“ทวิตเตอร์” ยื่นฟ้องศาลแล้ว กรณี “อีลอน มัสก์” ล้มดีลซื้อกิจการ
บริษัททวิตเตอร์ยื่นฟ้อง อีลอน มัสก์ ต่อศาลรัฐเดลาแวร์ เพื่อบังคับให้เขาเข้าซื้อกิจการตามข้อตกลงเดิม
เมื่อวานนี้ (12 ก.ค.) บริษัททวิตเตอร์ เจ้าของแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียระดับโลก ยื่นฟ้อง อีลอน มัสก์ ซีอีโอเทสลา ต่อศาลรัฐเดลาแวร์ เพื่อบังคับให้เขาเข้าซื้อกิจการตามข้อตกลงเดิมที่ทำกันไว้ก่อนหน้านี้
ทวิตเตอร์ระบุในเอกสารฟ้องร้องว่า “การถอนดีลของมัสก์แบบอย่างของความหน้าซื่อใจคด” และกล่าวหาว่า ซีอีโอเทสลาได้สร้างข้อโต้แย้งด้วย “เจตนาที่ไม่บริสุทธิ์” ต่อทวิตเตอร์ และยังดำเนินการ “โจมตีและทำให้เกิดความเข้าใจผิดต่อบริษัท”
“อีลอน มัสก์” อาจถูกศาลสั่งบังคับซื้อ “ทวิตเตอร์” หลังประกาศถอนดีล
ไม่ซื้อแล้ว! “อีลอน มัสก์” ถอนดีลเข้าซื้อกิจการทวิตเตอร์
บัญชีปลอม-สแปมบอท ปัญหาของทวิตเตอร์ที่ไม่แก้ไม่ได้
มหากาพย์คู่ค้าดีลล่มระหว่างอีลอน มัสก์ และทวิตเตอร์ เป็นที่จับตามองจากทั่วโลกตั้งแต่ช่วงเดือน เม.ย. ที่มัสก์ออกมาประกาศข่าวใหญ่ว่าจะเข้าซื้อกิจการทวิตเตอร์ในราคา 54.20 ดอลลาร์สหรัฐต่อหุ้น รวมมูลค่า 4.4 หมื่นล้านบาท (ราว 1.5 ล้านล้านบาท)
แต่ในเวลาต่อมา มัสก์เริ่มตำหนิติเตียนและกล่าวหาทวิตเตอร์ในประเด็นเกี่ยวกับบัญชีปลอมและบัญชีสแปมบนทวิตเตอร์ โดยเขาอ้างว่า การมีอยู่ของบัญชีเหล่านี้เป็นภัยคุกคามต่อผู้ใช้งานทวิตเตอร์
ทวิตเตอร์บอกว่า บัญชีของผู้ใช้งานรายวันที่สร้างรายได้ได้ หรือที่เรียกว่า mDAU ในช่วงไตรมาสแรก เป็นบัญชีบอทหรือสแปมน้อยกว่า 5% แต่มัสก์ประมาณการว่า ความจริงแล้ว บัญชีบนทวิตเตอร์มีบัญชีปลอมหรือสแปมมากถึง 20% เลยทีเดียว และเขากังวลว่า ตัวเลขจริงอาจสูงกว่านี้ด้วยซ้ำ
เอกสารคำฟ้องของทวิตเตอร์ระบุว่า “มัสก์ได้ทำข้อตกลงควบรวมกิจการกับทวิตเตอร์ โดยให้สัญญาว่าจะใช้ความพยายามอย่างเต็มที่เพื่อบรรลุข้อตกลง แต่ไม่ถึง 3 เดือนต่อมา มัสก์ปฏิเสธที่จะปฏิบัติตามภาระหน้าที่ของเขาที่มีต่อทวิตเตอร์และผู้ถือหุ้น เนื่องจากข้อตกลงนั้นไม่ได้สร้างผลประโยชน์ส่วนตัวให้กับเขาอีกต่อไป”
ในข้อตกลงซื้อขายควบรวมกิจการ มีบทบัญญัติที่เรียกว่า “ข้อปฏิบัติเฉพาะ” ซึ่งศาลสามารถบังคับให้มัสก์ซื้อบริษัททวิตเตอร์ได้ ตราบเท่าที่เขามีความสามารถในการจัดหาเงินทุน
มัสก์ยังอาจถูกสั่งให้ต้องจ่ายเงิน 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3.5 หมื่นล้านบาท) เพื่อชดเชยการถอนตัวจากดีลซื้อขายกิจการ
หากมัสก์ต้องการที่จะหลุดพ้นจากข้อตกลงซื้อขายโดยไม่ต้องชดเชยหรือมีบทลงโทษ เขาก็จะต้องพิสูจน์ให้ได้ว่า ทวิตเตอร์กำลังสร้างผลกระทบในทางลบอย่างร้ายแรงต่อกิจการ หรือมีการผิดสัญญาจากฝั่งทวิตเตอร์
ดังนั้น มัสก์จะต้องหาข้อมูลและหลักฐานที่จะทำให้ศาลเชื่อได้ว่า บัญชีปลอม-บัญชีสแปม สร้างความเสียหายของทวิตเตอร์และผู้ใช้งานจริง และ/หรือทวิตเตอร์มีการผิดเงื่อนไขในการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับบัญชีปลอม-บัญชีสแปมจริง
นักการตลาดวิเคราะห์ ศึกแดงเดือด แมนยู-ลิเวอร์พูล ทำการตลาดล้มเหลว
ประธานาธิบดีศรีลังกา "โกตาบายา ราชปักษา" หนีออกจากประเทศแล้ว
เรียบเรียงจาก The Guardian
ภาพจาก AFP