อายุเท่ากันแต่อายุผิวแตกต่างกัน?เลี่ยงปัจจัยทำร้ายผิวลดความเหี่ยวก่อนวัย
ปัจจัยผิวเหี่ยวย่นก่อนวัย ทั้งภายในและภายนอก พร้อมรู้จักกับสารต้านอนุมูลอิสระตัวช่วยชะลอวัย หาได้จากไหนและช่วยได้อย่างไร ?
เจ็บจี๊ด! เมื่อรู้ว่าคนที่อายุเท่ากันมีหน้าตาที่สดใสและดูสุขภาพดีกว่าเราไม่เหี่ยวย่น แม้ไม่ได้ผ่านการทำศัลยกรรมแต่กลับมองข้ามปัจจัยบางอย่าง ที่อาจจะกำลังสนุกกับการใช้ชีวิตเกินไปหรือไม่? ในความจริงแล้ว ความเสื่อมนั้นอาจเกิดได้ทั้งจากปัจจัยและจากปัญหาภายในร่างกาย เพราะทุกระบบทำงานเชื่อมโยงกัน ไม่ว่าจะระบบหัวใจและหลอดเลือด ระบบทางเดินหายใจ ระบบทางเดินอาหาร ระบบกระดูกและกล้ามเนื้อ รวมถึงระบบสืบพันธุ์
รู้จักกลุ่มฮอร์โมนสำคัญรักษาสมดุลร่างกายก่อน“ผิวเครียด”แก่ก่อนวัย
วิจัยพบปัญหาสุขภาพจิต-สูบบุหรี่ เป็นปัจจัยเร่งแก่ก่อนวัย แนะวิธีเอาชนะความโศกเศร้า
หากระบบใดระบบหนึ่งทำงานบกพร่องย่อมส่งผลกระทบถึงระบบอื่นๆ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และไม่ว่าจะเป็นปัจจัยภายในหรือปัจจัยภายนอกก็เกี่ยวข้องกันทั้งหมด
ปัจจัยภายใน
- พันธุกรรม เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องแน่นอน และเราอาจเลี่ยงหรือ แก้ไขไม่ได้ แต่ด้วยในปัจจุบันเทคโนโลยีทางการแพทย์ในปัจจุบันสามารถที่จะตรวจได้ลึกถึงระดับพันธุกรรมหรือระดับยีน เพื่อทราบถึงความเสี่ยงและเฝ้าระวังโรคต่างๆ โดยเฉพาะกับโรคมะเร็งชนิดต่างๆ
- อายุที่เพิ่มขึ้น ก็เชื่อมโยงกับการทำงานของระบบฮอร์โมนที่เสื่อมลง ทั้งฮอร์โมนที่เกี่ยวกับการเจริญเติบโต และฮอร์โมนเพศทั้งหญิงและชาย จึงจำเป็นที่จะต้องได้รับการตรวจเช็กเพื่อการปรับปรุงแก้ไขก่อนที่จะนำไปสู่ความผิดปกติของระบบอื่นๆ ในร่างกาย ซึ่งเชื่อมโยงกันทั้งหมด
ปัจจัยภายนอก ที่เกิดจากพฤติกรรมทำร้ายผิวของเราที่ล้วนส่งผลกระทบถึงร่างกายในระดับโมเลกุล เช่น
- การเกิดภาวะไม่สมดุลของสารต้านอนุมูลอิสระ
- การขาดแร่ธาตุและวิตามินหลายๆ
- การบริโภคอาหารที่มีสารอาหารไม่ครบถ้วนหรือไม่เพียงพอ
- การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่มากเกินไปทำให้ตับต้องทำงานหนักขึ้น
- ภาวะเครียดจากการทำงานจนนอนไม่หลับ
- การนอนดึกมากเป็นประจำก็ส่งผลกระทบกับการหลั่งฮอร์โมนต่างๆ
- รวมถึงการทำกิจกรรมกลางแจ้งไม่ว่าจะเป็นการทำงานหรือการออกกำลังกาย หากไม่ป้องกันหรือดูแลอย่างถูกวิธีก็จะส่งผลเสียทั้งในระยะสั้นและระยะยาวต่อผิวหนัง
