ทำนายโรคจาก ตำแหน่งสิวขึ้น หมั่นสังเกต รู้ไว้ไม่เสียหาย
"รู้ไว้ใช่ว่า ใส่บ่าแบกหาม" แพทย์จีนโบราณ เขาว่ากันว่า ตำแหน่งสิวสามารถเป็นสัญญาณบ่งชี้ความผิดปกติในร่างกายได้
จากวารสารแฟชั่นต่างประเทศ ผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์และผู้ก่อตั้ง Vanguard Dermatology อธิบายว่าแพทย์ผิวหนังบางคนสามารถวินิจฉัยปัญหาร่างกายได้ด้วยเทคนิคการทำแผนที่ใบหน้าและตำแหน่งขิงสิวซึ่งว่าเป็นการแพทย์จีนโบราณที่ใช้วินิจฉัยโรคด้วย
- สิวขึ้นที่หน้าผาก ลองหันมาปรับการทานอาหารและการนอน โดยสิวที่ขึ้นบริเวณหน้าผากนั้นอาจเกิดจากระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่ายที่ไม่ดี ความเครียดสะสม นอนไม่เพียงพอ อาหารที่ทานมีคุณค่าทางโภชนาการน้อย และเป็นไปได้ที่อาจจะแพ้ผลิตภัณฑ์ที่ใช้กับเส้นผมด้วย
รู้จักกลุ่มฮอร์โมนสำคัญรักษาสมดุลร่างกายก่อน“ผิวเครียด”แก่ก่อนวัย
“กลิ่นตัว” เรื่องใหญ่ที่เราไม่ได้กลิ่นแต่คนรอบข้างถอยห่าง
- ระหว่างคิ้ว
เป็นไปได้ว่าเกิดจากระบบไหลเวียนเลือดที่ไม่ดี หรือมาจากการทานอาหารที่มีไขมันสูง หรือจากการดื่มแอกอฮอลเป็นต้น โดยสามารถแก้ได้ด้วยการดูแลผิวให้สะอาดควบคู่ไปกับการทานอาหารที่มีประโยชน์ลดของเค็มของมัน และควรดื่มน้ำระหว่างวันให้มากขึ้นด้วยนะคะ
- จมูก
จะสังเกตได้ว่าสิวที่จมูกจะมาพร้อมกับระบบขับถ่ายที่มีปัญหาอาการบวมน้ำ และระบบไหลเวียนเลือดที่ไม่ดีเป็นต้น แนะนำให้หันมาทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยเลือกทานอาหารที่มีวิตามินบีสูงและกากใยเพิ่มขึ้น อย่างเช่น ข้าวกล้อง เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน เมล็ดทานตะวัน หรืออโวคาโด้ เป็นต้น
- แก้ม
เป็นไปได้ว่าสิวที่ขึ้นตามแก้มมาจากสิ่งสกปรกที่อาจจะอยู่ตามโทรศัพท์ หน้ากากอนามัย แปรงแต่งหน้า และปลอกหมอน จึงแนะนำว่าควรเช็ดทำความสะอาด ล้างแปรงแต่งหน้า และเปลี่ยนปลอกหมอนเป็นประจำ รวมทั้งความเครียดและมลพิษที่ค้างสะสมในร่างกาย สำหรับสาวๆ ที่อยู่ในตัวเมืองและต้องเผชิญกับมลภาวะทางอากาศทุกๆ วัน แนะนำว่าให้ออกกำลังกายเป็นประจำเพื่อช่วยขับของเสียออกจากร่างกาย และควรหาเวลาผ่อนคลาย
- รอบริมฝีปาก
สิวที่ขึ้นบริเวณรอบๆ ริมฝีปาก สามารถเกิดได้เมื่อมีอาการท้องผูกและเกิดได้จากการทานของทอดหรืออาหารที่เผ็ดจนเกินไป ควรหันมาทานอาหารที่มีกากใยเพิ่มขึ้นเช่นผักและผลไม้ เพื่อที่จะช่วยให้การขับถ่ายดีขึ้น
- คาง
อาจเกี่ยวข้องกับฮอร์โมน รวมถึงสิ่งสกปรกที่มาจากการสัมผัส ดังนั้นนอกจากดูแลรักษาความสะอาดและบำรุงด้วยสกินแคร์แล้ว ควรพักผ่อนให้เพียงพอและทานอาหารที่มีโอเมก้า 3 เพิ่มขึ้น เพื่อช่วยปรับฮอร์โมนให้บาลานซ์
-
สิวบนใบหู
คือล้างแชมพูสระผมออกไม่หมด แพ้น้ำยาบำรุงผมต่างๆ หรืออาจเป็นเพราะสิ่งสกปรกจากโทรศัพท์เวลาแนบหูนั่นเอง ในกรณีที่ใครเป็นสิวอักเสบ ให้สันนิษฐานว่าสิวที่หูบอกโรคว่าไตของเราทำงานไม่ปกติ วิธีการแก้ไขขอให้พยายามเลือกกินของที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย
- สิวที่คอและหน้าอก
ความเครียด ความกังวล หมกมุ่นใจ เพราะสิวที่คอบอกโรคนี้กับหน้าอกสัมพันธ์กับการทำงานของระบบสมอง หัวใจ เวลาที่สมองทำงานหนักแล้วเกิดความกดดัน กลายเป็นความเครียดก็จะทำให้หัวใจของเราทำงานหนักตามไปด้วย คนที่มีสิวบริเวณนี้สามารถรักษาได้ง่ายๆ คือพยายามหาเวลาคลายเครียด นั่งสมาธิ ทำจิตใจให้ปลอดโปร่ง
