อ่านเกมกองทัพเมียนมา ซื้อใจชาติพันธุ์ พลิกเกมรัฐประหาร
เป็นเรื่องเป็นข่าว
อนาคตเมียนมา ม็อบทั้งประเทศจะบานปลายถึงขั้นกองทัพเงื้อกำปั้นเหล็กทุบจนนองเลือดหรือไม่ เป็นเรื่องเป็นข่าวพูดคุยกับ ผศ.ดร.ฐิติวุฒิ บุญยวงศ์วิวัชร หัวหน้าโครงการศึกษาความขัดแย้งทางด้านชาติพันธุ์ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ผศ.ดร.ฐิติวุฒิ เห็นว่า รอบนี้กองทัพเมียนมามาแปลก เห็นได้จากการแถลงการณ์ของ พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ในฐานะประธานคณะการปกครองแห่งรัฐ ไม่ต้องการสร้างศัตรู แต่พยายามซื้อใจด้วยการแก้ปัญหากลุ่มชาติพันธุ์ คนพลัดถิ่นในประเทศ และโรงฮิงญา เพื่อลดกระแสกดดันจากนานาชาติ
"คณะรัฐประหารชุดนี้คือ พยายามใช้ผลงานมาแก้ความไม่ชอบธรรมจากการยึดอำนาจ พยายามทำให้ภาคธุรกิจมาเป็นพวกเขา คือการ ปิด ๆ เปิด ๆ อินเทอร์เน็ต ไม่ได้กลัวประชาชนโกรธ แต่กลัวภาคส่วนธุรกิจไม่พอใจ นี่คือการรัฐประหารเกรงใจทุนนิยมซึ่งเป็นเครือข่ายชนชั้นนำและกองทัพเมียนมา"
ผศ.ดร.ฐิติวุฒิ มองว่า รัฐประหารแบบนี้ทำให้สถานการณ์ปัจจุบันคัดง้างกันอยู่ ประเทศตะวันตกจะแซงชั่นเมียนมาก็ทำไม่สุดเพราะมีผลประโยชน์อยู่ โดยเฉพาะประเทศจากกลุ่มสแกนดิเนเวีย ทั้งธุรกิจสื่อสาร พลังงาน เครื่องจักรกลขนาดใหญ่
ขณะที่การควบคุมสถานการณ์การชุมนุม ผศ.ดร.ฐิติวุฒิ เชื่อว่า กำปั้นเหล็กยังมีอยู่แต่จะขยับเป็นขั้นเป็นตอนทีละขั้น คาดปลายสัปดาห์นี้อาจเข้มข้นขึ้น และการปล่อยตัวนางออง ซาน ซู จี หรือกลุ่มคนที่ถูกกักตัว เป็นแค่การลดเงื่อนไขทางการเมืองระดับหนึ่งแค่นั้น เนื่องจากกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วง 2 ใน 3 กลุ่ม คือกลุ่มคนรุ่นใหม่ และกลุ่มชาติพันธุ์ ก้าวข้ามนางออง ซาน ซู จี ไปแล้ว อีกทั้งการปล่อยตัวนางซู จี กองทัพอาจประเมินว่าเป็นการติดปีกให้พยัคฆ์