สายการบิน-ขนส่งมวลชน รอฟื้นครึ่งปีหลัง65 ลุ้นนักท่องเที่ยวจีนกลับมาไทย
บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง เผยผ่านบทวิเคราะห์ว่า นักท่องเที่ยวชาวจีน ยังเดินทางเข้าไทยจำนวนไม่มากนัก แต่ยังคาดการณ์ว่านักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจะอยู่ที่ 8-10 ล้านรายในปี 2565 และหากนักท่องเที่ยวชาวจีน สามารถกลับมาเข้าไทยได้ก่อนสิ้นปีนี้ จะทำให้สายการบินต่าง ๆ พลิกกลับมาเป็นกำไรได้เร็วกว่าที่คาดในปัจจุบัน
ทองวันนี้ (19 ก.ค.65) เปิดตลาดราคาลง 100 บาท
TISCO กำไรไตรมาส 2/65 เพิ่ม 10.9% แตะ 1,848 ล้านบาท สินเชื่อโต-ตั้งสำรองลด
โดยการการกลับมาให้บริการของธุรกิจที่เกี่ยวกับท่องเที่ยว นโยบายการกลับมาทำงานที่ออฟฟิศ และเส้นทางใหม่ๆ ของระบบขนส่งมวลชน จะช่วยหนุนให้การเติบโตของจำนวนผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าอยากมากในปี 2566 อย่างไรก็ตาม ตอนนี้จำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่เข้าประเทศไทยยังมีเพียงเล็กน้อย สาเหตุมาจากประเทศจีนมีมาตรการกักตัวจากสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19
ขณะที่เดือน พ.ค. ไทยมีจำนวนนักท่องเที่ยวอยู่ที่ 5.21 แสนราย คิดเป็นสัดส่วน 19% ของเมื่อปี 2562
รูปแสดงปริมาณนักท่องเที่ยวต่างชาติรายเดือนปี 2565 เมื่อเทียบกับปี 2563 กับ2564
LHFG ไตรมาส 2 กำไรสุทธิ 233.3 ล้านบาท รายได้ค่าธรรมเนียมลด ตั้งสำรองพุ่ง 66.8%
ค่าเงินบาท “อ่อนค่าลงอีก” เช้านี้ ที่ระดับ 36.68 บาทต่อดอลลาร์
คาดว่าจะเห็นนักท่องเที่ยวเดือน มิ.ย. อยู่ที่ระดับ 7 แสนราย ปัจจัยหนุนจากอุปสงค์ที่ฟื้นตัวฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง ส่วนนักท่องเที่ยวขาเข้าในปี 2565 มีแนวโน้มอยู่ที่ 8-10 ล้านราย
แม้จีนยังคงมีมาตรการโควิดเป็นศูนย์ และหากรัฐบาลจีนยกเลิกเลิกมาตรการกักตัวก่อนสิ้นปี 2565 จะเป็นอัพไซต์ต่อประมาณการจำนวนนักท่องเที่ยวในปัจจุบันอีก 3-5 แสนรายต่อเดือน
ด้าน บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด หรือ AOT รายงานจำนวนนักเดินทางในเดือน มิ.ย. อยู่ที่ 4.8 แสนราย ปรับตัวเพิ่มขึ้น +595% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และ +4% จากไตรมาสก่อน และคิดเป็นสัดส่วน 45% ของ มิ.ย.ปี 2562 คาดว่าจำนวนการเดินทางทางอากาศจะยังคงฟื้นตัวในครึ่งปี 2565
รูปแสดงคาดการณ์ปริมาณนักท่องเที่ยวต่างชาติถึงปี 2566
สำหรับการใช้รถและราง ฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง จากรายงานบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด หรือ BEM เดือน มิ.ย. มีจำนวนผู้ใช้ทางเฉลี่ยอยู่ที่ 1.04 ล้านเที่ยวต่อวัน ปรับเพิ่มขึ้น +32% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น +2% จากไตรมาสก่อน รวมถึงคิดเป็นสัดส่วน 85% ของ มิ.ย. ปี 62
ด้านจำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้า MRT อยู่ที่ 2.83 แสนเที่ยวต่อวัน ปรับเพิ่มขึ้น +134% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และ +23% จากไตรมาสก่อน รวมถึงคิดเป็นสัดส่วน 91% ของ มิ.ย. ปี 62
รูปแสดงจำนวนผู้โดยสาร MRT เฉลี่ยต่อวัน
ขณะที่ BTSGIF รายงานจำนวนผู้โดยสารเฉลี่ย 4.07 แสนเที่ยวต่อวัน ปรับเพิ่มขึ้น 130% จากปีก่อน และ 21% จากไตรมาสก่อน รวมถึงคิดเป็นสัดส่วน 59% ของ มิ.ย. ปี 62 สะท้อนการฟื้นตัวยังคงแข็งแกร่ง และเป็นวงกว้าง
ซึ่งการกลับมาของนักท่องเที่ยวจะทำให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการเที่ยว สามารถกลับมาเปิดใหม่และขยายตัวได้ โดยหลายบริษัทเริ่มเปลี่ยนนโยบายจากทำงานที่บ้าน เป็นกลับมาทำงานที่ออฟฟิศ หรือทำงานที่ไหนก็ได้ จึงคาดว่าจะมีจำนวนผู้โดยสารที่ทำสถิติสูงสุดใหม่ในปี 2566
รูปแสดงจำนวนผู้โดยสารMRT เฉลี่ยต่อวัน
บล.บัวหลวง คาดการณ์กลุ่มขนส่ง BEM จะรายงานกำไรหลักไตรมาส 2/65 เติบโตทั้งจากปีก่อนและไตรมาสก่อน โดยได้รับปัจจัยหนุนจากปันผลของ CKP และจำนวนผู้ใช้ทางด่วน-รถไฟฟ้ามากขึ้น
ขณะที่ BTS กำไรไตรมาส 1/65 มีแนวโน้มลดลงจากปีก่อน สาเหตุผลดำเนินงานที่อ่อนแอของ VIG และ KEX ผลประกอบการพลิกกลับมาขาดทุน แต่จะปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า
ด้าน AAV จะรายงานผลดำเนินงานขาดทุนอีกครั้ง คาดว่าติดลบมากขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นใน Thai AirAsia แต่ติดลบน้อยลงจากไตรมาสก่อนหน้า ผลจากเที่ยวบินต่างประเทศกลับมาให้บริการอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ตลาดรับรู้การฟื้นตัวของการขนส่งในประเทศ แต่ยังไม่ใช่สำหรับกลุ่มขนส่งทางอากาศ โดยช่วงเวลาที่จีนจะกลับมาเปิดประเทศยังคงไม่แน่นอน ซึ่งหากรัฐบาลจีนยกเลิกมาตรการกักตัวสำหรับการเดินทางขาขา ราคาหุ้น AAV จะปรับตัวขึ้นแรง ดังนั้นแม้ผลดำเนินงานยังคงขาดทุน แต่ บล.หลักทรัพย์ บัวหลวง มองว่าสมเหตุสมผลที่จะสะสมหุ้น AAV เพื่อรอการฟื้นตัว
โควิดวันนี้ (19 ก.ค.65) ติดเชื้อพุ่ง 2,125 ป่วยปอดอักเสบ 803 ราย
รู้จัก! "อภิปรายไม่ไว้วางใจ" สำคัญแค่ไหน เปิด 3 ขั้นตอน วิธีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