TISCO กำไรไตรมาส 2/65 เพิ่ม 10.9% แตะ 1,848 ล้านบาท สินเชื่อโต-ตั้งสำรองลด
“ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป” หรือ TISCO กำไรสุทธิไตรมาส 2/65 โต 10.9% ผลจากสินเชื่อ และนายหน้าประกันภัยมีรายได้เติบโต แต่ธุรกิจเกี่ยวกับตลาดทุนรายได้ลดลง เนื่องจากความผันผวนสูง
คาดการณ์กลุ่มแบงก์ กำไรไตรมาส 2/65 แนวโน้มทรงตัว จับตาหุ้นใหญ่
คาด ADVANC พ้นจุดต่ำสุด Q2/65 ธุรกิจบรอดแบนด์บ้าน-ลูกค้าองกรค์ยังแกร่ง
วิกฤตศรีลังกา บทเรียนรัฐบาลผิดพลาด ฉุด“เศรษฐกิจพังพินาศ” ผู้นำเผ่นหนี
บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ชื่อหลักทรัพย์ TISCO แจ้งผลประกอบการงวดไตรมาส 2 ปี 2565 มีกำไรสุทธิ 1,848.13 ล้าบาท เพิ่มขึ้น 182.38 ล้านบาท หรือ 10.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันจากปีก่อน และงวดครึ่งแรกของปี 2565 มีกำไรสุทธิ 3,644 ล้านบาท เติบโต 6.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า สาเหตุจากการปล่อยสินเชื่อเพื่อการอุปโภคที่เพิ่มมากขึ้น รวมถึงธุรกิจนายหน้าประกันภัยฟื้นตัว และค่าใช้จ่ายผลขาดทุนด้านเคดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นปรับตัวลดลง
ด้านรายได้จากการดำเนินงานหลักลดลง อยู่ที่ 4,564.01 ล้านบาท หรือ -3.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากธุรกิจที่เกี่ยวกับตลาดทุนทั้งรายได้ค่านายหน้าการซื้อขายหลักทรัพย์อ่อนตัว 29% ท่ามกลางความผันผวนของตลาดทุน รายได้ค่าธรรมเนียมพื้นที่ฐานจากธุรกิจจัดการกองทุนลดลง 15.5% จากสภาวะตลาดที่ที่ไม่เอื้ออำนวย และรับรู้ผลกำไรจากเงินลงทุนลดลงเช่นกัน
โดยรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ อยู่ที่ 3,106.63 ล้านบาท ลดลง 42.35 ล้านบาท หรือ -1.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เกิดจากกาชะลอตัวของเงินให้สินเชื่อ
รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย อยู่ที่ 1,457.38 ล้านบาท ลดลง 108.28 ล้านบาท หริอ -6.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากค่าธรรมเนียมธุรกิจเกียวกับตลาดทุนชะลอตัว ประกอบด้วย
- รายได้ค่ายนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์อยู่ที่ 158.45 ล้านบาท ลดลง 64.61 ล้านบาท หรือ -29% จากปีก่อน
- รายได้ค่าธรรมเนียมธุรกิจจัดการกองทุน อยู่ที่ 392.87 ล้านบาท ลดลง 72.05 ล้านบาท หรือ -15.5% จากปีก่อน
- รายได้ค่าธรรมเนียมธุรกิจธนาคารพาณิชย์ อยู่ที่ 807.82 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 84.68 ล้านบาท หรือ +11.7% จากปีก่อน ผลจากธุรกิจนายหน้าประกันภัย เติบโต 20.2%
ธุรกิจหลักทรัพย์ ในไตรมาส 2/65 จากความผันผวนสูงของตลาดทุน ส่งผลให้รายได้ค่านายหน้าจากการซื้อขายหลักทรัพย์ อยู่ที่ 158.45 ล้านบาท ลดลง 29% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ธุรกิจจัดการกองทุน รายได้ค่าธรรมเนียมพื้นฐานอยู่ที่ 392.87 ล้านบาท ลดลง 15.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากปริมาณการออกกองทุนใหม่ และสินทรัพย์ภายใต้การบริหารลดลง รวมถึงความผันผวนของสภาวะตลาดทุนทั้งไทยและต่างประเทศ
ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน อยู่ที่ 2,127.54 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 44.58 ล้านบาท หรือ +2.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สาเหตุจากค่าใช่จ่ายผันแปรตามการเพิ่มขึ้นของรายได้และกำไร
ผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น อยู่ที่ 138.87 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งอยู่ที่ 555.35 ล้านบาท และคิดเป็นอัตราร้อยละ 0.3 ของยอดสินเชื่อทั้งหมด
สินทรัพย์รวมของบริษัท ณ วันที่ 30 มิ.ย. 2565 มีจำนวน 244,722.37 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีหนี้สินรวมจำนวน 205,471.68 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
เงินให้สินเชื่อของบริษัท ณ วันที่ 30 มิ.ย. 2565 อยู่ที่ 203,341.40 ล้านบาท ลดลง 0.1% จากไตรมาสก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 0.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน อ่อน เป็นผลจากการชะลอตัวของสินเชื่อรายย่อย
ทั้งนี้บริษัทมีค่าเผื่อขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น รวม 11,297.69 ล้านบาท ลดลง 3.8% จากสิ้นปี 2564 และมีระดับค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นต่อหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ เพิ่มขึ้น 253.1%
นายศักดิ์ชัย พีชะพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มทิสโก้ เปิดเผยว่า ในระยะข้างหน้าแม้สถานการณ์การแพร่ระบาดของ โควิด-19 จะมีทิศทางที่ดีขึ้น รวมถึงมาตรการผ่อนคลายการเปิดรับนักท่องเที่ยวจะส่งผลในเชิงบวกต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ แต่การเร่งตัวขึ้นอย่างมากของเงินเฟ้อที่มีแรงหนุนจากราคาพลังงานและราคาสินค้า จะส่งผลลบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจและทำให้รายได้ที่แท้จริงของภาคธุรกิจและภาคครัวเรือนปรับตัวลดลง นอกจากนี้การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในระยะอันใกล้นี้ ยังจะลดทอนความสามารถในการชำระหนี้ของภาคครัวเรือนโดยเฉพาะในกลุ่มเปราะบางได้ ดังนั้นจึงถือเป็นปัจจัยความท้าทายของภาคธุรกิจที่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม : คำอธิบายและวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการ TISCO งวดครึ่งปี สิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย. 2565
เปิดข้อมูลรายย่อยในไทย แห่ซื้อ LUNA ขาดทุนอ่วม 96% รวมเฉียดพันล้าน
ปั่นหุ้นหรือเปล่า? มหากาพย์คู่ค้าดีลล่ม “อีลอน มัสก์-ทวิตเตอร์”