระบบการแจ้งเตือนภัยต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นภัยพิบัติ หรือเหตุไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งถือเป็นการนำเสนอและสาธิตการใช้งานครั้งแรกในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ
ส่องสถิติคนไทย ใช้จ่ายไปกับอะไรมากสุดบนโลกดิจิทัล?
ร้านดัง แชร์วิธีแก้ไขเบื้องต้น หลังไอโฟนตกน้ำ ย้ำ ห้ามนำไปแช่ข้าวสาร!
เปิดสถิติ 20 อันดับเว็บไซต์ คนไทยค้นหามากสุด ปี 66 พบเว็บ 18+ ถึง 7 อันดับ!
"กราดยิงพารากอน" จุดเริ่มต้น CBS
นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธาน กสทช. กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ ประเทศไทยมีระบบการแจ้งเตือนการรั่วไหลของแก๊สแล้ว โดยเหตุการณ์ที่จุดประกายแผนการพัฒนาระบบ CBS มาจาก เหตุกราดยิงที่ศูนย์การค้าสยามพารากอน และเหตุกราดยิงที่ จ.นครราชสีมา เมื่อปี 2563 จนกระทั่ง กสทช. ร่วมกับหน่วยงานหลายภาคส่วน ประชุมเพื่อหาแนวทางการรับมือ เช่น กรมบรรเทาสาธารณภัย ศูนย์ป้องกันภัยพิบัติแห่งชาติ เป็นต้น
กระทั่งค้นพบว่า โทรศัพท์มือถือ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนต่างมี นอกจากจะใช้ประโยชน์ส่วนตนแล้ว ยังสามารถใช้เพื่อแจ้งเตือนภัยได้ด้วย อีกทั้งทางยุโรป สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น ก็นำระบบนี้มาใช้งานอยู่แล้ว และแทบไม่มีเปอร์เซ็นต์ผิดพลาดเลย จึงเป็นที่มาของการนำระบบ CBS มาใช้
CBS ทำงานยังไง?
ระบบ CBS จะแบ่งการทำงานออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ CBE (Cell Broadcast Entity) หรือศูนย์แม่ข่าย ที่เป็นของหน่วยงานภาครัฐ โดยจะมีตัวแทนของหน่วยงานที่รับผิดชอบเหตุต่าง ๆ ดูแลระบบนี้อยู่ และ CBC (Cell Broadcast Center) ที่เป็นของเครือข่ายผู้ให้บริการสัญญาณโทรศัพท์มือถือ
เมื่อเกิดเหตุขึ้น หน่วยงานผู้รับผิดชอบ จะกรอกข้อมูลที่เตรียมส่งออกไปให้กับประชาชน 3 ส่วน ได้แก่
- Message Identify เป็นการใส่ข้อมูลว่าต้องการให้แจ้งเตือนแบบใด ซึ่งจะมี 2 แบบ คือ ETWS หรือการแจ้งเตือนเหตุแผ่นดินไหวและสึนามิ มีรูปภาพประกอบพร้อมข้อความ กับ CMAS หรือการแจ้งเตือนระดับสูงในรูปแบบข้อความอย่างเดียว รวมถึงใส่รายละเอียดต่าง ๆ เช่น หากเกิดสินามิบริเวณชายฝั่งอันดามัน ก็จะกรอกรายละเอียดของจังหวัดบริเวณชายฝั่งอันดามันลงไป โดยหน่วยงานผู้รับผิดชอบสามารถป้อนข้อมูลของจังหวัดต่าง ๆ ในแต่ละภาคลงไปได้ ทำให้สามารถแจ้งเตือนได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
- Message Content เป็นการกรอกการแจ้งเตือนเหตุแบบสั้นว่าเป็นเหตุอะไร เช่น แผ่นดินไหว สึนามิ
- GEO Code หรือ GEO Location เป็นการระบุตำแหน่งของสถานที่ที่ต้องการให้แจ้งเตือน สามารถเลือกสถานที่เฉพาะเจาะจงได้ เช่น สยามพารากอน หรือเลือกแบบกำหนดระยะทางได้ เช่น 10 กิโลเมตรจากจุดที่ปักหมุดไว้
