KBANK ยังโตต่อ Q2/65 กำไร 10,794 ล้านบาท รับรู้รายได้ดอกเบี้ย จับตาเงินเฟ้อ

TISCO กำไรไตรมาส 2/65 เพิ่ม 10.9% แตะ 1,848 ล้านบาท สินเชื่อโต-ตั้งสำรองลด

ส่องโอกาสเติบโต KBANK หลังทุ่มซื้อ ธ.แมสเปี้ยน บุกตลาดอินโดฯ

ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK รายงานผลดำเนินการของธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิไตรมาส 2 ปี 2565 จำนวน 10,794 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +21.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และลดลงจากไตรมาสก่อน 417 ล้านบาท หรือ -3.72%  โดยมีรายได้อยู่ที่ 41,511 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +2.21% จากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น +1.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีปัจจัยหลักจากรายได้ดอกเบี้ยเงินให้สินเชื่อเติบโต สอดคล้องกับการขยายเศรษฐกิจจากการผ่อนคลายมาตรการทั้งในและต่างประเทศ

คาดการณ์กลุ่มแบงก์ กำไรไตรมาส 2/65 แนวโน้มทรงตัว จับตาหุ้นใหญ่

ทั้งนี้รวมงวดแรกปี 2565 มีกำไรสุทธิรวม 22,005 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนจำนวน 2,484 ล้านบาท หรือ 12.72%

 

รายได้ดอกเบี้ย ในไตรมาส 2/65 อยู่ที่  32,012 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 0.82% จากไตรมาสก่อน ส่วนใหญ่เกิดจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ย

รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย ในไตรมาส 2/65 อยู่ที่ 9,499 ล้านบาท ลดลงราว -32% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น +7.17% จากไตรมาสก่อน ส่วนใหญ่เกิดจากได้รายสุทธิจากการรับประกันภัยเพิ่มขึ้น +108.44% แต่รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิ รายได้อื่น ๆ ลดลง

ค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงาน อยู่ที่ 18,070 ล้านบาท เพิ่มขึ้นราย +11.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 3.9% จากไตรมาสก่อน เกิดจากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายทางการตลาดร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจ ค่าใช้จ่ายพนักงาน และค่าใช้จ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศ

ทั้งนี้ ผลขาดทุนด้านเคนดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (ตั้งสำรอง) อยู่ที่ 9,852 ล้านบาท เพิ่มขึ้น+5.53% จากไตรมาสก่อน และลดลง -8.83% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

TTB ไตรมาส 2 กำไรโต 35.7% ที่ 3,438 ล้านบาท ค่าธรรมเนียมโต-สำรองลด

 

ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2565 ธนาคารและบริษัทย่อยมีสินทรัพย์รวมจำนวน 4,187,779 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 84,380 ล้านบาท หรือ +2.06% จากสิ้นปี 2564  และมีหนี้สิ้นรวม 3,642,814 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 56,949 ล้านบาท หรือ +2.57% จากสิ้นปี 2564

นางสาวขัตติยา อินทรวิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 2 ปี 2565 ยังคงเติบโตได้ต่อเนื่องจากไตรมาสแรกของปี โดยการบริโภค การลงทุนภาคเอกชน และการส่งออกขยายตัวต่อเนื่อง เช่นเดียวกับภาคการท่องเที่ยวซึ่งจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทยอยเพิ่มสูงขึ้น หลังทางการไทยผ่อนคลายมาตรการเปิดประเทศ ทั้งนี้ภาคการผลิตยังมีทิศทางอ่อนแอ เพราะต้องรับมือกับต้นทุนวัตถุดิบและพลังงานที่สูงขึ้น รวมถึงปัญหาการขาดแคลนชิ้นส่วน

สำหรับแนวโน้มในช่วงที่เหลือของปี มองว่า แม้เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวต่อเนื่อง แต่ต้องติดตามแรงกดดันจากปัญหาเงินเฟ้อที่จะมีผลกระทบต่อภาคครัวเรือน และทำให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยเข้าสู่วัฏจักรขาขึ้น อย่างไรก็ตาม ธนาคารกสิกรไทยและบริษัทย่อยเดินหน้าเชิงกลยุทธ์ด้วยการใช้เทคโนโลยี และกระบวนการใหม่ ๆ รวมทั้งการผนึกกำลังพาร์ทเนอร์เชิงพาณิชย์ในการขยายโอกาสการเข้าถึงบริการธนาคารให้กับประชาชนในวงกว้างสามารถเข้ามาอยู่ในระบบธนาคารพาณิชย์ ให้ได้รับการสนับสนุนเงินทุนและสภาพคล่อง และใช้ประโยชน์จากผลิตภัณฑ์ และบริการต่าง ๆ ของธนาคาร

 

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม : สรุปผลการดำเนินงานของ KBANK สำหรับไตรมาส 2 และงวด 6 เดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2565