“ทำไมสิวถึงชอบขึ้นวันสำคัญนัก” แนะวิธีรับมือสิวตัวการหน้าพัง
นอกจากนี้ เรามี 6 ทริกการดูแลผิวใสจากคุณหมอสำหรับหนุ่มๆสาวๆมาฝากด้วยนะคะ
- ก่อนอื่นต้องเริ่มต้นที่การล้างหน้า
ขั้นตอนแรกที่ควรทำพร้อมเปิดรับหน้าใส คือ ผิวหน้าจำเป็นต้องสะอาด หากปล่อยให้เกิดการตกค้างของสิ่งสกปรก อาจจะทำให้เกิดสิวอุดตันและสิวอักเสบตามมาได้ นอกจากนั้นผลิตภัณฑ์ล้างหน้าควรทำความสะอาดอย่างอ่อนโยน ไม่แห้งตึงจนเกินไปและปราศจากสารที่อาจก่อการระคายเคือง เช่น น้ำหอม
- ขจัดเซลล์ผิวเสื่อมสภาพด้วยสครับหรือกรดผลไม้
ความถี่ที่เหมาะสมในการใช้สครับ คือ 1-2 ครั้ง/สัปดาห์ เพื่อนำเซลล์ผิวเก่าออกและกระตุ้นเซลล์ผิวใหม่ขึ้นมาแทนที่ โดยเราสามารถเลือกผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนต่อผิว เช่น ครีมสครับผิวที่เม็ดสครับไม่ใหญ่จนเกินไปจนขูดขีดผิวได้ หรือบางคนอาจนิยมใช้ครีมผสมกรดผลไม้ความเข้มข้นต่ำ ทาก่อนนอน 1-2 ครั้ง ต่อสัปดาห์แทนการสครับก็ได้เช่นกัน
- เลือกครีมบำรุงผิวที่มีส่วนผสมของสารไวเทนนิ่ง
สิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้สำหรับคนที่อยากมีผิวกระจ่างใส คือ ต้องเลือกครีมบำรุงผิวให้เป็น โดยการสังเกตที่บรรจุภัณฑ์ว่ามีส่วนผสมของสารเหล่านี้ อาทิ สารกลุ่มวิตามินซี (Ethyl Ascorbic Acid, Ascorbyl Tetraisopalmitate, Ascorbyl Glucoside) วิตามินบีสาม (Niacinamide) และสารอื่นๆ ที่นิยม (Arbutin,Kojic Acid, Thiamidol, Undecylenoyl Phenylalanine, L-Glutathione, Resorcinol, Deoxyarbutin, Licorice Extract, Resveratrol, Tranexamic Acid) นอกจากการเลือกจากส่วนผสมแล้ว ความสม่ำเสมอในการใช้ หรือวินัยในการบำรุงผิวก็เป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ผิวกระจ่างใสเช่นกัน
- อย่าลืมทาครีมกันแดดทุกครั้งก่อนออกแดด
สำหรับแดดที่ร้อนของเมืองไทยแนะนำให้เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีSPF มากกว่าและมีค่าPA3+ขึ้นไป เป็นประจำทุกวันทั้งใบหน้าและผิวกาย เพื่อสุขภาพผิวที่ดีในระยะยาว
- ดูแลตัวเองกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพ
เริ่มต้นด้วยการดื่มน้ำเปล่าทุกวัน วันละ 6-8 แก้ว การทานผักผลไม้หลากสีที่อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ การเข้านอนแต่หัวค่ำ (ไม่เกินเที่ยงคืน) และการออกกำลังกายสม่ำเสมออย่างน้อยวันละ 30 นาที จะช่วยฮอร์โมนต่าง ๆ ในร่างกายมีความสมดุล ส่งผลให้การซ่อมแซมผิวพรรณเป็นปกติและมีสุขภาพดี
- ให้รางวัลตัวเองด้วยโปรแกรมปรนนิบัติผิว
อีกหนึ่งตัวช่วยของสาวๆ ในยุคปัจจุบันที่อยากมีผิวสวยแต่ไม่ค่อยมีเวลาก็คือ การทำเลเซอร์ ซึ่งก็มีให้เลือกมากมายหลายชนิด เลเซอร์นอกจากจะช่วยดูแลผิวพรรณให้ขาวกระจ่างใสแล้ว ยังช่วยย่นระยะเวลาการบำรุงผิวด้วยสารไวเทนนิ่ง หรือสามารถทำควบคู่ไปกับการบำรุงผิวเพื่อให้ผิวเปล่งประกายสุขภาพดีได้ด้วย
7 เทคนิคกู้หน้าพังหลังสงกรานต์ ทวงคืนผิวใสไร้หมองคล้ำ
“บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป” อาหารยอดฮิตเสี่ยงโรคหากบริโภคผิดหลัก
ขอบคุณข้อมูลสุขภาพภาพ : โรงพยาบาลสมิติเวช,thefashionspot