รู้จักรับมือ“ภาวะไส้ติ่งแตก”เฉียบพลันช้าเสี้ยววินาทีอันตรายถึงชีวิต
ภาวะไส้ติ่งแตกถือเป็นภัยเฉียบพลันรุนแรงอันตรายถึงชีวิตหากเข้ารับการรักษาไม่ทันภายใน24-36 ชั่วโมง แพทย์เตือนหากปวดท้องด้านล่างขวารุนแรงรีบเข้ารับการวินิจฉัยอย่างทันท่วงที ไส้ติ่งหายได้หายไวหากรู้ทัน
จากกรณีวันที่ 25 ก.ย.65 หญิงสาวรายหนึ่งได้โพสต์ลงไป TikTok @piiti99 เล่าประสบการณ์เฉียดตายจากไส้ติ่งแตก โดยระบุว่า
“23.39น. นอนไม่หลับ เล่าประสบการณ์ของเอ้ให้เป็นอุทาหรณ์ก่อนนอนแล้วกัน และไม่คิดว่าตัวเองจะถึงขั้น “เกือบตาย” ตื่นเช้ามา 6 โมงรู้สึกปวดท้อง ปวดหลัง จะอ้วกเวียนหัว หน้ามืด เหงื่อท่วมตัว ไอ้เราก็นึกว่าอาหารเป็นพิษ สรุปแม่พามาโรงพยาบาล ไส้ติ่งแตกจ้า ถ้ามาช้า 2 นาทีหมอบอกอาจจะเสียชีวิตได้ ใครมีอาการตามที่เอ้เล่าอย่าชะล่าใจนะคะ #ไส้ติ่งแตก”
ปวดท้อง "ไส้ติ่งอักเสบ" สังเกตให้เป็นก่อนเสี่ยง “แตก”
ท้องเสียไม่ธรรมดา รู้ทันก่อนเสี่ยง “ลำไส้ใหญ่อักเสบ”
หลังโพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ไปก็มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นรวมทั้งให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก ซึ่งมีสมาชิกรายหนึ่งได้แชร์ประสบการณ์เฉียดตายของตนเองด้วยเช่นกันว่า “ขอให้หายไวไวนะคะ เราเคยเป็นตอนป.3 จำได้ไม่ลืม อยู่บนขบวนรถไฟ เกือบจะทนไม่ไหว กว่าจะได้เข้าผ่าตัดรอหมอถ้าหมอมาช้า 1 นาทีคือเสียชีวิตเลย”
โรคไส้ติ่งอักเสบ (Appendicitis)
ถือเป็นอาการที่เฉียบพลันและอันตรายเสี่ยงชีวิตอย่างมาก ซึ่งในระยะแรก ร่างกายจะส่งอาการนำด้วย คลื่นไส้ พะอืดพะอม เบื่ออาหาร ต่อมาเริ่มมีอาการปวดท้อง ซึ่งมีความคล้ายคลึงกับอาการปวดท้องอื่น ๆ ทั่วไป บอกตำแหน่งได้ไม่แน่นอน ซึ่งระยะนี้อาจจะเกิดการวินิจฉัยผิดพลาดได้ โดยอาจจะมีอาการปวดแน่นบริเวณลิ้นปี่, ปวดถี่คล้ายโรคกระเพาะ, ปวดรอบสะดือตื้อ ๆ ตลอดเวลา, ปวดบีบ ๆ คลาย ๆ แบบท้องเสีย เหมือนยังถ่ายไม่สุด แต่ถ่ายไม่ค่อยมีอะไรออกมา ถ้าสังเกตดี ๆ อาการจะแตกต่างกับภาวะท้องเสียที่ถ่ายเป็นน้ำปริมาณครั้งละมาก ๆ ต่อมาจะเริ่มปวดบริเวณด้านล่างขวาขึ้นชัดเจนหรือด้านบนสำหรับสตรีมีครรภ์ติดต่อกัน (แต่ในผู้ป่วยบางรายอาจจะปวดบริเวณนี้เลยตั้งแต่แรก) การทานยารักษาตามอาการไม่สามารถทำให้หายได้ ต่อมาเมื่อมีการอักเสบมากขึ้นจะเริ่มเจ็บมากขึ้นเมื่อมีการขยับตัว เดิน ไอ จาม โดยผู้ป่วยจะมีลักษณะเดินตัวงอเพื่อหลีกเลี่ยงไส้ติ่งสัมผัสกับหน้าท้อง
ทางที่ดีหากมีอาการปวดท้องด้านล่างขวา และอาการไม่ดีขึ้นให้มาพบแพทย์อย่างเร่งด่วน ไม่เช่นนั้นอาจลามไปถึงไส้ติ่งแตกอันตรายถึงชีวิตได้
ภาวะไส้ติ่งแตก ซึ่งเป็นภาวะที่เกิดขึ้นหลังไส้ติ่งมีการอักเสบแต่ไม่ได้รับการรักษาทันท่วงที โดยหลังเกิดการอักเสบ ผนังไส้ติ่งอาจเน่าและแตกทะลุภายใน 24-36 ชั่วโมง และหากผู้ป่วยไม่ได้รับการรักษาภาวะไส้ติ่งแตกในทันที อาจอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้
อย่าคิดว่าแค่ไม่สวยจนชะล่าใจ “เส้นเลือดขอด” โชคร้ายถึงขั้นเสียชีวิต
