รับมืออากาศหนาวฉับพลัน สุขภาพแข็งแรง ทริปปลายปีไม่ล่ม!
หน้าหนาวนี้ น่าตื่นเต้นไม่น้อย เพราะอุณหภูมิลดต่ำในรอบหลายปี แต่อย่าหลงลืมที่จะดูแลตัวเองไม่เช่นนั้นอาจป่วยอดเที่ยวปลายปีก็ได้!
ทั่วไทยเข้าสู่หน้าหนาวและมีอุณหภูมิลดลงอย่างฉับพลัน ซึ่งหลายคนปรับตัวไม่ทัน ภูมิต้านทานลดต่ำลง โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงอย่างเด็ก ผู้สูงวัย และผู้ที่เป็นโรคประจำตัว เช่น โรคปอด โรคหัวใจ หอบหืด ถุงลมโป่งพอง และโรคที่อาจเกิดขึ้น และวิธีดูแลตัวเองให้แข็งแรงได้ ไม่กลัวโรค!
โรคติดเชื้อทางเดินหายใจ เกิดได้จากทั้งเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย
อาการเริ่มจากหวัดทั่วไป มัก มีไข้ น้ำมูก ไอ เจ็บคอ มีเสมหะ
- หากอาการไอรุนแรง อาจมีการติดเชื้อทางเดินหายใจที่บริเวณหลอดลม
สภาพอากาศวันนี้! เกือบทุกภาคอุณหภูมิลด 4-8 องศาฯ ใต้มรสุมเข้าเจอฝนถล่ม
"ปากแตก" สัญญาณเตือนสุขภาพ พร้อมวิธีแก้
- หากมีน้ำมูกข้น ปวดจมูก และระหว่างคิ้ว ได้กลิ่นลดลง มีกลิ่นเหม็น(ไซนัสอักเสบ)
- อาการปอดอักเสบ หรือปอดอาจมีติดเชื้อ มักมีอาการเหนื่อย เจ็บหน้าอก
วิธีการป้องกัน แน่นอนกว่าดูแลร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอเป็นปัจจัยสำคัญไม่แพ้กับการพักผ่อนให้เพียงพออยู่เสมอ หลีกเลี่ยงไปที่ชุมชน หรือหากต้องใกล้ชิดผู้ป่วยควรใส่หน้ากากอนามัย รวมทั้งผู้ป่วยเองก็ควรใส่หน้ากากอนามัย เพื่อลดการแพร่เชื้อสู่ผู้อื่น ทั้งนี้ควรสังเกตอาการต่อเนื่อง ภายใน 1-2 วัน หากมีความรุนแรงของอาการมากขึ้น หรือมีอาการหอบ เหนื่อย ซึมลง ทานข้าวไม่ได้ จำเป็นต้องมาพบแพทย์ทันที
โรคภูมิแพ้ หอบหืด หรือคนที่มีโรคทางเดินหายใจอยู่ก่อน เช่น ถุงลมโป่งพอง หากอากาศเปลี่ยนแปลงฉับพลันอาจทำให้ตัวโรคกำเริบได้
- อาการภูมิแพ้ คล้ายๆ กับหวัด แต่มักไม่มีไข้ มีน้ำมูกและเสมหะมีลักษณะใส เจ็บหรือระคายเคืองคอเล็กน้อย ความรุนแรงของโรคน้อยกว่ากลุ่มโรคติดเชื้อ หอบหืด หรือถุงลมโป่งพองกำเริบ อาจเริ่มจากใจ แน่นหน้าอก หอบเหนื่อย หายใจมีเสียงดัง
วิธีรับมือในช่วงอากาศเปลี่ยนแปลงฉับพลัน
- เมื่ออากาศเย็นควรใส่เสื้อผ้าให้ร่างกายอบอุ่นอยู่เสมอ
- พักผ่อนให้เพียงพอ
- ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
- คนที่มีโรคประจำตัว ควรทานยาอย่างต่อเนื่อง เพื่อควบคุมอาการของโรคเดิมให้ปกติ
- การดื่มน้ำต้มสมุนไพรเพื่อขับไล่อาการหนาวเย็นอย่าง น้ำตะไคร้, น้ำขิงอุ่นๆ, น้ำเต้าหู้, นมร้อน ที่ใส่น้ำตาลน้อยๆ
อย่างไรก็ตาม การสร้างความอบอุ่นให้กับร่างกาย สามารถทำง่ายๆด้วยการ “แอคทีฟร่างกาย” ยืดแข้งยืดขาหรือออกกำลังกายไปด้วยในตัว สำหรับการแอคทีฟร่างกายนั้น แนะนำให้ “ทำงานบ้านเบาๆ” เช่น
- การปัด กวาด เช็ด ถู
- การจัดบ้านให้เป็นระเบียบ
- จัดหนังสือบนชั้นวางให้เข้าที่
- รดน้ำต้นไม้
หากเป็นผู้สูงอายุที่อยู่ต่างจังหวัด ก็สามารถใช้งานประจำอย่าง การทำไร่ทำนา หรือถอนหญ้าหน้าบ้าน ที่สามารถเป็นทั้งอาชีพและออกกำลังไปในตัว
อากาศเย็นไมเกรนถามหา แนะวิธีรับมือลมหนาวป้องกันโรคอันตราย
นอกจากนี้ยังต้องระมัดระวัง ฝุ่นพิษขนาดเล็ก ไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือที่เรียกว่า ฝุ่นละออง PM 2.5 เกิดขึ้นเมื่ออากาศนิ่ง ไม่ถ่ายเท ทำให้ฝุ่นสะสมอยู่ในอากาศจำนวนมาก “ฝุ่น” ยิ่งขนาดเล็กยิ่งอันตราย เพราะสามารถเข้าสู่ทางเดินหายใจ และปอดได้โดยตรง สามารถนำเชื้อโรค สารพิษ หรือแม้กระทั่งสารก่อนมะเร็งเข้าสู่ปอด โดยปัญหามลพิษทางอากาศอาจกลับมาอีกครั้ง หากสภาพอากาศยังไม่คงที่
แพทย์แนะนำผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ ควรหลีกเลี่ยงการอยู่กลางแจ้ง ส่วนบุคคลทั่วไป โดยเฉพาะเด็กและผู้สูงอายุ ไม่ควรทำกิจกรรมภายนอกอาคารเป็นเวลานาน หรือป้องกันโดยการสวมหน้ากากอนามัยชนิดN95 ที่สามารถป้องกันฝุ่นละออง PM 2.5 ได้ดีกว่าหน้ากากอนามัยทั่วไป
ข้อมูลจาก : โรงพยาบาลพญาไทและกรมสุขภาพจิต
หน้าหนาว “ผิวแห้งกร้าน” หยุดเกา-เลี่ยงอาบน้ำอุ่น ก่อนโรคผิวหนังถามหา
ทำไมไม่ควรอาบทุกวัน! ผู้เชี่ยวชาญเผยอาจทำร้ายผิวลดทอนภูมิคุ้มกันโรค