เมื่อทางฝั่ง CBE กรอกข้อมูลทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว ข้อมูลก็จะถูกส่งมายัง CBC หรือผู้ให้บริการเครือข่าย ต่อมาผู้ให้บริการเครือข่าย จะส่งข้อมูลไปยังโทรศัพท์มือถือผ่าน SIM ซึ่งรองรับทั้ง SIM ธรรมดา และ e-SIM จากนั้นการแจ้งเตือนก็จะป๊อปอัปขึ้นมาบนหน้าจอมือถือของเรา
AIS ระบุว่า ระบบ CBS จะแตกต่างจาก SMS ทั่วไป ตรงที่ CBS สามารถเลือกได้ว่าจะให้แจ้งเตือนเป็นแบบข้อความพร้อมรูปภาพ (ETWS) หรือแจ้งเตือนแบบข้อความอย่างเดียว (CMAS) ซึ่งจะขึ้นแจ้งเตือนบนหน้าจอทันที โดยไม่จำเป็นต้องกดเปิดดู และสามารถส่งแจ้งเตือนได้แม้ว่าจะเปิดใช้งานโหมด Sleep หรือปิดเสียงอยู่ก็ตาม ยกเว้นในกรณีที่ปิดเครื่อง
ซึ่งการแจ้งเตือน นอกจากจะป๊อปอัปรูปหรือข้อความขึ้นมาแล้ว ยังมีการส่งเสียงร้องแจ้งเตือน สั่น และมีระบบ text-to-speech หรือการอ่านข้อความแจ้งเตือนออกเสียงด้วย
CBS ส่อแจ้งเตือนล่าช้า
อย่างไรก็ตาม AIS ระบุว่า การใช้งาน CBS ยังมีข้อจำกัดหลัก ๆ อยู่ 2 อย่าง อย่างแรกคือ ความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐต่าง ๆ ที่ยังต้องตกลงกันว่า หน่วยงานใดจะเป็นผู้รับผิดชอบในส่วนเหตุการณ์ไหน ซึ่งแต่ละหน่วยงานจะต้องมีผู้ที่เข้ามีควบคุมดูแลระบบ CBS โดยเฉพาะ และนอกจากหน่วยงานต่าง ๆ แล้ว ยังจำเป็นที่จะต้องมีหน่วยงานกลาง เพื่อตรวจสอบรายละเอียดของการแจ้งเตือนนั้น ๆ ว่าเป็นข้อมูลจริงหรือไม่
ทำให้เกิดข้อจำกัดอีกอย่างหนึ่งคือ ความรวดเร็วในการแจ้งเตือน ซึ่งหากต้องผ่านการส่งข้อมูลและตรวจสอบจากหลายหน่วยงาน อาจทำให้การส่งแจ้งเตือนผ่านระบบ CBS มีความล่าช้า เนื่องจากผ่านการดำเนินการทางภาครัฐหลายขั้นตอน
อีกทั้งในเรื่องของภาษา ที่จะต้องมาคำนึงว่า หากเกิดเหตุในพื้นที่ต่าง ๆ ที่มีนักท่องเที่ยวหรือชาวต่างชาติที่แตกต่างกันอาศัยอยู่ จะต้องเพิ่มการแจ้งเตือนภาษาอะไรบ้าง เพื่อให้ครอบคลุมการใช้งานทั้งในประเทศไทยและบริเวณที่ได้รับผลกระทบใกล้เคียงด้วย เช่น อาจเพิ่มภาษาเมียนมา หากเกิดเหตุในบริเวณที่ใกล้กับชายแดนเมียนมา เป็นต้น
ปีนี้ CBS มาแน่!
กสทช. ระบุว่า ขณะนี้กรรมาธิการสภา และกรรมการวุฒิสภา กำลังหารืออยู่ว่า หน่วยงานใดจะเป็นผู้กำหนดหน้าที่ไหนและทำอย่างไร เข้าใจว่าทางกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กำลังเป็นผู้ร่างระเบียบเพื่อยื่นต่อคณะรัฐมนตรีต่อไป โดยขั้นตอนนี้คาดว่าจะดำเนินการเสร็จสิ้นภายใน 3 เดือน และคาดว่าจะได้ใช้งานจริงพร้อมกันภายในปี 2567
โดยในการประชุมสหประชาชาติ ณ ประเทศสเปน ที่กำลังจะมาถึงในช่วง 8 - 12 เมษายนนี้ GSMA องค์กรกำกับดูแลมาตรฐานการสื่อสาร ก็เตรียมนำเสนอมาตรการให้ทุกประเทศ มีระบบการแจ้งเตือนภัยหรือเหตุฉุกเฉินต่าง ๆ ภายในปี 2570 ซึ่งถือว่าประเทศไทยดำเนินการเร็วกว่าที่ทาง GSMA กำหนดไว้ถึง 3 ปี
กสทช. เสริมว่า ขณะนี้ ทางเครือข่ายผู้ให้บริการ (CBC) พร้อมดำเนินการแล้ว เหลือเพียงฝั่งภาครัฐ (CBE) ที่จะต้องดำเนินการด้านต่าง ๆ ทั้งในเรื่องของหน่วยงานผู้รับผิดชอบและตรวจสอบในเรื่องของตัวบทกฎหมายต่อไป
เปิดใจ 2 ผู้เสียหาย ถูกกะเทยฟิลิปปินส์ รุมทำร้ายในซ.สุขุมวิท 11
อุกกาบาต! สดร.คาดดาวตกสีเขียวปรากฏเหนือท้องฟ้า เป็น “ดาวตกชนิดลูกไฟ”