ทำไมไส้ติ่งแตกทำให้เสียชีวิตได้
หากแก้ไขแต่เนิ่นๆ ผู้ป่วยก็จะปลอดภัยจากการแพร่เชื้อโรคของไส้ติ่งที่แตกนี้ได้ แต่ถ้ามาพบแพทย์ไม่ทันเวลาจนไส้ติ่งแตกแล้ว เชื้อโรคจากไส้ติ่งอาจแพร่กระจายและทำให้เกิดอาการแทรกซ้อนเช่นนี้ได้
- โรคเยื่อบุช่องท้องอักเสบเพราะช่องท้องคือบริเวณที่อยู่ติดกับไส้ติ่ง ทำให้การติดเชื้อในเยื่อบุช่องท้องจะแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็วเกิดเป็นการติดเชื้อในกระแสเลือด ผู้ป่วยจะมีอาการปวดท้องอย่างรุนแรง อาการจะไม่ดีขึ้นจนกว่าจะได้รับการผ่าตัดไส้ติ่งแตกนี้ออกก่อน จากนั้นแพทย์จะจัดการกับเยื่อบุช่องท้องที่อักเสบนี้อีกทีในภายหลัง ในกรณีที่ร้ายแรงหากมาพบแพทย์ไม่ทันและเชื้อโรคได้แพร่กระจายรุนแรงไปมากแล้ว การติดเชื้อส่งผลให้อวัยวะหลายอวัยวะล้มเหลวในที่สุด และในกรณีที่แย่ที่สุด คือ เสียชีวิต
- ฝีคนไข้บางรายที่ไส้ติ่งแตก อาจมีฝีเกิดขึ้นภายในช่องท้อง ซึ่งฝีที่เกิดขึ้นนี้เป็นปฏิกิริยาของร่างกาย ที่พยายามต่อสู้กับเชื้อโรคที่แพร่กระจายเข้ามานั่นเอง หลังจากไส้ติ่งแตกและทำการผ่าตัดไปแล้ว แพทย์จะทำการต่อท่อระบายหนองจากฝีนี้ออกจากร่างกาย ส่วนใหญ่ต้องใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ขึ้นไปจึงจะดีขึ้น
สาเหตุไส้ติ่งอักเสบ
สาเหตุของการเกิดไส้ติ่งอักเสบมักเกิดจากการอุดตันของไส้ติ่ง อาหารที่กินเข้าไปกลายเป็นอุจจาระแข็งตัว ทำให้แรงดันในไส้ติ่งสูงขึ้น แบคทีเรียย่อยสลายตัวเอง เกิดการอักเสบในที่สุด
แนวทางการจัดการกับไส้ติ่งแตก
ถ้าเริ่มรู้สึกว่าจะมีอาการไส้ติ่งอักเสบ ระยะเริ่มต้นแพทย์สามารถเลือกใช้วิธีผ่าตัดแบบส่องกล้อง ทำให้ลักษณะแผลเหลือแค่เล็กนิดเดียว ช่วยให้คนไข้ฟื้นตัวได้เร็วขึ้นหลังการผ่าตัดสามารถกลับไปพักฟื้นต่อที่บ้านได้โดยไม่ต้องนอนพักที่โรงพยาบาลเป็นเวลานานๆ และยังไม่มีความเสี่ยงที่เชื้อโรคจะแพร่กระจายไปอวัยวะส่วนอื่นของร่างกายด้วย แต่ถ้าผู้ป่วยมาถึงมือหมอด้วยอาการไส้ติ่งแตกมาแล้ว จะเหลือทางแก้ไขเพียงวิธีเดียว นั่นคือ การผ่าตัดแบบเปิดหน้าท้อง เพราะแพทย์ต้องผ่าตัดนำไส้ติ่งที่แตกแล้วออกจากร่างกายให้เร็วที่สุด และยังต้องทำความสะอาดช่องท้องใส่ท่อเพื่อระบายหนองจากฝีที่เกิดขึ้นด้วย หลังผ่าตัดแล้วยังต้องพักฟื้นเพื่อรอดูอาการเป็นเวลาประมาณ 1 สัปดาห์ เพื่อให้แน่ใจว่าเชื้อโรคที่เกิดจากไส้ติ่งแตกไม่ได้แพร่กระจายไปทำอันตรายในส่วนอื่นๆ ของร่างกาย และผู้ป่วยไม่มีอาการติดเชื้อหลังผ่าตัด
อย่างไรก็ตาม ไส้ติ่งอักเสบเป็นโรคที่เกิดขึ้นโดยเฉียบพลันและไม่มีทางป้องกัน การรู้เท่าทัน หมั่นสังเกตความผิดปกติ และรีบพบแพทย์ทันทีเมื่อมีอาการ จะช่วยให้ทำการรักษาได้อย่างถูกต้องและหายได้ สิ่งสำคัญที่ควรพึงระลึกอยู่เสมอคือ ไม่ควรซื้อยามารับประทานเองโดยเด็ดขาด เพราะแม้อาการจะดีขึ้นชั่วคราว แต่อาจรุนแรงยิ่งกว่าเดิมจนยากที่จะรักษา
ข้อมูลสุขภาพ : โรงพยาบาลเปาโล ,โรงพยาบาลกรุงเทพ
“กลิ่นตัว” เรื่องใหญ่ที่เราไม่ได้กลิ่นแต่คนรอบข้างถอยห่าง
รู้จักโรค "ติ่งเนื้อในถุงน้ำดี" ควรรอหรือต้องรีบรักษา