ปัจจัยทั้งหมดนี้นอกจากจะทำให้แก่ก่อนวัยแล้ว ยังส่งผลให้ร่างกายเสื่อมโทรมลง กล้ามเนื้อฝ่อ ไขมันสะสมเพิ่มขึ้น ผิวหนังหยาบกร้าน แห้งเหี่ยว และมีริ้วรอย อารมณ์หงุดหงิดง่าย ความจำและสมาธิลดลง รวมถึงสมรรถภาพทางเพศที่อาจลดลงด้วย
เปิดวิธีดูแลผิวของทุกช่วงวัย เพราะผิวสวยไม่ใช่แค่ขาว แต่ต้องสุขภาพดี
รู้จักสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นสารที่สามารถป้องกันหรือยับยั้งปฏิกิริยาลูกโซ่ของปฏิกิริยาออกซิเดชั่นได้ ปกป้องเซลล์จากการทำลายของอนุมูลอิสระ ซึ่งถึงร่างกายของเราจะสร้างสารต้านอนุมูลอิสระเองได้ แต่นักวิทยาศาสตร์พบว่าเนื่องจากอนุมูลอิสระในร่างกายเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง จาก สภาวะความเครียดและความกดดันของร่างกาย ทำให้ร่างกายผลิตสารต้านไม่ทัน และไม่เพียงพอต่อจึงจำเป็นต้องเพิ่มหรือเสริมให้ร่างกาย
ประโยชน์ของสารต้านอนุมูลอิสระ
- ทำลายอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นในร่างกาย เป็นการปกป้องเนื้อเยื่อที่แข็งแรงของร่างกายในทุกส่วน
- ส่งเสริมความเข็มแข็งของกล้ามเนื้อและโครงสร้างของเส้นเลือดทั้งหลายในร่างกาย รวมทั้งเสริมความแข็งแรงของระบบเลือดและหัวใจโดยทางอ้อม
- เป็นยาอายุวัฒนะที่ช่วยชะลอความแก่ของผิวพรรณและร่างกาย
- มีรายงานสนับสนุนว่าสามารถป้องกันการเกิดโรคมะเร็งด้วย
สารต้านอนุมูลอิสระหาได้จากไหนบ้าง ?
- วิตามิน เอ,ซี,อี,และแร่ซีเลเนี่ยม
- ผลไม้ เช่น ลูกพรุนทั้งสดและแห้ง องุ่นทั้งสดและแห้ง ผลไม้ชนิดเบอรี่ทั้งหลาย เช่น สตอเบอรี่ ผลฝรั่งและส้มจะอุดมมากด้วยวิตามินซี ฯลฯ
- ผัก เช่น ผักบุ้ง บล็อกเคอรี่ ผักขม ฯลฯ
- พืชสมุนไพร เช่น ขิง ข่า ขมิ้น กระเทียม ฯลฯ
- ชาเขียว อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ไม่ว่าจะเป็นชาขาว ชาดำ ชาเขียว พบว่าสามารถต้านหรือป้องกันการเกิดโรคต่างๆได้ พร้อมกับการช่วยชะลออายุผิวอีกด้วย
ทั้งนี้ทางการแพทย์เชื่อว่าสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีที่สุดควรจะได้จากผักสดและผลไม้สดเท่านั้น แต่อาหารเสริมที่สามารถให้สารต้านอนุมูลอิสระ ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่กินผักและผลไม้น้อยเกินไปเช่นกัน ทั้งนี้ควรเลือกผลิตภัณฑ์จากสถานพยาบาลหรือร้ายขายยาที่เชื่อถือได้และได้รับคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้วย
ข้อมูลจาก : โรงพยาบาลพญาไท,คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
Superfood! "อะโวคาโด"ผลไม้อุดมด้วยไขมันดี-วิตามิน ลดเสี่ยงมะเร็ง
รักษารอยสิวๆได้ง่ายด้วย วัตถุดิบก้นครัว ไม่ต้องพึ่งสารเคมี